Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060https://s.isanook.com/tr/0/ud/135/677331/m_00509_001.jpg UNSEEN Vietnam (ตอนที่ 2)
2004-01-20T00:00:58+07:00
20 มกราคม 2547
เรื่อง/ภาพ โดย ... โน้ต
วันที่ห้า Happy New Year 2003 ครับ วันนี้ผมจะพาคุณ
นั่งเรือ Hydrofoil ไปเที่ยว Vung Tao เมืองชายทะเลที่ใกล้ไซ่ง่อนและมีชื่อเสียงแห่งนึง
ประมาณพัทยาบ้านเรานะครับ
ก่อนอื่นคุณต้องไปซื้อตั๋วก่อนนะครับ
ค่าเรือก็คนละ 10 USD
แต่ถ้าเป็นชาวเวียดนามก็ถูกลงประมาณครึ่งนึง
80,000 VND เรื่อมีออกทุก ๆ
ชั่วโมงตั้งแต่ 6
โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น
นั่งเรือประมาณ 1
ชั่วโมงก็ถึงนะครับ
ผมเลือกนั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์เที่ยวรอบเมือง
ราคาก็ 1 USD ต่อชั่วโมง เราก็ขับรถไปชมวัด
ชายหาด
ขึ้นเขาไปชมวิวจากประภาคาร
ที่เมืองนี้มีรูปปั้นขนาดใหญ่เต็มไปหมด
ทั้งพุทธและคริสต์
ที่โดดเด่นที่สุดก็คือรูปพระเยซูที่อยู่บนเขา
ซึ่งเลียนแบบมาจากริโอ
ในบราซิลเลยนะครับ
ผมเลือกกลับไซ่ง่อนด้วยเรือเที่ยวสุดท้ายมาถึงก็ไปแวะทานข้าวที่ตลาด
Ben Than
วันนี้เราเลือกทานข้าวที่ร้าน
Pho2000 เป็นร้านที่ บิล
คลินตัน
เคยมานั่งทานที่นี่
แน่นอนว่าต้องมีรูปของเค้า
และข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ติดเต็มผนังร้านไปหมด
วันที่หก
2 มกราคม 2547
ผมเลือกเดินทางกับ buffalo
travel agency เจ้าเดิม
โดยเลือกไปเที่ยว Mekong
Delta แบบ 1 day trip ราคาก็ 7 USD
ถ้าคุณมีเวลาก็สามารถเลือกเป็นแบบค้างคืนกับชาวบ้านเป็น
2 days หรือ 3 days
ราคาก็จะแตกต่างกันไป
ความรู้สึกก็คงไม่ต่างกับเมืองไทยมากนัก
แต่จะได้คนละบรรยากาศกันนะครับ
คุณจะได้เห็นความกว้างใหญ่ของแม่น้ำโขง
พรมแดนทางน้ำ
ระหว่างกัมพูชากับเวียดนาม
สถานที่ถ่ายทำภาพยนต์
An Quiet American ชมสวนผลไม้
การทำขนม
การเลี้ยงผึ้ง
และการเล่นดนตรีพื้นเมือง
ตอนค่ำ
ๆ ผมออกไปซื้อ sandwich
กับคุณลุง ที่ร้านชื่อ
Ha Noi
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามีที่มาจากที่ไหนนะครับ
อร่อยมาก
ราคาไม่แพงสำหรับเรา 8000
VND และถ้าคุณปวดเมื่อย
ก็ลองหาเด็ก ๆ
ที่ปั่นจักรยาน
และในมือถือเครื่องบอกจังหวะ
ที่ทำด้วยฝาน้ำอัดลมทุบให้แบนแล้วร้อยใส่ด้ามจับ
ปั่นไปเขย่าไป
นั่นแหละครับคือหมอนวด
สถานที่นวดก็ตามข้างถนน
ปูผ้ายางแล้วก็นวดกันเลย
อุปกรณ์ที่ใช้ก็มีไฟแช็คแล้วก็แก้วใบเล็ก
เวลานวดต้องถอดเสื้อ
นวดเสร็จ
หลังคุณก็จะเป็นจ้ำๆ
จุดๆ นะครับ
นับเป็นอีกอย่างที่น่าสนใจมาก....
