Hungry Eatery กุ๊กกิ๊กเรียบง่าย มีสไตล์แบบฟิวชั่น

เมื่อเลี้ยวรถเข้ามาในโครงการ Shelter 1 Acre บนถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เราจะเห็นตึกโทนขาวตัดกับสีเขียวของสนามหญ้าขนาดย่อม บนพื้นที่ขนาด 1 เอเคอร์หรือ 2.5 ไร่ตามชื่อโครงการ มี Outlet เสื้อผ้าเด็กอยู่ด้านหน้า ติดกันเป็นร้านขายของเล่นและไอศครีม ซึ่งมีโซนให้เด็กๆ ได้นั่งทำกิจกรรม เราเดินผ่านร้านตามทางในร่มมาเกือบสุด เงยหน้าขึ้นนิดก็เจอป้าย Hungry Eatery ร้านอาหารที่ตั้งใจมาในวันนี้ ฟอนท์ลายมือช่างน่ารัก จนทำให้เรายิ้มออกมาตั้งแต่ยังเดินไม่ถึงประตู

ร้าน Hungry Eatery เปิดเมื่อต้นปีที่ผ่านมาพร้อมๆ กับโครงการ ด้วยความตั้งใจของ คุณทัศพนธ์-คุณกันทิมา ธัญวงษ์ สถาปนิกและมัณฑนากรเจ้าของโครงการ ที่อยากให้ที่นี่เป็น Community Mall ขนาดเล็ก ให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันในแบบสบายๆ ไม่พลุกพล่านวุ่นวายเหมือน Shopping Mall และมีพื้นที่ให้เด็กๆ ได้วิ่งเล่น โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องคอยพะวงห่วงว่าลูกจะเกิดอันตราย เพราะสถานที่ไม่ได้กว้างจนเกินชายตาเห็น โดยทุกรายละเอียดการออกแบบตั้งแต่ตัวตึกไปจนถึงการตกแต่งร้านก็มาจากฝีมือของคุณทัศและคุณกัน ด้วยความถนัดของอาชีพที่ทำอยู่  การตกแต่งร้านเรียบง่ายด้วยโทนสีขาว-เทา แต่โดดเด่นด้วยโคมเพดานห้อยแก้วกาแฟ และภาพเครื่องปรุงอาหาร ที่มีคำศัพท์ภาษาอังกฤษกำกับ ลายเส้นกุ๊กกิ๊กน่ารัก ตั้งแต่ผนังร้านไปจนถึงลายบนกระดาษรองจาน สอบถามได้ความว่าทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของคุณกันทิมา ที่ลงมือวาดและเขียนเองล้วนๆ "มีคนมาถามเยอะมากว่าที่นี่ใช้ฟอนท์อะไร เราก็เลยตอบเขาไปว่า อ๋อ..เราใช้ฟอนท์กันทิมาค่ะ (หัวเราะ) แล้วลายบนผนังก็คือวัตถุดิบ เครื่องปรุงทั้งหมดที่เรานำมาประกอบอาหารนี่แหละค่ะ ส่วนฉากกั้นเจาะรูเป็นรูปภาชนะต่างๆ ก็เป็นรูปทรงของที่เราใช้ในร้านจริงๆ" คุณบี๋-นัทธมน ธัญวงษ์ ผู้ดูแลภาพรวมของร้านเล่าให้เราฟัง

เราเปิดเมนูสั่งอาหารก่อนจะชิมความน่ารักเสียจนอิ่ม วันนี้เริ่มด้วย ‘เนื้อย่างจิ้มแจ่ว' ที่คุณสมศักดิ์-เชฟใหญ่ประจำร้าน ออกมาแนะนำด้วยตัวเองว่า คัดเนื้อวัวสันในเกรดเอมาเพื่อความนุ่มอร่อย และถึงแม้จะแพงกว่าแต่ราคาก็ไม่ได้เพิ่ม มาพร้อมข้าวเหนียวแท่ง ทำจากข้าวเหนียวดำผสมขาวห่อด้วยแป้งปอเปี๊ยะนำไปทอดเสิร์ฟในกระทงใบตอง หน้าตาแปลกแต่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ จิบคู่ ‘ชาเขียวลาเต้' จากญี่ปุ่นแท้ๆ ชื่นใจ ตามมาด้วยเมนู ‘ราดหน้าเต้าซี่ทะเล' และ ‘ราวิโอลีซอสแดง' ที่เชฟลงมือผสมแครอทลงในแป้งนำมารีดด้วยตัวเอง สอดไส้ทูน่าราดด้วยซอสมะเขือเทศคองกาเซ่ หอมกลิ่นเครื่องเทศและชีสแบบอิตาเลียนแท้ๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูแนะนำน่าลองอย่าง ‘เห็ดกรอบชีส' และ ‘เกี๊ยวกรอบผัดไท' ท้องตึงแทบแตกแต่ยังไม่หยุดกิน ขอตบท้ายมื้อนี้ด้วย ‘เลเยอร์สตรอเบอร์รี่' เครปบางๆ สลับครีมราดซอสเบอร์รี่เปรี้ยวนิดๆ หวานหน่อยๆ และ ‘คุกกี้ผักโขม' ที่ใครว่าผักกินยากและทำขนมหวานไม่ได้ เราขอเถียงขาดใจ เพราะเคี้ยวกันเพลินจนลืมไปเลยว่าคุกกี้กรุบกรอบหอมเนยแท่งนี้มีผักด้วย

Fusion Food ของที่นี่ทำเราประทับใจสุดสุด จนขอยกมือปฏิญาณตนกับคนข้างๆ ว่าจะมาร้านนี้บ่อยๆ เพราะสามารถผสมผสานวัตถุดิบที่แตกต่างกันทั้งถิ่นฐานต้นกำเนิด และรสชาติ จนได้อาหารจานใหม่ที่นอกจากจะต้องใส่ใจความลงตัวของรสชาติแล้ว รูปลักษณ์สไตล์การตกแต่งยังทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ทานอาหาร ที่ผ่านการดีไซน์ลงจานมาด้วยความใส่ใจ จนสามารถสัมผัสได้ตั้งแต่อาหารถูกนำมาวางตรงหน้า เมนูที่ปรุงจากใจกับบรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง ทำให้ใครที่ได้มาเยือนต้องติดใจจนไม่อยากลุกไปไหนแบบเราอย่างแน่นอน

ขอขอบคุณ คุณบี๋-นัทธมน ธัญวงษ์

ร้าน Hungry Eatery โทร. 0 2943 9148

วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00 - 22.00 น.

วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00 - 22.00 น.

เมนูคุณแม่ : ราดหน้าเต้าซี่ทะเล 150 บาท + เลเยอร์สตรอเบอร์รี่ 90 บาท

เมนูคุณพ่อ : เนื้อย่างจิ้มแจ่ว 180 บาท + ชาเขียวลาเต้ 120 บาท

เมนูคุณลูก : ราวิโอลีซอสแดง 170 บาท + คุกกี้ผักโขม 80 บาท

เรื่อง : ภัทราวรรณ สุขมงคล / ภาพ : ธานี ดำมา

 

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)