ไอเดียการแต่งคอนโดมิเนียมแบบดับเบิ้ลสเปซ
IDEAS Double Space "คอนโดมิเนียมแบบดับเบิ้ลสเปซแห่งนี้มีโถงสูงถึง 6 เมตร เราจึงออกแบบลูกเล่นในการแต่งห้องได้เยอะมาก"
เจ้าของ : คุณเอกภพ เมฆกัลจาย
อาชีพ : รองประธาน บริษัท หลักทรัพย์ ซิตี้คอร์ป จำกัด
ห้องแบบ Double Space ขนาด 70 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองย่านพญาไท ใกล้รถไฟฟ้า การเดินทางจึงสะดวกสบายเหมาะกับชีวิตคนเมือง ที่นี่มีความพิเศษตรงที่มีลักษณะเหมือนชั้นลอย ครึ่งหนึ่งใช้เป็นห้องนอนส่วนตัว มีพื้นที่เป็นโถงสูงสามารถมองเห็นวิวผ่านกระจกสูง 6 เมตร ช่วยเปิดมุมมองได้กว้างไกลจากชั้น 20 ให้สามารถมองเห็นวิวกรุงเทพ ฯ ได้สุดลูกหูลูกตา ดังนั้น ห้องพักเล็ก ๆ ห้องนี้จึงมีเรื่องราวน่าสนใจมากมายกว่าคอนโดมิเนียมทั่วไป
ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ เจ้าของห้องจึงเลือกการแบ่งพื้นที่ส่วนกลางให้เป็นโถงใหญ่ เมื่อเดินจากส่วนหน้าเข้ามาจะเจอกับมุมเคาน์เตอร์ครัวเดิมที่ได้รับการดัดแปลงใหม่ให้มีเคาน์เตอร์บาร์เล็ก ๆ ไว้สำหรับให้เพื่อน ๆ ได้มาพักผ่อน และยังใช่เป็นตัวแบ่งสัดส่วนระหว่างครัวกับห้องรับแขกไปในตัวด้วย
ส่วนพื้นที่รับแขกนั้นก็จัดให้อยู่ในมุมริมหน้าต่างที่มีวิวสวยสุด ๆ เมื่อทอดสายตาออกไปจะพบกับวิวตึกสูงแบบพานอรามาที่สวยทั้งกลางวันและกลางคืน มุมถัดไปเป็นมุมรับประทานอาหาร ตกแต่งด้วยงานสะสมจากการเดินทางและงานศิลปะชิ้นโปรดของเจ้าของห้อง
ส่วนสุดท้ายคือห้องนอนชั้นบนที่แยกออกจากพื้นที่ส่วนกลางเพื่อความเป็นส่วนตัว โดยคุณเอกภพได้ดัดแปลงส่วนห้องน้ำให้มีพื้นที่ใช้งานมากขึ้นด้วยการเพิ่มตู้เสื้อผ้าให้ซ่อนอยู่ในผนังระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำจากการแบ่งพื้นที่ใช้สอยให้เกิดความเป็นสัดส่วน อาศัยมุมมอง และใช้ประโยชน์จากพื้นที่ว่างทำให้ลืมไปเลยว่านี่คือห้องในคอนโดมิเนียม เพราะดูเหมือนห้องในบ้านเดี่ยวที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบจริงๆ
a. แก้ปัญหาเพดานด้านที่ต่ำด้วยการใช้สีขาวให้ดูโปร่งกลืนไปกับผนังห้อง
b. ทำชั้นหนังสือเพิ่มออกมาจากผนังแล้วตีโครงไม้สีเข้มเพื่อให้เป็นจุดเด่นของผนังห้องรับแขก
c. ออกแบบชั้นเก็บของให้ยาวตลอดแนวห้อง เพื่อใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และทำมือจับแบบเซาะร่องให้บานลิ้นชักดูกลมกลืนไปกับผนังห้อง
d. เพื่อประหยัดพื้นที่จึงเลือกใช้โทรทัศน์จอแอลซีดี ดูล้อไปกับกรอบกระจกเงาที่อยู่ด้านบนดีไม่น้อย
