‘ป๊อบ-วิน' ล่องเรือทัวร์ 4 เมืองในฝันสุดไฮโซ

ถึงจะเป็นคลื่นวิทยุที่จัดทริปมาแล้วอย่างโชกโชน แต่ทริปนี้กลับพิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะปีนี้เป็นปีที่ กรีนเวฟ 106.5 เอฟเอ็ม กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 20 การเดินทางของ "กรีนทริป#66 : เมดิเตอร์เรเนียน เดอะ เบสต์ เดสติเนชั่น" ครั้งนี้จึงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน กับการล่องเรือสำราญสุดหรูสู่ 4 ประเทศที่สวยที่สุดในคาบสมุทรเมดิเตอร์เรเนียน คือ อิตาลี, โครเอเชีย, ตุรกี, กรีซ โดยมี ป๊อบ-วิน แคลอรี่ บลาห์ บลาห์ และ ดีเจ "อ้อย" นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล ร่วมทริป

เริ่มต้นถอนสมอเรือ สเปลนเดอร์ ออฟ เดอะ ซี เรือสำราญสุดหรูหราที่มีทุกอย่างเทียบเท่าโรงแรมระดับ 5 ดาว เพื่อมุ่งหน้าสู่ ประเทศโครเอเชีย ขึ้นฝั่งเที่ยวเมือง ดูบรอฟนิค ชมเมืองเก่าที่ถึงแม้เคยถูกโจมตีจากกองกำลังทหารมาก่อน แต่ก็ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์จนกลับมาสวยงามได้อีกครั้ง เล่นเอาทั้ง ป๊อบ-วิน ที่ได้ฟังประวัติจากไกด์คนเก่งต่างรู้สึกขนลุกซู่ในความเก่าแก่ของเมืองที่ยังคงความสวยงามอยู่อย่างไม่มีที่ติ จนอดไม่ได้ที่จะแยกย้ายกันถ่ายรูปและเดินเที่ยวจนฉ่ำอุรา ก่อนจะลงเรือเพื่อออกเดินทางไปยังเมืองต่อไป

และคืนนี้นี่เองที่กัปตันเรือลงทุนเนรมิตให้เรือยักษ์ลำนี้กลายเป็นงานเลี้ยง Captain Gala Dinner เพื่อเลี้ยงต้อนรับทุกคนบนเรือ งานนี้ทุกคนในทริปต่างพร้อมใจกันแปลงกายอยู่ในชุดราตรีและชุดสูทสุดหรูร่วมดินเนอร์ในมื้อค่ำอันสุดพิเศษ จนหนุ่มป๊อบแอบหลุดปากสารภาพรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในฉากงานเลี้ยงสุดหรูของภาพยนตร์ไททานิคยังไงยังนั้น แหม...ช่างกล้าคิดเนาะ!!

วันต่อมาเรือเทียบท่าถึง กุชอาดาชี ทุกคนต่างสดชื่นเมื่อรู้ว่าจะได้ไปเยือนบ้านพักสุดท้ายของ พระแม่มารี และสถานที่ ศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้แสวงบุญของชาวคริสต์ จึงรีบตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากพระแม่มารี และยังได้ดื่มน้ำธรรมชาติทั้ง 3 บ่อ ที่แต่ละบ่อจะให้พรแตกต่างกันออกไป บ่อแรกให้พรเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ บ่อที่สองให้ชีวิตรุ่งเรือง และบ่อสุดท้ายให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุข ป๊อบกับวินจึงตรงปรี่เข้าไปเปิดก๊อกแล้วดื่มกันซะอึกใหญ่ ก่อนที่จะเดินมาเขียนคำอธิษฐานลงกระดาษแล้วผูกขอพรกับพระแม่มารี งานนี้หนุ่มวินเขียนใส่ไปซะยาวเหยียดจนกระดาษไม่มีที่ว่างกันเลยทีเดียว

จากนั้นเดินเที่ยวกันต่อที่เมือง เอฟิซุส ประเทศตุรกี เมืองโบราณที่ชาวโรมันก่อสร้างขึ้นเพื่อการค้า ที่มีการขุดค้นทางโบราณคดีจนป๊อบอดไม่ได้ที่จะสวมบทเป็นนักโบราณคดีส่องนู่นส่งนี่แบบไม่สะทกสะท้านกับแดดร้อนๆ กระทั่งเดินทางมาถึง เกาะซานโตรินี ประเทศกรีซ ก็พากันขึ้นเคเบิลคาร์ไปทึ่งกับจุดชมวิวบนยอดเขาสูงชันที่มองเห็นวิวทั่วทั้งเกาะที่รายล้อมด้วยบ้านปูนสีขาวสะอาดตาและทาหลังคาฟ้าที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้

วันถัดมาดูจะลั้นลาเป็นพิเศษเพราะเป็นวันที่จะได้ไปช้อปปิ้ง และเที่ยวชมวิถีชีวิตชาวเมืองของชาว คอร์ฟู กันอย่างเต็มที่ ก่อนที่เรือสำราญสุดหรูจะถอนสมอมุ่งหน้าไปสู่ มหาสมุทรแอตแลนติก ที่ถือเป็นท่าสุดท้าย เล่นเอาทุกคนใจหายได้ที่จะต้องอำลาจากเรือสำราญสุดหรูที่ผูกพันกันมาหลายคืน เพื่อเดินทางสู่ เกาะเวนิส ประเทศอิตาลี เมืองในฝันที่ทุกคนรอคอย

เมื่อมาถึงทั้งป๊อบและวินก็ดูจะตื่นตาตื่นใจอีกครั้งที่ได้นั่งเรือล่องไปตาม แกรนด์ คาแนล เส้นทางหลักของเวนิสที่มีความยาวกว่า 3 กิโลเมตร ดื่มด่ำบรรยากาศสองฟากฝั่งที่มีอาคารสไตล์ไบแซนไทน์และโกธิคให้ชื่นชมกันตลอดระยะทาง นับเป็นการล่องเรือที่เป็นเอกลักษณ์ที่หาจากเมืองไหนไม่ได้และโรแมนติกสุดๆ สมคำร่ำลือจริงๆ จากนั้นก็ได้เวลาโบกมืออำลาเวนิสบินกลับเมืองไทยพร้อมความประทับใจที่ป๊อบกับวินไม่มีวันลืมเลือนอย่างแน่นอน

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)