หลังร่วมรัก After Play อีกสักรอบ
นักเพศวิทยาคนหนึ่งกล่าวว่า ความทรงจำหลังการร่วมรัก เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ทางเพศของคนคนหนึ่ง ซึ่งมันจะถูกบันทึกเอาไว้อย่างแน่นหนา ทุกคนจึงควรรู้และเอาใจใส่ว่าคู่ของตนต้องการอะไรหลังจากการร่วมรักจบลง
นานเต็มทีที่ความเข้าใจเรื่องการร่วมรัก (Make Love) จบสิ้นเมื่อเกิดการบรรลุถึงจุดสุดยอด (Orgasm) หลายคนเมื่อเริ่มต้นจากการสัมผัสกอดรัด เล้าโลม สอดใส่ ก็มักจะรีบเหยียบคันเร่งมุ่งหน้าไปยังจุดสุดยอดทันที แล้วพ้นไปจากนี้ก็ไม่ได้ใส่ใจหรือให้ความสำคัญอะไรอีกเลย
แท้จริงแล้ว การร่วมรักไม่ได้จบลงเมื่อเกิดการหลั่ง หรือเสร็จสมอารมณ์หมายต่อกันและกันแล้ว มาดูกันซิว่า หลังจบการบรรเลงเพลงรัก (After Play) ยังมีบทอะไรที่เราต้องเล่นต่อ และมันสำคัญอย่างไร
ในผู้ชาย : หากหลังการร่วมเพศบรรลุถึงจุดสุดยอดแล้ว มีการผละออกจากกันในทันที โลหิตที่ไหลไปคั่งหล่อเลี้ยงองคชาตให้แข็งตัวได้จะไหลกลับยังตำแหน่งต่างๆ ของร่างกายตามปกติ ส่งผลให้องคชาตของเขาอ่อนตัวลงสู่ภาวะปวกเปียกอย่างรวดเร็วและทันทีทันใด ด้านจิตใจอาจไม่มีผลชัดเจนรวดเร็วเท่ากับร่างกาย เพราะฝ่ายชายเองเมื่อหลั่งน้ำกามออกมาแล้ว ก็อาจต้องการผละออกเพื่อไม่ให้องคชาตเจ็บ หรือรู้สึกไม่สบาย กังวล สับสนงุนงง หรือรู้สึกผิด เวลาเดียวกันนั้น เขาจะมีความอ่อนล้าเข้ามาแทนที่ ทั้งที่ปฏิกิริยาดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการสั่งการของสมอง
นักเพศบำบัดอธิบายการทำงานของร่างกายไว้ว่า ความรู้สึกสับสนแบบจับต้นชนปลายไม่ถูกหลังการร่วมรักนี้ เป็นผลพวงมาจากช่วงเวลาที่มีการปลุกเร้าอารมณ์และสัมผัสสัมพันธ์กัน เลือดจะไหลเข้าสู่อุ้งเชิงกรานเป็นจำนวนมาก ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกร็งแข็ง แต่เมื่อจบขั้นตอนการร่วมเพศแล้ว ร่างกายและกล้ามเนื้อจะค่อยๆ ผ่อนคลายลงทั่วทั้งร่างกาย เพื่อทำให้เกิดภาวะผ่อนคลายขึ้นอย่างแท้จริง ยกเว้นแต่เกิดการผละจากกันทันที การปรับสภาพอย่างกะทันหันก็จะเกิดขึ้น เป็นผลให้อ่อนเพลียและมึนงงได้ และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมผู้ชายต้องเล่นบทกอดรัดคลอเคลียต่ออีกสักพัก แทนที่จะผละจากกัน ตัวใครตัวมันเหมือนเช่นที่เคยทำ
ในผู้หญิง : ผู้หญิงจะรู้สึกดื่มด่ำซาบซ่านต่อการร่วมรักภายหลังการร่วมเพศจบลงได้ยาวนานกว่าในผู้ชาย และใช้เวลาราว 10–15 นาที เพื่อที่ช่องคลอดจะกลับคืนสู่สภาพปกติ ส่วนคลิตอริสนั้น หลังจากการเสียดสีอันเกิดจากการร่วมเพศ มันจะยังคงความรู้สึกได้อีกนานตั้งแต่ 5–10 วินาที และส่วนปลายที่ขยายใหญ่ขึ้นนั้นจะยังคงใช้เวลา 5, 10 หรืออาจถึง 30 นาทีในการหดตัวคืนสู่สภาพเดิม แต่ถ้าหากเธอไปได้ไม่ถึงจุดสุดยอด ก็อาจจะต้องใช้เวลานานไปอีกหลายชั่วโมงก่อนที่คลิตอริสจะกลับคืนมาสู่สภาพปกติ นี่คือสถานการณ์ด้านกายภาพที่ทำให้ผู้หญิงทุกข์ทรมานมาก หากฝ่ายชายไม่ส่งเอให้ถึงสวรรค์
ส่วนด้านจิตใจก็มีข้อแตกต่างออกไประหว่างก่อนกับหลังการร่วมเพศ บางทีอาจเป็นเพราะกว่าสภาพร่างกายจะกลับคืนสู่สภาพเดิมต้องใช้เวลานาน ผู้หญิงจึงมักต้องการให้มีการกอดรัดลูบไล้ร่างกายหลังการร่วมเพศ ต้องการหนุนนอนอยู่ที่ท่อนขาของเขาอย่างอบอุ่น หรือบางคนอาจเลยเถิดไปถึงการปลุกเร้าอารมณ์อย่างต่อเนื่องต่อไป
การได้พูดคุยจ๊ะจ๋าในเวลาหลังการร่วมรักจึงเป็นสิ่งที่ดีมาก แต่อย่าคุยกันในเรื่องเครียดๆ อย่าเอาปัญหาหนักๆ ขึ้นมาถก หากหนุ่มๆ รู้สึกว่าตนอ่อนเพลียเป็นที่สุด ต้องการนอน แต่ก็รู้ว่าผู้หญิงต้องการการกอดรัด สัมผัสลูบไล้ ก็ลองนอนกอดเธอดูบ้าง ง่ายๆ แค่นี้แต่เชื่อไหมว่ามีผลต่อจิตใจมากมายทีเดียว และผู้หญิงเอง หากมีความต้องการเช่นไรนั้น ก็ควรที่จะบอกกล่าวหรือส่งสัญญาณให้เขาทราบ
แต่หากต้องการเดินหน้าต่อด้วยกันทั้งคู่ ลองเพิ่มความตื่นเต้นให้แก่ตนเองและคู่รัก โดยเปลี่ยนวิธีสัมผัส ตามจุดต่างๆ ที่เคยสัมผัส หลักการง่ายๆ ก็คือ จุดต่างๆ บนร่างกาย ตรงไหนก็ตามที่คุณเคยสัมผัสด้วยการลูบไล้ไปแล้ว ลองเปลี่ยนเป็นบีบ-เคล้น หรือจากบีบ-คลึง ก็ลองเปลี่ยนเป็น ดัน-กระแทก เรียกว่าทดสอบการตอบสนองของคู่รักโดยการสัมผัสด้วยมือหลายๆ แบบ เปลี่ยนน้ำหนักสัมผัส หรือเปลี่ยนวิธีสัมผัสนั่นเอง
ขั้นต่อไป ไม่ใช่สัมผัสด้วยมือเพียงอย่างเดียว แทนที่จะใช้มือ ลองเปลี่ยนมาสัมผัสด้วยลิ้น ฟัน ริมฝีปาก ลมหายใจ ตามจุดต่างๆ บนร่างกายที่เคยใช้มือสัมผัสไปแล้วดูบ้าง เช่น จากที่เคยใช้มือลูบไล้ต้นขาคู่รัก ลองเปลี่ยนเป็นไล้ด้วยริมฝีปาก
ขั้นต่อไป ตั้งมั่นในการค้นหาจุดสัมผัสใหม่ๆ เช่น ขณะจูบกัน ถ้าเคยลูบไล้บริเวณซอกคอคู่รักเป็นประจำ ลองเปลี่ยนไปสัมผัสหัวไหล่เขาดูบ้าง
นอกจากนี้ การเปลี่ยน ‘วิธีการสัมผัส’ กับ ‘บริเวณที่จะสัมผัส’ ยังช่วยให้เกิดความรู้สึกใหม่ๆ เช่น แทนที่จะจูบ ลองใช้นิ้วมือไล้ไปตามริมฝีปากกันและกัน อาจให้เกิดความรู้สึกมากกว่าการจูบก็เป็นได้
บริเวณร่างกายที่มักถูกมองข้าม เช่น ท้องน้อย ใต้สะดือ และกระดูกสันหลัง ใช้วิธีสัมผัสด้วยการใช้มือลูบไล้หรือคลึงเบาๆ โดยเฉพาะบริเวณฐานกระดูกสันหลังช่วงเอว ซึ่งเรียกว่า Sacrum แหล่งรวมปลายประสาทรับสัมผัสหนาแน่นจุดหนึ่งของร่างกาย เร้าให้เกิดอารมณ์และความตื่นตัวทางเพศได้
ใช้นิ้วมือหรือฝ่ามือประทับเหนือร่องก้น (ตรงบริเวณที่เป็นรอยบุ๋ม) คนไทยมักเรียก ‘กระเบนเหน็บ’ อย่ากดด้วยน้ำหนักตัวทั้งตัวถ้าคุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญการนวด เพียงคลึงเบาๆ หรือกดเบาๆ คนถูกกดจะรู้สึกราวกับว่า มือของคุณกดลงไปยังบริเวณอวัยวะเพศเลยทีเดียว หมอนวดมืออาชีพสามารถกดจุดนี้ได้อย่างเห็นผล แต่สำหรับคู่รัก แค่สัมผัสด้วยการจูบ-ลูบไล้ก็เพียงพอ
จากนั้นก็ต้องปรุงรสรักใหม่ ไม่ให้ซ้ำเก่า คือแทนที่จะให้พ่อยอดรักทิ้งน้ำหนักตัวลงเหนือร่างกายคุณขณะที่คุณนอนราบ ลองขอให้เขาคุกเข่า ยกลำตัวขึ้น ขณะที่ตัวคุณเองนอนยกขาขึ้นจากพื้น งอเข่า พับขาเข้าหาลำตัว ให้บริเวณขาอ่อนเข้ามาชิดหน้าอก ให้เขาช่วยจับเท้าคุณ เป็นการช่วยพยุงน้ำหนัก ท่านี้ ฝ่ายหญิงจะสามารถเคลื่อนไหวโดยปราศจากน้ำหนักตัวของชายคนรักกดลงมาบนตัว
หมอนหนุน :- ถ้าหมอนที่ใช้นิ่มเกินไป อย่าวางไว้ใต้สะโพก จะทำให้ตัวคุณจมยิ่งไปกว่าเดิม ให้วางหมอนไว้ใต้กระเบนเหน็บ จะช่วยยกบริเวณเชิงกรานขึ้นและเปลี่ยนมุมของการเข้ามาของฝ่ายชาย ทดสอบกับหมอนหลายๆ ขนาดและความหนา หมอนนุ่มๆ เหมาะสำหรับนอนมากกว่าใช้ในการร่วมรัก
นั่งบนเก้าอี้ :- ในการปรับปรุงท่า ผู้หญิงอยู่ด้านบน ขอให้สามีนั่งในเก้าอี้ ภรรยานั่งลงบนตักสามี แผ่นหลังพิงหน้าอกสามีก็ได้ ถ้าเป็นเก้าอี้มีที่วางแขน ภรรยาพักขาไว้บนนั้นก็จะเป็นการช่วยพยุงน้ำหนักตัวคุณเอง
ทั้งสองวิธีนี้ มือไม้สามีเป็นอิสระที่จะทำอย่างอื่นได้อีก และอาจเพิ่มชีวิตชีวาตรงขอบเตียง :- ขอให้สามียืนขึ้น ขณะที่คุณนอนราบบนเตียงให้สะโพกพาดอยู่ที่ขอบเตียง พักข้อเท้าคุณไว้ที่หัวไหล่เขา ใช้หมอนในคอลเลคชั่นของคุณปรับระดับความสูง (เตียงอาจจะต่ำไป / เขาอาจจะเตี้ยเกินไป) หรือวางเท้าของคุณไว้บนพื้น ทราบไหมว่าการเปลี่ยนองศาง่ายๆ ที่ว่ามา เพิ่มความตื่นเต้นและเร้าใจให้ฝ่ายชายมากเป็นพิเศษ รวมทั้งคุณด้วยเช่นกัน
ขอย้ำว่า อย่าคิดว่าหน้าที่ของกันและกันนั้น สิ้นสุดลงหลังเสร็จกิจ เพราะหลังจากนั้นยังกิจเล็กๆ ที่ช่วยกระชับสัมพันธ์รัก และประทับความรู้สึกว่าเป็นที่รัก หรือถูกรักลงไปในใจของอีกฝ่ายได้อย่างลึกซึ้ง
ช่วงเวลาหลังการร่วมรัก หรือร่วมรักใหม่อีกรอบ จึงเป็นนาทีทองของทุกคู่รัก อย่าปล่อยให้มันสูญเปล่าไป!!