a. แขวนโคมไฟสูง-ต่ำเล่นระดับกัน ใช้ตกแต่งแทนงานศิลปะ และที่ห้อยยาวสูงจากโต๊ะไม่มากนี้ก็เพื่อให้เกิดแสงสว่างที่เหมือนแสงเทียนลอยอยู่สุดแสนโรแมนติก
b. เปลี่ยนอารมณ์ให้ผนังระหว่างทางเดินด้วยสีเทา และตกแต่งกรอปรูปขาว-ดำให้ดูกลมกลืนไปกับผนังห้อง
C.วางกระจกเงากรอบไม้ที่มีสีสันเข้าชุดกับเฟอร์นิเจอร์ บานกระจกเงาทั้ง 2 บาน ช่วยเพิ่มมุมมองให้ห้องดูกว้างและเปลี่ยนผนังทึบ ๆ ให้ดูมีเรื่องราวเหมือนกรอบรูปขนาดใหญ่
d. วางภาพวิวธรรมชาติไว้ในช่องว่างช่วยสร้างมุมมองสีเขียวให้กับห้องได้เป็นอย่างดี อยากได้ภาพวิวแบบไหนก็แค่ย้ายหรือเปลี่ยนภาพ
a. เลือกใช้โซฟารูปตัวแอล (L) จัดวางเข้ามุมห้องพอดี ใช้งานได้อเนกประสงค์ทั้งนอน รับแขก ส่วนเบาะด้านข้างก็สามารถย้ายตำแหน่งเพื่อเปลี่ยนการใช้งานในแบบต่าง ๆ ได้
b. หน้าต่างมีบานเปิดเล็ก ๆ สามารถเปิดรับลมเย็น ๆ ให้เข้ามาในห้องได้ ส่วนผ้าม่านก็ใช้ม่านม้วนซ่อนอยู่บนช่องว่างเหนือหน้าต่างควบคุมด้วยรีโมทคอนโทรล
C.ทางโครงการเลือกทำกรอบหน้าต่างให้มีโครงสร้างน้อย ๆ และมีบานหน้าต่างที่สูงเพื่อช่วยเปิดรับวิวได้กว้างไม่มีอะไรมาขวางสายตา
a. เลือกใช้พื้นไม้สีอ่อนทั้งห้องเพื่อให้ได้ความรู้สึกนุ่มนวล รวมทั้งใช้สีเฟอร์นิเจอร์ในโทนอ่อนดูเข้าชุดกันด้วย
b. เลือกใช้เก้าอี้ผลงานการออกแบบของชาวล์-อีม ขาเป็นไม้ ส่วนที่นั่งเป็นไฟเบอร์ทำสีดำดูโดดเด่น มีรูปทรงโค้งมนตัดกับเส้นสายเหลี่ยม ๆ ของโครงสร้างห้องได้เป็นอย่างดี
C.โต๊ะไม้ดีไซน์เรียบง่าย โดดเด่นด้วยลายไม้ดูสวยงามเป็นงานศิลปะบริสุทธิ์ที่เกิดจากธรรมชาติ
a. เลือกติดรูปปลาลายเส้นพู่กันจีน ไว้เหนือหัวเตียงเพื่อเสริมฮวงจุ้ยให้เกิดความเคลื่อนไหวของน้ำ
b. นำกระจกเงาบานใหญ่มาวางข้างเตียงเพื่อเพิ่มมุมมองให้ผนังห้องไม่ดูทึบตัน
room's tips :เรียนรู้เทคนิคการใช้กระจกเงาเพื่อหลอกตา
1. เลี่ยงการวางกระจกเงาในมุมมองระดับสายตาหรือในตำแหน่งที่ต้องจ้องเป็นประจำและเป็นเวลานาน อย่างหน้าโต๊ะทำงาน หรือหลังจอโทรทัศน์ เพราะการมองเห็นภาพตัวเองเคลื่อนไหวไปมาจะกวนสมาธิได้
2. หากกรุกระจกเงาที่บานประตูหรือกรุเต็มผนังห้อง ต้องระวังเป็นพิเศษเพราะอาจเดินชนได้หากไม่ระวัง จึงขอแนะนำให้เลือกใช้กระเงาติดฟิล์มสีชาหรือขุ่นเล็กน้อยเพื่อป้องกันอันตรายจากการเดินชน
3. เพิ่มมุมมองด้วยการใส่กระจกเงาในกรอบรูป แล้วนำไปวางในตำแหน่งที่สะท้อนภาพสวย ๆ เข้ามา เป็นอีกวิธีการช่วยสร้างบรรยากาศให้ห้องดูไม่น่าเบื่อจะย้ายหรือปรับเปลี่ยนองศาก็ทำได้ไม่ยาก