ไขข้อข้องใจเรื่องยาคุมกำเนิด

ไขข้อข้องใจเรื่องยาคุมกำเนิด

ไขข้อข้องใจเรื่องยาคุมกำเนิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รวบรวมคำถามคำตอบที่มีคนถามบ่อยเกี่ยวกับยาคุมกำเนิด ในส่วนแรกจะเป็นข้อมูลที่เราค้นหามาจากเวบต่างประเทศ และส่วนที่สองได้ ภก. ปรุฬห์วิทย์ อักษรดิษฐ์ เป็นผู้เรียบเรียงคำตอบให้

ส่วนที่หนึ่ง

- ยาคุมกำเนิดช่วยเรื่องสิวได้หรือเปล่า

ใช่ ยาคุมกำเนิดช่วยให้อาการสิวดีขึ้นในผู้หญิง ส่วนใหญ่แล้วยาคุมจะถูกนำมาใช้ในคนที่เป็นสิวในกรณีที่ยาอื่นใช้ไม่ได้ผล

- จากผลการสำรวจ 61% เชื่อว่ายาคุมกำเนิดทำให้น้ำหนักเพิ่ม

ความจริงคือไม่ใช่ยาคุมกำเนิดทุกตัวจะทำให้น้ำหนักเพิ่ม และมีความเป็นไปได้ทั้งน้ำหนักเพิ่มหรือลดในคนที่กินยาคุมกำเนิด เพราะฉะนั้นควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าเรากังวลเรื่องนี้

- ครึ่งหนึ่งของผลสำรวจพบว่าคนจะเข้าใจว่าไม่ควรกินยาคุมกำเนิดต่อเนื่องนานๆ ควรจะพักการกินบ้าง

ผลที่ได้จากการวิจัยคือคนที่กินยาคุมกำเนิดไม่จำเป็นต้องพักการกินยาคุม ผู้ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพสามารถจ่ายยาคุมให้กับผู้หญิงที่แข็งแรง ไม่สูบบุหรี่ ได้เกินอายุ 40 ปี แต่เราต้องกินไปนานขนาดไหนต้องปรึกษากับผู้ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพที่เป็นคนจ่ายให้ (เป็นอาชีพหนึ่งที่เมืองนอกแต่บ้านเราไม่มี)

- 21% จากการสำรวจพบว่าคนเข้าใจว่ายาคุมกำเนิดทำให้เป็นหมัน

ยังไม่พบหลักฐานทางการแพทย์ใดๆที่บอกว่ายาคุมทำให้เป็นหมัน

- ยาคุมช่วยเพิ่มโอกาสในการเป็นโรคมะเร็งเต้านมหรือเปล่า

พบบางการศึกษาที่บอกว่ายาคุมเพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็งเต้านมอยู่เหมือนกัน แต่การวิจัยที่วิจัยเรื่องนี้เป็นหลักก็ยังไม่พบความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมที่เพิ่มขึ้น คุณควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับยาคุมที่คุณกินถ้าคุณกังวลเรื่องนี้

- ถ้าเราไม่กินยาคุมในเวลาเดียวกันทุกวันได้มั้ย

ยาคุมที่เป็นแบบมีฮอร์โมน 2 ตัวคือเอสโตรเจน (estrogen) และโปรเจสติน (progestin) จะมีประสิทธิภาพเกิน 99% ถ้าเรากินตรงเวลาทุกวัน และให้เราจำไว้เลยว่าถ้าเรากินยาคุมไม่ต่อเนื่องหรือลืมกินยาคุมจะเพิ่มการเกิดผลข้างเคียงเช่นเลือดออกระหว่างการกินยา

- ก่อนที่เราจะตั้งท้อง เราจำเป็นต้องหยุดยาก่อนหลายเดือนเพื่อให้ยาคุมออกจากร่างกายไปให้หมดก่อนใช่ไหม

คุณสามารถเริ่มตั้งครรภ์ได้ทันที่หลังจากคุณหยุดยาคุม แต่ควรที่จะปรึกษากับแพทย์เพื่อให้ทารกในครรภ์สมบูรณ์