นานเต็มทีที่ความเข้าใจเรื่องการร่วมรัก (Make Love) จบสิ้นเมื่อเกิดการบรรลุถึงจุดสุดยอด (Orgasm) หลายคนเมื่อเริ่มต้นจากการสัมผัสกอดรัด เล้าโลม สอดใส่ ก็มักจะรีบเหยียบคันเร่งมุ่งหน้าไปยังจุดสุดยอดทันที แล้วพ้นไปจากนี้ก็ไม่ได้ใส่ใจหรือให้ความสำคัญอะไรอีกเลย
แท้จริงแล้ว การร่วมรักไม่ได้จบลงเมื่อเกิดการหลั่ง หรือเสร็จสมอารมณ์หมายต่อกันและกันแล้ว มาดูกันซิว่า หลังจบการบรรเลงเพลงรัก (After Play) ยังมีบทอะไรที่เราต้องเล่นต่อ และมันสำคัญอย่างไร
ในผู้ชาย : หากหลังการร่วมเพศบรรลุถึงจุดสุดยอดแล้ว มีการผละออกจากกันในทันที โลหิตที่ไหลไปคั่งหล่อเลี้ยงองคชาตให้แข็งตัวได้จะไหลกลับยังตำแหน่งต่างๆ ของร่างกายตามปกติ ส่งผลให้องคชาตของเขาอ่อนตัวลงสู่ภาวะปวกเปียกอย่างรวดเร็วและทันทีทันใด ด้านจิตใจอาจไม่มีผลชัดเจนรวดเร็วเท่ากับร่างกาย เพราะฝ่ายชายเองเมื่อหลั่งน้ำกามออกมาแล้ว ก็อาจต้องการผละออกเพื่อไม่ให้องคชาตเจ็บ หรือรู้สึกไม่สบาย กังวล สับสนงุนงง หรือรู้สึกผิด เวลาเดียวกันนั้น เขาจะมีความอ่อนล้าเข้ามาแทนที่ ทั้งที่ปฏิกิริยาดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการสั่งการของสมอง
นักเพศบำบัดอธิบายการทำงานของร่างกายไว้ว่า ความรู้สึกสับสนแบบจับต้นชนปลายไม่ถูกหลังการร่วมรักนี้ เป็นผลพวงมาจากช่วงเวลาที่มีการปลุกเร้าอารมณ์และสัมผัสสัมพันธ์กัน เลือดจะไหลเข้าสู่อุ้งเชิงกรานเป็นจำนวนมาก ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกร็งแข็ง แต่เมื่อจบขั้นตอนการร่วมเพศแล้ว ร่างกายและกล้ามเนื้อจะค่อยๆ ผ่อนคลายลงทั่วทั้งร่างกาย เพื่อทำให้เกิดภาวะผ่อนคลายขึ้นอย่างแท้จริง ยกเว้นแต่เกิดการผละจากกันทันที การปรับสภาพอย่างกะทันหันก็จะเกิดขึ้น เป็นผลให้อ่อนเพลียและมึนงงได้ และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมผู้ชายต้องเล่นบทกอดรัดคลอเคลียต่ออีกสักพัก แทนที่จะผละจากกัน ตัวใครตัวมันเหมือนเช่นที่เคยทำ
ในผู้หญิง : ผู้หญิงจะรู้สึกดื่มด่ำซาบซ่านต่อการร่วมรักภายหลังการร่วมเพศจบลงได้ยาวนานกว่าในผู้ชาย และใช้เวลาราว 10–15 นาที เพื่อที่ช่องคลอดจะกลับคืนสู่สภาพปกติ ส่วนคลิตอริสนั้น หลังจากการเสียดสีอันเกิดจากการร่วมเพศ มันจะยังคงความรู้สึกได้อีกนานตั้งแต่ 5–10 วินาที และส่วนปลายที่ขยายใหญ่ขึ้นนั้นจะยังคงใช้เวลา 5, 10 หรืออาจถึง 30 นาทีในการหดตัวคืนสู่สภาพเดิม แต่ถ้าหากเธอไปได้ไม่ถึงจุดสุดยอด ก็อาจจะต้องใช้เวลานานไปอีกหลายชั่วโมงก่อนที่คลิตอริสจะกลับคืนมาสู่สภาพปกติ นี่คือสถานการณ์ด้านกายภาพที่ทำให้ผู้หญิงทุกข์ทรมานมาก หากฝ่ายชายไม่ส่งเอให้ถึงสวรรค์
ส่วนด้านจิตใจก็มีข้อแตกต่างออกไประหว่างก่อนกับหลังการร่วมเพศ บางทีอาจเป็นเพราะกว่าสภาพร่างกายจะกลับคืนสู่สภาพเดิมต้องใช้เวลานาน ผู้หญิงจึงมักต้องการให้มีการกอดรัดลูบไล้ร่างกายหลังการร่วมเพศ ต้องการหนุนนอนอยู่ที่ท่อนขาของเขาอย่างอบอุ่น หรือบางคนอาจเลยเถิดไปถึงการปลุกเร้าอารมณ์อย่างต่อเนื่องต่อไป
การได้พูดคุยจ๊ะจ๋าในเวลาหลังการร่วมรักจึงเป็นสิ่งที่ดีมาก แต่อย่าคุยกันในเรื่องเครียดๆ อย่าเอาปัญหาหนักๆ ขึ้นมาถก หากหนุ่มๆ รู้สึกว่าตนอ่อนเพลียเป็นที่สุด ต้องการนอน แต่ก็รู้ว่าผู้หญิงต้องการการกอดรัด สัมผัสลูบไล้ ก็ลองนอนกอดเธอดูบ้าง ง่ายๆ แค่นี้แต่เชื่อไหมว่ามีผลต่อจิตใจมากมายทีเดียว และผู้หญิงเอง หากมีความต้องการเช่นไรนั้น ก็ควรที่จะบอกกล่าวหรือส่งสัญญาณให้เขาทราบ
แต่หากต้องการเดินหน้าต่อด้วยกันทั้งคู่ ลองเพิ่มความตื่นเต้นให้แก่ตนเองและคู่รัก โดยเปลี่ยนวิธีสัมผัส ตามจุดต่างๆ ที่เคยสัมผัส หลักการง่ายๆ ก็คือ จุดต่างๆ บนร่างกาย ตรงไหนก็ตามที่คุณเคยสัมผัสด้วยการลูบไล้ไปแล้ว ลองเปลี่ยนเป็นบีบ-เคล้น หรือจากบีบ-คลึง ก็ลองเปลี่ยนเป็น ดัน-กระแทก เรียกว่าทดสอบการตอบสนองของคู่รักโดยการสัมผัสด้วยมือหลายๆ แบบ เปลี่ยนน้ำหนักสัมผัส หรือเปลี่ยนวิธีสัมผัสนั่นเอง
ขั้นต่อไป ไม่ใช่สัมผัสด้วยมือเพียงอย่างเดียว แทนที่จะใช้มือ ลองเปลี่ยนมาสัมผัสด้วยลิ้น ฟัน ริมฝีปาก ลมหายใจ ตามจุดต่างๆ บนร่างกายที่เคยใช้มือสัมผัสไปแล้วดูบ้าง เช่น จากที่เคยใช้มือลูบไล้ต้นขาคู่รัก ลองเปลี่ยนเป็นไล้ด้วยริมฝีปาก
ขั้นต่อไป ตั้งมั่นในการค้นหาจุดสัมผัสใหม่ๆ เช่น ขณะจูบกัน ถ้าเคยลูบไล้บริเวณซอกคอคู่รักเป็นประจำ ลองเปลี่ยนไปสัมผัสหัวไหล่เขาดูบ้าง
นอกจากนี้ การเปลี่ยน ‘วิธีการสัมผัส’ กับ ‘บริเวณที่จะสัมผัส’ ยังช่วยให้เกิดความรู้สึกใหม่ๆ เช่น แทนที่จะจูบ ลองใช้นิ้วมือไล้ไปตามริมฝีปากกันและกัน อาจให้เกิดความรู้สึกมากกว่าการจูบก็เป็นได้
บริเวณร่างกายที่มักถูกมองข้าม เช่น ท้องน้อย ใต้สะดือ และกระดูกสันหลัง ใช้วิธีสัมผัสด้วยการใช้มือลูบไล้หรือคลึงเบาๆ โดยเฉพาะบริเวณฐานกระดูกสันหลังช่วงเอว ซึ่งเรียกว่า Sacrum แหล่งรวมปลายประสาทรับสัมผัสหนาแน่นจุดหนึ่งของร่างกาย เร้าให้เกิดอารมณ์และความตื่นตัวทางเพศได้