แต่ว่าผมเห็นแต่คนเวียดนามเท่านั้นที่ใช้บริการกัน
|
วันนี้ครบ
1 อาทิตย์ที่อยู่เวียดนาม
วันนี้เราสองคนเลือกไปเที่ยว
Mui Ne
เมืองชายทะเลที่อยู่ทางเหนือไปประมาณ
200 กิโล
เรานั่งรถไปกันโดยขึ้นรถที่
เอเจนซี่เจ้าเดิมของเรา
การเดินทางวิธีที่สะดวกก็คือ
ซื้อจาก agency นะครับ
รถที่เราไปเป็นรถของเอกชน
ราคาก็เที่ยวละ 5 USD
เดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
ถ้าคุณจะไปฮานอย
ก็สามารถไปได้ด้วยรถเที่ยวเดียวกัน
โดยซื้อตั๋วแบบเปิดนะครับ
ราคา แค่ 20 USD ระยะทาง 2,000
กิโลเมตร เดินทาง 2 วัน
โดยมีจุดให้คุณหยุดและเที่ยวได้
คือ Mui Ne , Phan Thiet, Danang , Hue
หรือถ้าคุณอยากเดินทางกลับเมืองไทยโดยรถก็ทำได้
ราคา แค่ 24 USD โดยเดินทาง 3
วันนะครับ
คืนแรกต้องไปแวะที่พนมเปญ
คืนที่สองนอนที่เสียมเรียบ
วันที่สามแวะปอยเปต
ออกจากไซ่ง่อนตอนเช้า
ถึงเมืองไทยตอนเย็น
ราคานี้ไม่รวมวีซ่าและที่พัก
เราไปถึง Mui
Ne ราวๆ ตอนเที่ยง
สิ่งแรกที่ทำก็คือติดต่อรถขากลับเพราะว่าเราจะกลับกันวันนี้
เนื่องจากผมต้องกลับกรุงเทพในวันรุ่งขั้น
ถ้ากลับบ่าย 2
พรุ่งนี้จะไม่ทันขั้นเครื่อง
ดังนั้นต้องกลับรถรอบตีสอง
พอจัดแจงเรื่องรถกลับได้แล้ว
ก็ทานข้าว
และก็เช่ารถมอเตอร์ไซด์ขับรอบเมืองกัน
โดยผมทำหน้าที่เป็นคนขับ
ส่วนจีเป็นคนบอกทางนะครับ
จุดแรกที่เราไปแวะก็คือ
Fishing Village
เป็นจุดที่สวยมากเป็นหาดโค้งที่เต็มไปด้วยเรือประมงที่จอดกันเต็มท้องทะเลไปหมด
จากนั้นเราก็ไป Red
Sand Dune กัน
ไม่อยากจะบอกสวยมาก
ไม่น่าเชื่อว่าจะมีสถานที่แบบนี้ในที่แบบนี้นะครับ
(งง)
ถ้าใครมาก็คงเข้าใจความรู้สึกนี้ได้นะครับ
สวยมากๆ
เราเสียเวลาในการเดินเล่นอยู่ที่นี่นานมาก
พร้อมกับหมดฟิล์มไปหลายรูปเลยทีเดียว
|
Vung Tao - ถ่ายจากประภาคาร
จะมองเห็นวิวของเมืองนี้ทั้งหมด
ที่เมืองชายทะเล Mui Ne
Fishing Village
สองข้างทางไป White Sand Dune
|
จุดมุ่งหมายต่อไปของเราก็คือ
White Sand Dune
แต่ว่าพวกเราไปไม่ถึงนะครับ
เพราะว่าไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน(แฮะๆ)
แต่ว่าสองข้างทางที่ขับรถผ่านก็วิเศษมากแล้ว
เราขับรถไปได้ซักพักเราก็ตัดสินใจกลับเพราะว่าทนแรงลมที่พัดเอาทรายมาขัดตัวไม่ไหว
แล้วก็ใกล้ค่ำแล้ว