- ทำยังไงถ้าเราลืมกินยาคุม

ให้คุณรีบกินยาทันทีที่คุณจำได้ ถ้าคุณลืมจนข้ามวันไปแล้ว ให้กินยาคุม 2 เม็ดในวันที่จำได้ ถ้าคุณลืมกินยา 2 วัน ให้คุณกินยาคุม 2 เม็ดในวันที่จำได้และอีก 2 เม็ดในวันถัดไป หลังจากนั้นก็กินตามปกติ ถ้าคุณลืมกินเกิน 2 วันให้ปรึกษาแพทย์ คุณอาจต้องกินยาคุมวันละเม็ดจนถึงวันอาทิตย์ แล้วจึงเริ่มแผงใหม่ หรือไม่ก็เลิกแผงนั้นไปเลย แล้วเริ่มแผงใหม่ในวันเดียวกันกับแผงเดิม
เมื่อไหร่ที่ลืมกินยาคุมฯ ควรต้องใช้วิธีการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นร่วมกับการกินยาคุมแผงเดิมไปจนหมด เพราะการลืมกินยาคุมเพียงเม็ดเดียวก็จะเพิ่มโอกาสในการผลิตไข่ออกจากรังไข่ อย่างไรก็ดีหากลืมกินยาคุมฯในสัปดาห์สุดท้ายของยาคุมแผง 28 เม็ด ก็ไม่ทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ เพราะ 7 เม็ดสุดท้ายนั้นเป็นยาที่ไม่ออกฤทธิ์ในการคุมกำเนิดอยู่แล้ว หากว่าลืมวันที่มีประจำเดือนและลืมกินยาคุมในช่วง 21 เม็ดแรก ให้ตรวจการตั้งครรภ์ หากประจำเดือนไม่มาติดกัน 2 เดือนแม้ว่าจะกินยาคุมตามปกติ ก็ให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วย

การกินยาคุมเม็ดที่มีฮอร์โมน progestin นั้นจำเป็นต้องกินให้ตรงเวลาในทุกวัน หากว่าเลยเวลาที่กินประจำมากกว่า 3 ชั่วโมงก็ให้รีบกินทันทีที่นึกได้ ร่วมกับการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น (เช่นการใช้ถุงยางอนามัย) ในช่วง 48 ชั่วโมงหลังจากนั้น

- ยาคุมมีผลข้างเคียงหรือไม่

ใช่ ยาคุมมีผลข้างเคียง แม้ว่ามันจะไม่มาก เช่น คลื่นไส้, น้ำหนักเพิ่ม, เจ็บนม, หน้าอกขยาย, มีเลือดออกระหว่างที่กินยาคุม, ประจำเดือนมาน้อย, อารมน์เปลี่ยน

และผลข้างเคียงที่จะพูดถึงนี้อาจไม่เกิดขึ้นบ่อย แต่เป็นผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ถ้าเกิดกับเราให้รีบปรึกษาแพทย์ทันทีเพราะอาการที่เกิดขึ้นอาจมาจากที่เราเป็นโรคร้ายแรงอยู่เช่น โรคตับ, เส้นเลือดตีบ, เกิดลิ่มเลือด, ความดันสูง หรือโรคหัวใจ
อาการที่ว่าคือ ปวดท้อง, เจ็บหน้าอก, ปวดหัวรุนแรง, มีปัญหาทางสายตา (มองแล้วเบลอ), ปวด บวมที่ขาและเข่า

- ผู้หญิงทุกคนสามารถกินยาคุมใช่ไหม

ผู้หญิงส่วนใหญ่สามารถกินยาคุมอย่างปลอดภัย แต่ไม่แนะนำถ้าอายุคุณเกิน 35 ปีและเป็นคนสูบบุหรี่ ถ้าคุณไม่ได้เป็นคนสูบบุหรี่ คุณสามารถกินยาคุมไปได้จนถึงช่วงวัยหมดประจำเดือนได้เลย หรือไม่ควรรับประทานยาคุมถ้า
-คุณมีลิ่มเลือดที่แขน ขา และปอด
-เป็นโรคหัวใจหรือโรคตับ
-เป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งมดลูก
ถ้าคุณไม่แน่ใจหรือมีญาติที่เป็นโรคดังกล่าวให้ปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานยา

 

ขอบคุณข้อมูล : http://www.acnethai.com/

อ้างอิงจาก Lawrence E. Gibson, M.D., about.com women's health, thepill.com, webmd.com, livestrong.com

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook