I’m Brand By Margie Rasri & Ize Pitchapong

 

ถ้าพูดถึงชายหนุ่มมากความสามารถที่สามารถทำหลายๆอย่างในเวลาเดียวกันได้ และสามารถจัดการมันได้อย่างลงตัวเสียด้วย มากความสามารถขนาดนี้มีหรือที่ R.J จะพลาดในการมาพาให้ชิคสเตอร์ทุกท่านได้รู้จัก และคนที่ R.J พามาพูดคุยในวันนี้ก็คือ คุณไอซ์ พิชพงศ์ โสมกุล

 “ไลฟ์สไตล์ก็จะเป็นคนเที่ยวบ้าง ชอบช้อปปิ้ง ชอบเที่ยวต่างประเทศ หาทริปไปเที่ยวที่โน่นที่นี่ แล้วก็ชอบกิน ชอบขนมหวาน เป็นคนที่ชอบกินขนม ติดขนมมาก”

ในวัยเด็กเคยคิดอยากทำธุรกิจสวยๆ งามๆ บ้างไหม
ส่วนตัวตอนเด็กๆ ไม่เคยชอบเลย เริ่มมาสนใจตอนโตคือเห็นคุณแม่ชอบ เราก็คิดว่า เออมันก็สวยดีนะ แต่ไม่เคยคิดว่าจะมาทำ มันก็เหมือนกับละคร ไอซ์ไม่เคยคิดเหมือนกัน มันเป็นจังหวะมากกว่าครับ

ก่อนที่จะมาทำเครื่องประดับ เคยคิดมาก่อนไหมว่าสักวันหนึ่งเราจะทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องประดับ
คือเครื่องประดับไอซ์เคยคิด แต่ยังไม่จะจริงจัง คือเราเป็นผู้ชายด้วยจะทำคนเดียวมันก็ลำบากที่จะมาเข้าใจผู้หญิง แล้วมันเป็นจังหวะมากกว่าที่ได้คุยกับกี้ แล้วอยากทำเหมือนกันพอดี

ที่มาของ I’m brand)
I’m brand (ไอแอมแบรนด์) มาจาก ไอก็คือไอซ์ครับ เอ็มก็คือมาร์กี้ครับ คือบางคนก็จะอ่านสั้นๆว่าแอมแบรนด์ คือเราไม่อยากกำหนดว่าจะต้องอ่านแบบไหน แล้วแต่ใครสะดวกอ่านยังไงมากกว่า ไม่ตายตัว แค่รู้ว่าเป็นของไอซ์ มาร์กี้ก็โอเค(หัวเราะ)

แรงบันดาลใจในการออกแบบ
จริงๆ ก็จะมาจากทั้งสองคน อย่างเวลาที่ไอซ์มีไอเดียไอซ์ก็จะไปขายน้อง อย่างคอลเลคชั่นที่เป็นมุกน้ำจืด มีมุกมาเราจะใส่ยังไงดี ก็จะแชร์ไอเดียกัน อย่างของน้องบอกอยากทำเถาวัลย์อย่างนี้ ก็จะแชร์ไอเดีย แล้วก็จะถามว่าโอเคไหม ถ้าโอเคทั้งสองคนก็จะมานั่งคิดแบบ นั่งวาดกัน แล้วค่อยส่งโรงงานอีกที คือแรงบันดาลใจมันมาจากใจเราอยากได้อะไร แล้วก็ต้องคุยกับโรงงานด้วยว่าเค้าทำได้หรือเปล่า

