ลดรอยแผลขรุขระ

ลดรอยแผลขรุขระ

ลดรอยแผลขรุขระ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หน้าตาและผิวพรรณที่นวลเนียน สดใส ปราศจากร่องรอยของแผลขรุขระ เป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจในแรกพบ แต่หากเกิดรอยแผลจนทำให้ผิวหน้าขรุขระ คงทำให้คุณตกใจ และเป็นกังวลไม่น้อยใช่ไหมคะ เผลอ ๆ ไม่อยากออกไปพบหน้าใคร ๆ .ให้เขาเห็นร่องรอยของแผลเป็นที่ขรุขระ นั่นอาจทำให้หลายคนขาดความมั่นใจไปไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ มีเด็กสาววัยรุ่นมาหาหมอ เพื่อจะรักษาสิวบนใบหน้า หมอเห็นหน้าของเธอแล้วตกใจมากเพราะเต็มไปด้วยรอยช้ำที่เกิดจากการบีบเค้นเอาหัวสิวออก จนหน้าปรุไปเลย มีทั้งรอยแผลเก่าแผลใหม่ เด็กสาวบอกกับหมอว่า ที่หนูบีบสิวเพราะรำคาญ พอมันเยอะก็เลยเพลิน พี่ช่วยบีบบ้าง เพื่อนบ้างมันก็กลายเป็นแบบนี้ แล้วสิวก็ไม่เห็นจะหายเลย หมอเห็นสภาพผิวพรรณแล้วเสียดายจริง ๆ แล้วเด็กสาวคนนี้ผิวดีมากดูได้จากเนื้อตัวที่มีผิวขาวนวลเนียน แต่ผิวหน้าคงต้องใช้เวลารักษากันนานพอสมควรค่ะ คุณจึงควรสนใจและรู้จักวิธีการป้องกัน เพื่อไม่ให้ใบหน้าใส ๆ ของคุณเกิดริ้วรอยแผลขรุขระ มาดูกันว่ารอยแผลขรุขระบนใบหน้านั้น เกิดขึ้นได้จากสาเหตุใดบ้าง 1. รอยแผลเป็นจากสิว อาจเกิดจากการบีบ แกะ หรือเค้นสิว ซึ่งทำให้เนื้อเยื่อช้ำ และเกิดแผลได้ 2. เกิดรอยแผลจากการได้รับอุบัติเหตุ 3. เกิดรอยแผลจากโรคอีสุกอีใส เมื่อเก็ดรอยแผลขรุขระบนใบหน้าแล้วอย่ามัวนิ่งเฉยอยู่นะคะควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยเฉพาะ แพทย์จะตรวจลักษณะความตื้นลึกของรอยแผลเพื่อทำการรักษาและแก้ไขให้ดีขึ้นอย่างถูกวิธี วิธีการรักษาลดรอยแผลขรุขระบนใบหน้าสามารถทำได้หลายวิธีค่ะ 1. การใช้ยาทา แพทย์อาจพิจารณาใช้ยาทา ในกรณีที่เป็นไม่มากนัก หรือใช้ร่วมกับวิธีอื่น ๆ ยาที่ใช้มักเป็นยาในกลุ่มวิตามิน A โดยตัวยาจะไปกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ ทำให้รอยแผลตื้นขึ้น 2. การจี้ด้วยน้ำยา TCA เพื่อกระตุ้นให้รอยแผลมีการสร้างเซลล์ หลังการจี้จะเกิดสะเก็ดดำ ๆ อยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วจึงหลุดไปเอง ห้ามแกะนะคะ 3. รักษาด้วย ไอออนโต (IONTO) เป็นการใช้กระแสไฟฟ้าขับตัวยา ซึ่งนิยมใช้ คือกล่มวิตามิน A เข้าไปในผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างใยคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ เพื่อให้รอยบุ๋มตื้นขึ้น 4. การรักษาด้วย โฟโน (PHONO) เป็นการใช้คลื่นเสียงขับยาเขาไปในผิวหนัง โดยใช้ยาในกลุ่ม วิตามิน A บำรุงและสร้างใยคอลลาเจน 5. การรักษาด้วยวิธี MD (MICRODERMABRASION) เป็น การผลัดผิวใหม่โดยใชัเครื่องมือพ่นผงคริสตัลลงไปยังผิวหน้า เพื่อขัด ผิวส่วนคราบไคล และหนังกำพร้าชั้นบนออกไป แล้วจึงใช้ตัวยาเร่งการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทน ช่วยให้รอยบุ๋มตื้นขึ้น 6. การรักษาด้วยวิธีการกรอแผลโดยใช้เครื่องเลเซอร์ ช่วยให้รอยบุ๋มตื้นขึ้น แต่ต้องใช้เวลาในการรักษาแผลค่อนข้างนาน 7. การฉีดสารสังเคราะห์โดยแพทย์ จะฉีดสารวสังเคราะห์ เช่น อาติคอล หรือสาร HA เข้าไปในรอยแผล เพื่อให้รอยแผลเต็มขึ้น การรักษาทุกวิธีที่กล่าวมาแล้วข้างต้นหมอจะเป็นผู้พิจารณาเองว่าสภาพผิวหน้าของคุณควรที่จะใช้วิธีแบบไหนที่จะสามารถช่วยให้รอยแผลตื้นขึ้นและดีขึ้น แต่อาจจะไม่หายไปในทันทีทั้งหมด ซึ่งในการรักษาคงตองใช้เวลานานพอสมควรและความอดทนต้องเป็นเลิศระยะหนึ่งและเพื่อให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้น คุณควรปฏิบัติตัวหลังการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ ดังนี้ 1. ควรพยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ๆ เนื่องจากในระยะนี้ผิวจะไวต่อแสงแดดมากขึ้น อาจทำให้หน้าแดงบ้าง และควรทาครีมกันแดดเป็นประจำตามคำแนะนำของแพทย์ 2. ก่อนใช้ยาหรือเครื่องสำอางบางประเภทควรปรึกษาแพทย์ ทุกครั้ง อย่านำมาใช้เองโดยพลการ 3. ควรมาพบแพทย์ตามนัด เพื่อแพทย์จะได้ทำการรักษาอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง 4. ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีขึ้น ในการรักษาเพื่อลดรอยแผลขรุขระบนใบหน้า อาจเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้บ้าง เนื่องจากตัวยาที่ใช้บางชนิด อาจทำให้รู้สึกระคายเคืองต่อผิวหน้า ผิวลอกเป็นขุยเล็กน้อย หรือผิวแดงง่ายขึ้นเวลาถูกแดดจัด ซึ่งแพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลหรือให้ยาเพื่อลดอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ การรักษารอยแผลเป็นจากสิว นอกจากวิธีรักษาทางการแพทย์ที่ดีแล้ว สิ่งที่ต้องใช้อีกอย่าง คือ ระยะเวลา เพราะคุณจะไม่สามารถเห็นผลได้ทันทีทันใด ดังนั้นคุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์สม่ำเสมอ และใจเย็น ๆ แล้วริ้วรอยขรุขระบนใบหน้าจะลดลงและสัมผัส ได้ถึงใบหน้าที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

อัลบั้มภาพ 2 ภาพ

อัลบั้มภาพ 2 ภาพ ของ ลดรอยแผลขรุขระ

ลดรอยแผลขรุขระ
ลดรอยแผลขรุขระ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook