กระตุกต่อม"ดราม่า"เตาะแตะ

กระตุกต่อม"ดราม่า"เตาะแตะ

กระตุกต่อม"ดราม่า"เตาะแตะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Q. ตอนนี้ลูกชายอายุ 2 ขวบกว่าๆ เริ่มนิสัยงอแงเวลาโดนขัดใจ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่พ่อแม่จะตามใจเขาได้ตลอด แม้ปู่ย่าตายายพร้อมจะตามใจทุกอย่าง ไม่อยากเห็นลูกเป็นเด็กเอาแต่ใจ จะทำอย่างไรได้บ้าง

การไม่อยากเห็นลูกกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจ (เพราะคุณขัดใจลูกได้) เป็นเรื่องดีค่ะ แต่หากคุณไม่ชอบอาการร้องไห้งอแงของลูกและมองว่าลูกไม่ควรมีพฤติกรรมอย่างนี้ ก็น่าเห็นใจเด็กๆ นะค่ะ เพราะที่จริงแล้วอาการงอแง โวยวายเวลาโดนขัดใจนี้เป็นพฤติกรรมตามวัยซึ่งโตขึ้นอาการเหล่านี้จะหายไป แต่ความสำคัญอยู่ที่พฤติกรรมนี้จะหายไปแบบที่ลูกได้เรียนรู้พฤติกรรมเหมาะสมเข้ามาแทน หรือจะเปลี่ยนเป็นเอาแต่ใจตัวเองในแบบมีเหลี่ยมมุมมากขึ้น ก็ขึ้นอยู่กับคุณค่ะ

เข้าใจต้นเหตุอาการ"ดราม่า"

ต้นเหตุเอาแต่ใจของลูกวัยนี้ เพราะธรรมชาติของเด็กวัยเตาะแตะจะยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง และเขายังไม่มีความสามารถจัดการอารมณ์ของตัวเองได้ เมื่อลูกวัยเตาะแตะโกรธหรือไม่พอใจ จึงระบายออกด้วยการร้องไห้หรืออาละวาดโวยวายซึ่งถ้าทำแล้วได้รับในสิ่งที่ต้องการทันที ก็จะทำให้ลูกเข้าใจว่าทุกครั้งที่ร้องไห้ โวยวายเขาจะได้รับสิ่งที่ตัวเองต้องการ

3 ต้นเหตุสะกิดต่อมดราม่าควีนส์

ถูกขัดจังหวะ : แหม...กำลังเล่นอยู่สนุกๆ แม่บอกให้เลิกก็จะให้ลุกปั๊บ ก็..กรี๊ดดดสิแล้วคุณแม่ก็เกิดคำถาม “แค่ให้เลิก
เล่นถึงกับอาละวาดเลยเหรอ”วัยเตาะแตะต้องการรู้ตัวล่วงหน้าและเวลาในการประมวลผลคำพูดของผู้ใหญ่ การให้เขาเลิกสิ่งที่สนใจตรงหน้าและไปทำอีกอย่างหนึ่งทันทีจึงกลายเป็นการขัดจังหวะอารมณ์มากกก
ก่อนขัดจังหวะ : ควรบอกให้ลูกรู้ตัวล่วงหน้าสักเล็กน้อย ในแบบที่เด็กเล็กเข้าใจได้ เช่น “ลูกเล่นได้จนแม่ล้างจานเสร็จแล้วไปอาบน้ำกันนะ” ถ้าบอกเป็นเวลาลูกวัยนี้ยังไม่เข้าใจ หรือเบี่ยงเบนโดยใช้ความสนุกมาดึงความสนใจก็ได้

ถูกขัดใจ : อยากได้ของเล่นสักชิ้นหรือขนมสักห่อแต่แม่ไม่ยอมให้ เท่านี้ก็กรี๊ดห้างแตก น้ำหูน้ำตาไหลเป็นทาง
หรือลงไปนอนชักดิ้นชักงอบนพื้น งานนี้ถ้าใจไม่แข็งพอรับรองได้เสียทรัพย์แน่ๆ
ก่อนโหมพายุใส่ลูกกลับ : สงบสติอารมณ์ตัวเองก่อน ไม่ต้องแคร์สายตาคนอื่น ถ้าปล่อยให้ความอายกดดันคุณสำเร็จยอมควักกระเป๋าทุกครั้งที่ลูกแผลงฤทธิ์ ทั้งลูกและคุณก็ไม่ได้เรียนรู้อะไร สงบสติอารมณ์ของคุณได้แล้วให้อุ้มลูกออกไปจากตรงนั้น โดยไม่ต้องพูดหรือเจรจาอะไรทั้งสิ้นเพราะจะกลายเป็นแรงเสริมให้เขาร้องโวยวายต่อไปมีเวลาคุยกันอีกมาก เมื่อพายุสงบแล้วค่ะ

ทำเองไม่ได้ : เพราะอวัยวะและทักษะการใช้งานกล้ามเนื้อต่างๆยังพัฒนาไม่เต็มที่จะหยิบจะจับอะไรก็หก หล่น ช้า
และยังมีคนมาแย่งทำให้อีกแบบนี้จะไม่ให้ลูกหงุดหงิดได้อย่างไรละ
ก่อนจะรีบช่วยเหลือ : ปล่อยให้ลูกได้ลงมือทำเองบ้าง ดูแลให้ปลอดภัยก็พอ เช่น กินอาหารเอง เทน้ำใส่แก้วสวมเสื้อผ้าหรือเข้าไปช่วยเฉพาะเวลาที่เขาต้องการความช่วยเหลือเท่านั้นและควรเผื่อเวลาไว้สำหรับเหตุนี้ด้วย หากรู้ว่าต้องไปธุระ

ภาพประกอบจาก http://www.thinkstockphotos.com/

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook