นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์วันนี้ (23 ก.ค.) แสดงความไม่พอใจจากการที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลว่าตนน่าจะมีความผิดในคดีการเมือง 2 คดี ภายในเวลาเพียง 1 เดือน จึงตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเร่งรัดคดีของตนหรือไม่
"ดิฉันได้เห็นข่าวที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดเรื่องดำเนินการจัดนิทรรศการ การสัมมนา และการโฆษณาประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ 'โครงการ Roadshow สร้างอนาคตไทย Thailand 2020' วงเงิน 240 ล้านบาท โดยมิชอบนั้น ทำให้ดิฉันเกิดความสงสัยและขอตั้งข้อสังเกตกับ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า มีความขยันในการเร่งรัดคดีดิฉัน ฝ่ายเดียว เพราะภายในเดือนนี้เดือนเดียว ป.ป.ช. ก็มีการชี้มูลความผิดกับดิฉัน ถึง 2 คดีติด ๆ กัน" นางสาวยิ่งลักษณ์ โพสต์
"วันที่ 1 ก.ค. 2563 ชี้มูลเรื่องการใช้อำนาจโอน นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำโดยมิชอบ และเมื่อวานที่ผ่านมาก็ถูกชี้มูลในคดีนี้อีก"
อดีตนายกรัฐมนตรีรายนี้โพสต์ต่อไปว่า ป.ป.ช. กลับไม่เคยตรวจสอบคนในรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เลยแม้แต่คดีเดียว
"ผิดกับคดีที่ฝ่ายรัฐบาลปัจจุบันถูกร้อง และขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ดูเหมือน ป.ป.ช. จะให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลปัจจุบันมากเป็นพิเศษในหลายคดี ทั้ง ๆ ที่เป็นคดีที่สังคมเกิดข้อกังขาและตั้งข้อสงสัยมากมายกับการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.และผลการพิจารณาหลายคดี ก็ค้านกับความรู้สึกของประชาชน" นางสาวยิ่งลักษณ์ โพสต์
นางสาวยิ่งลักษณ์อธิบายต่อไปว่า เรื่องเกี่ยวกับการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (เลขาฯ สมช.) ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีนั้น ตนไม่ได้กลั่นแกล้งนายถวิลเลย และการโยกย้ายข้าราชการก็เป็นอำนาจของฝ่ายบริหารอยู่แล้ว ซึ่งก็เกิดขึ้นบ่อยครั้งในสมัย พล.อ.ประยุทธ์ เช่นกัน แต่กลับไม่เห็น ป.ป.ช. เคยตรวจสอบ เพราะมีมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 คุ้มครอง
อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ต่อไปว่าการนำเงินมาทำโรดโชว์ ก็เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่า เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่รัฐบาลของตนจะออกกฎหมายมาเปิดช่องให้กู้เงินได้นั้น เป็นประโยชน์กับประเทศอย่างไร และยังมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนด้วย แต่รัฐบาลชุดปัจจุบันกลับทำโครงการคล้ายกันโดยใช้เงินถึง 3 ล้านล้านบาท ซึ่งมากกว่ารัฐบาลของตน จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใด ป.ป.ช. ถึงไม่เคยตรวจสอบเลย
" ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านเป็นโครงการที่ทำให้เกิดการรับรู้และรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ไม่มีเรื่องทุจริตประพฤติมิชอบใด ๆ ต่อมารัฐบาลชุดปัจจุบันก็นำโครงการนี้มาดำเนินการต่อ และวันนี้รัฐบาลปัจจุบันก็จำเป็นต้องออกนโยบายโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน ซึ่งมากกว่ารัฐบาลดิฉันโดยปราศจากการท้วงติงหรือการตรวจสอบจาก ป.ป.ช."
นางสาวยิ่งลักษณ์ ทิ้งท้ายว่า วันนี้ตนมาใช้ชีวิตในต่างประเทศในฐานะคนทั่วไป แต่ยังถูก ป.ป.ช. เร่งรัดคดี จึงอดคิดไม่ได้ว่าเพราะตนเป็นนักการเมืองหรือไม่ จึงถูกความยุติธรรมเลือกข้าง ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็เชื่อว่าสักวันประชาชนก็จะหมดศรัทธาต่อตัว ป.ป.ช. ไปด้วย
"ดิฉันไม่อยากให้ความยุติธรรมต้องเลือกข้าง ความยุติธรรมต้องไม่เหลื่อมล้ำ ถ้าเป็นนักการเมืองหรืออดีตนักการเมืองฝ่ายหนึ่งทำอะไรก็ผิดเสมอ แต่อีกฝ่ายทำอะไรไม่ผิดเลย ซึ่งขัดต่อหลักนิติธรรมเสียแล้ว ไม่วันใดก็วันหนึ่งความศรัทธา ความเชื่อมั่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. อาจหมดสิ้นไป"
ขอขอบคุณ
ภาพ :PORNCHAI KITTIWONGSAKUL / AFP