ที่มาของการทำแบรนด์กับมาร์กี้
คือจริงๆ ไอซ์เป็นคนชอบเครื่องประดับอยู่แล้ว ก็ยังไม่คิดว่าจะทำ แต่พอมาคุยกับน้อง น้องก็อยากทำพอดี น้องเขาอยากทำอยากออกแบบเอง ก็เลยคุยกันว่าจะมีหุ้นส่วนไหม มาร์กี้บอกว่า อยากทำสองคนมากกว่า ก็เลยโอเคเริ่มทำสองคน ประกอบกับไอซ์รู้จักกับโรงงาน เป็นโรงงานของรุ่นน้องที่รู้จักกัน ก็เลยเข้าไปคุยเรื่องดิวงาน แล้วก็คือเสร็จออกมาเป็นรูปร่างอันแรก ก็คือน้องออกแบบเองหมด มาร์กี้ออกแบบเองทุกชิ้น ทุกแบบ ส่วนไอซ์ก็จะเลือกวัสดุ คือทำทุกอย่าง คือสองคนนี่จะทำกันเองหมดเลย คิดเองขายเองหมด จะขายยังไง จะลงอินสตาร์แกรมวันไหน แล้วก็ส่งไปรษณีย์เองครับ กล่องเดียวก็ส่ง คือไอซ์ขายเดือนหนึ่งเนี่ย ขายหมดแล้ว ไอซ์ทำไม่เยอะครับ ประมาณ 60-80 ชิ้น คือจะทำไม่เยอะ เพราะไม่ใช่งานโหล คือพอเราขายหมดเดือนหนึ่งนี่ อีกเดือนหนึ่งโดนก็อปเลย แต่ว่าไม่เหมือนนะ สีก็ไม่เหมือน ขนาดก็ไม่เหมือน คือของเราจะใช้ชวารอฟสกี้ทั้งหมด ของเขาทำไม่ได้ใช้คริสตัล ส่วนเครื่องประดับทำออกมาจะใส่ได้หลายแบบ อย่างสร้อยจะใส่แยกเส้นก็ได้ ใส่เส้นเดียวก็ได้ สองเส้นก็ได้ วันใหม่ใส่ทุกงาน (ยิ้ม) อย่างอันที่มีขนนกก็จะเป็นขนนกกระจอกเทศครับ ไปซื้อเองแล้วก็เลือกสีเลือกอะไรเองหมด คือทุกอย่างทุกกระบวนการจะทำกันเองหมดอย่างที่บอกเลย คือบางชิ้นจะทำจากโรงงานแล้วบางส่วนจะเป็นแฮนด์เมด แต่อย่างขนนกต้องแฮนด์เมด มันต้องใช้สามสีผสมกัน คือน้องเขาจะมีไอเดียของเขา แล้วงานทุกชิ้นเราสองคนจะต้อง Approve ก่อนแล้วจึงทำ คืองานทุกชิ้นกว่าจะออกมามันยากมาก กว่าจะส่งแบบไปโรงงาน กว่าจะเลือกวัสดุ กว่าโรงงานจะส่งกลับมาให้เรา Approve แล้วกว่าจะออเดอร์ คือทุกอย่างต้องใช้เวลา แล้วต้องดูว่ามันเข้ากันไหม สีเพี้ยนหรือเปล่า คือรายละเอียดค่อนข้างเยอะครับ แล้วราคาที่ขายกันก็ไม่ได้แพงนะครับ ประมาณพันกว่า คือไม่อยากให้สูง อยากแค่แบบประมาณหนึ่งที่ใครอยากซื้อก็ซื้อได้ แล้วก็จะมีออกงานแฟร์ คือตอนที่ดูในรูปบางทีมันดูเฉยๆ แต่เวลาที่คนมาเห็นของจริงแล้วก็แบบอยากได้ ก็จะซื้อ เพราะตอนที่ดูในรูปบางทีมันดูเฉยๆ ซึ่งยอดก็โอเค คนที่ซื้อแบบแรกไปแล้วีมกลับมาถามซ้ำด้วย อยากให้ผลิตเพิ่ม แต่ไอซ์ทำมาเป็นคอลเลคชั่น คือหมดแล้วก็หมดไปครับ ให้มันเป็น Limited ทุกคอลเลคชั่น ตอนนี้ก็มีของก็อป ก็ดีใจนะ แสดงว่างานเราต้อง Mass มากถึงมีคนก็อป นางแบบกิตติมศักดิ์ก็มีน้องวันใหม่ครับ(หัวเราะ) ใส่ทุกงาน จริงๆน้องๆใส่กันหลายคนมาก ญาญ่า แมท ภีรนีย์ แต้ว ฝน พัชรินทร์ คืออย่างฝนใส่หลายครั้งมาก คือเค้าชอบจริงๆ เลยเอาไปใส่

แผนในอนาคตของธุรกิจ
จริงๆ มีห้างใหญ่ๆ ติดต่อเข้ามาให้ไปตั้งเคาท์เตอร์เลยนะ แต่ไอซ์กับกี้ขอเวลาสักปีสองปีก่อนดีกว่าครับ ตอนแรกก็ทำเล่นๆ แต่เป็นการทำเล่นๆ ที่จริงจัง คือตอนนี้ทุกอย่างทำเล่นๆ ไม่ได้แล้วมันเป็นมูลค่าหมด เลยต้องขอเวลาหน่อยครับ

เป็นนักแสดง อาจารย์ และมีธุรกิจเป็นของตัวเอง มีวิธีบริหารชีวิตอย่างไรบ้าง
ตอนนี้ยังไม่มีละครมันก็เป็นจังหวะช่วงที่ว่างพอดี เราก็ทำธุรกิจตรงนี้ไป แล้วก็ส่วนอาจารย์ไอซ์เป็นอาจารย์พิเศษสอนวันเดียวก็เลยยังไม่หนักมาก แต่มันก็ต้องใช้การแบ่งเวลา ก็ต้อง Manage กันไป ตอนนี้ยังไม่มีละครแต่ก็มีอีเว้นต์ ก็จะพยายามแบ่งครับ แล้วถ้าว่างเลยก็จะมาดูแลแบรนด์ได้เต็มที่ครับ

คติในการทำงาน
ไอซ์จะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพราะถ้าอะไรที่มันไม่ดีแต่เราทำเต็มที่แล้ว เราก็จะไม่เสียใจ แต่เราก็จะทำทุกอย่างให้มันเต็มที่ ให้มันดีที่สุดไปก่อน แล้วถ้าอันไหนที่มันมีปัญหา เราก็ค่อยเอามาปรับมาแก้ไขครับ

แนะนำสาวออฟฟิศที่อยากมีธุรกิจส่วนตัว
มันต้องเริ่มจากทำอะไรที่เราชอบก่อน เพราะถ้าเราทำอะไรที่เราไม่ได้ชอบ มันก็จะไม่มีความสุขในการทำ พอเริ่มจากอะไรที่เราชอบ แล้วค่อยมองหาตลาด แต่หลักๆต้องเริ่มจากความสุขก่อน คืออย่างของไอซ์เราดีใจเวลามีคนแท็กมาบอกว่า ของจริงสวยกว่าในรูป แฮปปี้ครับ

สำหรับนักแสดงที่มีดีกรีเป็นถึงอาจารย์และนักธุรกิจพ่วงมาด้วยแบบนี้ R.J คิดว่าแนวความคิดของเขาน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ชิคสเตอร์ได้ทำในสิ่งที่รักกันทุกคนนะคะ