เมื่อสาวชาวกรุง หลงรักแฟชั่นเด็กดอย (2)

 

อิฉันกลับมาอีกครั้งกับหัวข้อ "เมื่อสาวชาวกรุง หลงรักแฟชั่นเด็กดอย" ครั้งนี้เป็นตอนที่ 2 แล้ว จากบทความที่ผ่านมาอิฉันเห็นมีเสียงตอบรับอย่างดี วันนี้จึงนำ "เครื่องประดับผม" เวอร์ชั่นเด็กดอยมาแนะนำกันเพิ่มเติม หวังว่าคงจะเป็นที่ชื่นชอบของคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ

เข้าเรื่องกันดีกว่า อย่างที่บอกไปว่าฉันเป็นสาวชาวกรุงที่หลงรักแฟชั่นเด็กดอยเป็นยิ่งนัก นอกจากเสื้อผ้่า รองเื้ท้า และกระเป๋าแล้ว ยังมีเครื่องประดับผมอีกอย่างที่ฉันชื่นชอบมากเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะเป็นคนผมยาวแล้ว อากาศบ้านเราก็ร้อนจนปล่อยผมยาวสลวยไม่ค่อยได้ (สลวยเหรอ?...) ฉะนั้นฉันจึงจำเป็นต้องมีตัวช่วย นั่นก็คือ "ที่รัดผม" เอาไว้ใ้ช้ยามจำเป็น แต่ก็นะ... หากคนอินเทรนด์ (อยู่ในรถไฟ) อย่างฉันจะใช้ที่รัดผมแบบธรรมดา มันก็ออกจะธรรมด๊า ธรรมดาเกินไป (แน่ล่ะสิหล่อน!!!) ฉะนั้นฉันควรเพิ่มความแปลกใหม่+ไม่ซ้ำใคร+สวยใส+ไำร้สติให้กับตัวเองอีกนิด ด้วยที่รัดผมรุ่น "เด็กดอย"

เอาล่ะ... เีรามาดูที่รัดผมที่ว่ากันดีกว่า ชิ้นแรกเป็นที่รัดผมที่ทำมาจากผ้าแบรนด์ "ดอยตุง" แน่นอนจะต้องมีลูกปอมปอมที่ฉันชื่นชอบประัดับอยู่ด้วย ลูกปอมปอมของที่รัดผมอันนี้ไม่ธรรมดา เพราะมีการเล่นสีโดยการใช้ไหมพรมสีแดงและสีชมพู เรื่องของเรื่องนี่คือฉันเพิ่งได้รับที่รัดผมอันนี้ มาเป็นของขวัญปีใหม่จากบัดดี้คู่ใจ หลังจากเคยไปซื้อของด้วยกันที่ร้านดอยตุงและชี้ให้ she ดูว่าที่รัดผมอันนี้น่ารักจริงๆ แบบว่าอยากได้ แต่การไปครั้งนั้นฉันไม่ได้ซื้อกลับมา เพราะกะว่าอยากจะรอซื้อตอนมีจัดลดราคา (ก็อิฉันเป็นคนชอบของ Sale นี่คะ) ที่ไหนได้... พอมาืออฟฟิศ คุณบัดดี้ได้จัดหาของสิ่งนี้มาเป็นบรรณการแก่อิฉันเนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ โอย... จะบอกว่าเป็นของขวัญปีใหม่ที่ชอบมากๆ แล้วก็แอบชื่นชมว่าเพื่อนเราช่างสังเกตจริงๆ... ขอบใจเจ้า

ชิ้นต่อมานี่ภูมิใจนำเสนอมาก เพราะไอเดียเด็ดจริงๆ มันเป็นที่รัดผมดีไซน์เก๋ที่ทำจากผ้าพื้นเมือง (ผ้าเก่า) ผสมผสานด้วยลูกปอมปอมและลูกปัดเม็ดเล็กๆ ลักษณะจะเป็นแท่งๆ ข้างในมีเส้นลวดเล็กๆ ใส่ไว้ เพื่อให้สามารถมัดผมได้ในแบบที่ต้องการ โดยเวลามัดก็เพียงแค่เอาแท่งที่ว่ามาพันรอบมวยผมที่ทำไว้แล้ว (ดังภาพตัวอย่าง) จะบอกว่าคุณจะได้ทรงผมที่ดูเก๋กู้ดมากๆ iTEM ชิ้นนี้ใครเห็นใครก็ชอบ นอกจากนี้มันยังเป็นอีกหนึ่ง iTEM ที่ฉันได้มาจากงาน OTOP รุ่้นเดียวกับที่ซื้อรองต๊ะเด็กดอยมานั่นล่ะ (ติดตามอ่านได้ในตอนที่ 1) สนนราคาอยู่ที่ 150 บาท แต่ฉันได้ลดราคานิดหน่อย พอดีฉันเป็นคนชอบต่อรองอ่ะนะ อิอิ

(Tip สำหรับนักช็อป: หากคุณไปงาน OTOP และต้องการ iTEM เด็กดอยที่ฉันแนะนำมาทั้งหมด คุณสามารถไปหา iTEM ดังกล่าวได้ที่โซนภาคเหนือ โดยเฉพาะของจังหวัดเชียงใหม่-เชียงราย คุณจะเจอ iTEM เหล่านี้แน่นอนค่ะ)

เครื่องประดับผมที่กิ๊บเก๋ ดูแปลกตาไม่เหมือนใครทั้งสองชิ้นนี้ ราคาชิ้นละไม่เกิน 150 บาท เรียกได้ว่าเป็นราคาที่ไม่สูงนักเมื่อเทียบกับคุณภาพและดีไซน์ นอกจากนี้ยังเป็นสินค้าที่ผลิตภายในประเทศเราด้วย สินค้าจากโครงการดอยตุงและสินค้าของกลุ่มชาวบ้านจากงาน OTOP เป็นสินค้าที่ฉันให้ความสนับสนุนเสมอมา เพราะถือว่าเป็นสินค้าคุณภาพดีของคนไทย โดยเฉพาะสินค้าจากดอยตุงที่มีความโดดเด่นทางด้านดีไซน์มาก เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่สามารถนำวัสดุในประเทศมาผลิตสินค้าให้ออกมาเป็นที่ยอมรับในระดับสากลได้ อีกอย่าง... หากเราไม่ช่วยอุดหนุนคนไทยด้วยกัน แล้วเราจะไปอุดหนุนใคร... จริงมั้ยคะ?

พบกับ iTEM ใหม่คราวหน้า ขอเวลาอิฉันไปรื้อกองสมบัติืก่อนค่ะ สะสมไว้เยอะค่ะ... บายๆ  Tongue out