แก้ปัญหา...ลูกฉี่รดที่นอน
ปัสสาวะรดที่นอน เป็นปัญหาที่พบบ่อยในวัยเด็ก ประมาณ 15% พบปัญหานี้ในเด็กที่มีอายุประมาณ 5 ขวบ และพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง ซึ่งเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากพัฒนาการที่ช้ากว่าปกติของระบบประสาท และปัญหานี้จะค่อยๆ ลดลงไปเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญโรคไตในเด็ก เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างความจุของกระเพาะปัสสาวะเด็กปกติ และเด็กที่มีปัญหาปัสสาวะรดที่นอน พบว่า เด็กที่มีปัญหาปัสสาวะรดที่นอน มีความจุของกระเพาะปัสสาวะน้อยกว่าเด็กปกติ
และจากการศึกษาปัญหาปัสสาวะรดที่นอน พบว่า ปัญหานี้จะยุติลงได้ต่อเมื่อมีการฝึกขับถ่ายปัสสาวะ หรือได้รับการรักษาที่ต่อเนื่อง โดยอาศัยความร่วมมือจากพ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และตัวเด็ก
วิธีการแก้ไขสามารถกระทำได้โดย การปลุกด้วยเสียงดัง หรือการเขย่าตัวเด็กให้ตื่นเมื่อปัสสาวะรดที่นอน เรียกวิธีการนี้ว่า ALARM TREATMENT โดยการปลุกด้วยเสียงดัง หรือการเขย่าตัวเด็กให้ตื่น จะส่งผลให้กระเพาะปัสสาวะขยายตัวใหญ่ขึ้น ในช่วง 2 สัปดาห์
ก่อนลงมือปฏิบัติวิธีการนี้ จะต้องชี้แจงให้เด็กทราบถึงเหตุผลในการปฏิบัติ และขอความร่วมมือช่วยกันสังเกต และบันทึกจำนวนครั้ง ของการขับถ่ายปัสสาวะรดที่นอนในหนึ่งคืน วัดความกว้าง หรือเส้นผ่าศูนย์กลางของบริเวณที่เปียกจากการปัสสาวะรดที่นอนโดยประมาณ เพื่อเปรียบเทียบภายหลังที่ลงมือปฏิบัติ และต้องกระทำติดต่อกันอย่างน้อย 3 เดือน วิธีนี้จะช่วยให้หายได้โดยใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 3 สัปดาห์ภายหลังการปฏิบัติ
ขั้นตอนในการทำ ALARM TREATMENT
บอกวัตถุประสงค์ให้เด็กทราบก่อนลงมือปฏิบัติ
ให้เด็กถ่ายปัสสาวะในห้องน้ำก่อนเข้านอนทุกครั้ง
จัดห้องนอนของเด็กให้อยู่ใกล้ห้องน้ำ เพื่อสะดวกในการขับถ่าย
งดการดื่มน้ำ หรือนม ก่อนเข้านอน เพื่อทำให้กระเพาะปัสสาวะว่าง
เมื่อเด็กถ่ายปัสสาวะรดที่นอน ให้ปลุกเด็กด้วยเสียงดัง หรือเขย่าตัวเด็กให้ตื่นทุกครั้ง
สังเกตและบันทึกจำนวนครั้งของการขับถ่ายปัสสาวะรดที่นอนในหนึ่งคืน และวัดความกว้าง หรือเส้นผ่าศูนย์กลางของบริเวณที่เปียกจากการปัสสาวะรดที่นอนโดยประมาณ เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับครั้งก่อนๆ
ทำความสะอาด และเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เด็กภายหลังการปัสสาวะรดที่นอนทุกครั้ง
ต้องปฏิบัติติดต่อกันเป็นประจำ จนกว่าเด็กจะหาย
หลีกเลี่ยงการลงโทษเด็ก และการใช้ถ้อยคำดุด่า หรือหยาบคายกับเด็ก
ขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือพิมพ์คมชัดลึก