ใช้นิ้วมือหรือฝ่ามือประทับเหนือร่องก้น (ตรงบริเวณที่เป็นรอยบุ๋ม) คนไทยมักเรียก ‘กระเบนเหน็บ’ อย่ากดด้วยน้ำหนักตัวทั้งตัวถ้าคุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญการนวด เพียงคลึงเบาๆ หรือกดเบาๆ คนถูกกดจะรู้สึกราวกับว่า มือของคุณกดลงไปยังบริเวณอวัยวะเพศเลยทีเดียว หมอนวดมืออาชีพสามารถกดจุดนี้ได้อย่างเห็นผล แต่สำหรับคู่รัก แค่สัมผัสด้วยการจูบ-ลูบไล้ก็เพียงพอ
จากนั้นก็ต้องปรุงรสรักใหม่ ไม่ให้ซ้ำเก่า คือแทนที่จะให้พ่อยอดรักทิ้งน้ำหนักตัวลงเหนือร่างกายคุณขณะที่คุณนอนราบ ลองขอให้เขาคุกเข่า ยกลำตัวขึ้น ขณะที่ตัวคุณเองนอนยกขาขึ้นจากพื้น งอเข่า พับขาเข้าหาลำตัว ให้บริเวณขาอ่อนเข้ามาชิดหน้าอก ให้เขาช่วยจับเท้าคุณ เป็นการช่วยพยุงน้ำหนัก ท่านี้ ฝ่ายหญิงจะสามารถเคลื่อนไหวโดยปราศจากน้ำหนักตัวของชายคนรักกดลงมาบนตัว
หมอนหนุน :- ถ้าหมอนที่ใช้นิ่มเกินไป อย่าวางไว้ใต้สะโพก จะทำให้ตัวคุณจมยิ่งไปกว่าเดิม ให้วางหมอนไว้ใต้กระเบนเหน็บ จะช่วยยกบริเวณเชิงกรานขึ้นและเปลี่ยนมุมของการเข้ามาของฝ่ายชาย ทดสอบกับหมอนหลายๆ ขนาดและความหนา หมอนนุ่มๆ เหมาะสำหรับนอนมากกว่าใช้ในการร่วมรัก
นั่งบนเก้าอี้ :- ในการปรับปรุงท่า ผู้หญิงอยู่ด้านบน ขอให้สามีนั่งในเก้าอี้ ภรรยานั่งลงบนตักสามี แผ่นหลังพิงหน้าอกสามีก็ได้ ถ้าเป็นเก้าอี้มีที่วางแขน ภรรยาพักขาไว้บนนั้นก็จะเป็นการช่วยพยุงน้ำหนักตัวคุณเอง
ทั้งสองวิธีนี้ มือไม้สามีเป็นอิสระที่จะทำอย่างอื่นได้อีก และอาจเพิ่มชีวิตชีวาตรงขอบเตียง :- ขอให้สามียืนขึ้น ขณะที่คุณนอนราบบนเตียงให้สะโพกพาดอยู่ที่ขอบเตียง พักข้อเท้าคุณไว้ที่หัวไหล่เขา ใช้หมอนในคอลเลคชั่นของคุณปรับระดับความสูง (เตียงอาจจะต่ำไป / เขาอาจจะเตี้ยเกินไป) หรือวางเท้าของคุณไว้บนพื้น ทราบไหมว่าการเปลี่ยนองศาง่ายๆ ที่ว่ามา เพิ่มความตื่นเต้นและเร้าใจให้ฝ่ายชายมากเป็นพิเศษ รวมทั้งคุณด้วยเช่นกัน
ขอย้ำว่า อย่าคิดว่าหน้าที่ของกันและกันนั้น สิ้นสุดลงหลังเสร็จกิจ เพราะหลังจากนั้นยังกิจเล็กๆ ที่ช่วยกระชับสัมพันธ์รัก และประทับความรู้สึกว่าเป็นที่รัก หรือถูกรักลงไปในใจของอีกฝ่ายได้อย่างลึกซึ้ง
ช่วงเวลาหลังการร่วมรัก หรือร่วมรักใหม่อีกรอบ จึงเป็นนาทีทองของทุกคู่รัก อย่าปล่อยให้มันสูญเปล่าไป!!