ก็เลยรีบกลับกัน
คิดเอาว่าไว้คราวหน้าจะมาใหม่
มานอนซัก 2-3
คืนจะได้เที่ยวให้ทั่ว
เพราะว่ายังมีอีกหลายที่
ที่ยังไม่ได้ไปคือ Lotus Lake
แล้วก็นาเกลือ นะครับ
นอกจากนี้ชายทะเลที่นี่ก็สวย
แม้ว่าทรายจะไม่ขาว
แต่ว่าก็มีความเป็นส่วนตัว
และสงบ
ใครที่ชอบกีฬาทางน้ำ
ที่นี่มี เรือใบกับวินเซิร์ฟไว้รอคุณ
ส่วนวิธีการที่จะเที่ยวให้สนุกและสะดวกก็คือการเช่ารถ
JEEP พร้อมคนขับ
ราคาก็ไม่แพง 15-30 USD
ต่อวัน
ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่คุณจะไป
ตอนเย็นผมเลือกนั่งทานข้าวร้านอาหารริมทะเลฝั่งตรงข้ามกับเอเจนซี่
อาหารทะเลที่นี่ถูกและสดมาก
ราคาก็ไม่แพงเลย
ไม่เหมือนบ้านเรา
ที่บางครั้งไปทะเลแต่กลับกินหมูหรือไก่แทน
แต่สิ่งที่ต้องปรับปรุงคือรสชาติของอาหารนะครับ
ผมว่ายังสู้อาหารไทยไม่ได้
เพราะคนไทยขึ้นชื่อในการปรุงอาหารให้อร่อยอยู่แล้วนะครับ
|
ผมนั่งทานข้าวจนถึง
4
ทุ่มก็ไปนั่งอยู่ที่เอเจนซี่แทน
ไปนั่งรอรถที่จะมาตอนตี 2
พนักงานที่นั่นก็บอกว่านอนรอแล้วกัน
โดยเค้าจัดที่นอนกางมุ้งให้นอนด้วยนะครับ
ทำให้ผมปลื้มใจในความมีน้ำใจของคนเวียดนามมาก
ลบคำพูดที่เคยได้ยินมาบ่อยๆว่า
คนเวียดนามไม่เป็นมิตร
เรานอนหลับกันจนถึงตี 2
รถมาจอดตะโกนเรียก
เราก็ตื่นขึ้นรถไปเลยนะครับ
มาถึงไซ่ง่อนตอนเช้าราว 6
โมง
ก็กลับเข้าบ้านแล้วก็อาบน้ำนอน
ตื่นมาอีกทีราวๆ 9
โมงเช้า
อาบน้ำแต่งตัวออกไปข้างนอก
เพราะว่าวันนี้ผมมีนัดไปเจอผึ้ง
เพื่อนสมัยเรียนที่มาจากเมืองไทยเมื่อวานนี้
ที่ Palace
พวกเราก็เดินเล่นรอบเมืองแบบสบาย
ๆ
โดยเน้นที่การซื้อของฝากกัน
เพราะว่าผมจะกลับเมืองไทยแล้ว
โดยก่อนกลับผมพาผึ้งไปรู้จักกับคุณลุงคุณป้าด้วย
โดยเราถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก
ถ้าคุณอยากสัมผัสสิ่งดี
ๆ
ที่ผมได้รับระหว่างพักอยู่กับคุณลุงกับคุณป้าก็แวะมาพักทีนี่ได้โดยจองล่วงหน้ามาก่อนนะครับ
http://victoryhouse.4t.com
จากนั้นผมก็นั่ง Taxi
ไปสนามบิน
โดยแวะส่งผึ้งที่โรงแรมก่อน
เป็นอันสิ้นสุดการเดินทางอันวิเศษสุดของผม
.....
แต่ว่าไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่ผมจะมาเวียดนามแน่นอน
แล้วเจอกันใหม่คราวหน้าครับ |
ย้อนกลับไปอ่านเรื่อง UNSEEN
Vietnam (ตอนที่1)
|
แชร์เรื่องนี้