La Flora Spa

La Flora Spa

La Flora Spa
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ท่านติช นัท ฮันห์ พระภิกษุชาวเวียดนามเคยเปรียบความสุขกับการดื่มชาไว้ว่า ขณะยกถ้วยชาอุ่นๆ ดื่ม ถ้าเรามัวแต่คิดถึงเรื่องเมื่อวาน หรือกังวลกับพรุ่งนี้ที่ยังมาไม่ถึง เราจะรู้รสชาติกลมกล่อมและได้กลิ่นหอมของชาได้อย่างไร กว่าจะรู้ตัว ชาก็เกลี้ยงถ้วยเสียแล้ว

 ที่ La Flora Spa ภายใน La Flora Spa & Resort เขาหลัก จังหวัดพังงา จังหวะที่ฉันกำลังเอนตัวลงนอน เพื่อรอรับสัมผัสสบายกาย ข้อคิดนั้นของท่านติช นัท ฮันห์ ก็ผุดเข้ามาในหัว ฉันหายใจเข้าลึกๆ แล้วตั้งใจพักวางเรื่องราวรกสมองไว้ข้างหลัง ขอดื่มด่ำกับความสุขกายสบายใจที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างเต็มที่

 ภายในห้องนวดขนาดใหญ่จำนวน 4 ห้อง บรรจุเตียง 2 เตียงขนาบข้างกัน รองรับร่างด้วยผ้าขนหนูผืนนุ่ม แสงไฟสีส้มอุ่นสร้างความผ่อนคลายทั่วพื้นที่ อีกอบอวลด้วยกลิ่นหอมของพฤกษาที่ลอยอยู่ในอ่างน้ำ เพลงบรรเลงที่สอดแทรกด้วยเสียงธรรมชาติกล่อมเบาๆ อย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าเมื่อก้าวเข้ามาในสปาแห่งนี้ จะได้ยินเสียงเพลงบรรเลงคลอหู และรู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมจรุงใจเคลียจมูกในทันที

ก่อนทำการนวดแบบใดๆ ที่นี่จะมีการตรวจทางหัตถเวชให้กับแขกโดยผู้เชี่ยวชาญ ยกแขน ยกขา ในลักษณะท่าต่างๆ ที่สามารถดูได้ว่ามีส่วนใดของร่างกายที่มีปัญหาหรือไม่ เพื่อจัดโปรแกรมการนวดให้เข้ากับสภาพร่างกายผู้ใช้บริการที่สุด

  สิ่งพิเศษของ La Flora Spa คือน้ำมันสำหรับการนวดอโรม่า (Aromatherapy Massage) ซึ่งสกัดจากพันธุ์ไม้ธรรมชาติ แล้วนำมาผสมเข้าด้วยกันจนได้ 10 กลิ่นที่ลงตัวที่สุด ซึ่งเราสามารถทดสอบทุกกลิ่นได้ก่อนเลือกใช้บริการ

กลิ่นที่ฉันออกจะติดอกติดใจที่สุด คือ กลิ่นใจเย็น (Jai Yen) ที่เกิดจากการรวมกันของ กลิ่นมิ้นท์ (Mint) และยูคาลิปตัส (Eucalyptus) ซึ่งจะควบคุมให้อารมณ์เย็นลง และผ่อนคลาย ส่วนกลิ่นยอดนิยมของผู้ใช้บริการ คือ กลิ่นสวัสดี (Sawasdee) ประกอบไปด้วย กลิ่นเลมอน (Lemon) กลิ่นส้ม (Orange) และกลิ่นดอกเจอราเนี่ยม (Geranium) นอกจากเลมอนและส้มจะช่วยให้รู้สึกสดชื่นแล้ว กลิ่นของดอกเจอราเนี่ยมยังช่วยสร้างความสมดุลของอารมณ์อีกด้วย และนี่คือเหตุผลที่ La Flora Spa สร้างกลิ่นผสมของน้ำมันอโรม่าขึ้นมา เพื่อเพิ่มคุณประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการให้มากที่สุดนั่นเอง

อีกหนึ่งการนวดที่พลาดไม่ได้ คือ นวดไทย (Thai Traditional Massage) ฝ่ามือและนิ้วของผู้นวด จะออกแรงกดไปตามจุดต่างๆ หรือกล้ามเนื้อที่เกิดการตึงเครียดได้ง่าย เริ่มจากปลายเท้า ไล่เรื่อยขึ้นมาถึงแผ่นหลัง ช่วงไหล่ และปิดท้ายด้วยการนวดศีรษะ ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง แต่รู้สึกได้ถึงความผ่อนคลายไปทั้งร่าง

บอดี้ ทรีตเม้นท์ (Body Treatment) คือโปรแกรมสุดพิเศษของสาวๆ ที่รักในการดูแลผิวพรรณ ทั้งการมาส์กผิว (Body Mask) และ สครับผิว (Body Scrub) สูตรพิเศษของที่นี่คือ White Mud มีส่วนผสมของงาดำและน้ำผึ้ง มาส์กผิวทิ้งไว้ประมาณ 45 นาที จากนั้นละลายดินสอพองพอกซ้ำอีกครั้ง เพื่อดูดซับสิ่งสกปรก อีกสูตรหนึ่งคือ 3 ศาลา มีชาขาว ข้าวโอ๊ต แตงกวา สำหรับมาส์กผิว ใช้เวลาประมาณ 45 นาที แล้วล้างออกด้วยโยเกิร์ตอีกที เป็นโปรแกรมผลัดเซลล์ผิวแล้วตามด้วยการบำรุง

อีกหนึ่งความพิเศษของที่นี่คือ ยามเช้าจะมีการเล่นโยคะ เพื่อกระตุ้นร่างกายให้เปิดรับวันใหม่ หลังจากรีดเหงื่อให้พอชุ่มชื่นผิวแล้ว จึงตบท้ายด้วยนวดอโรม่า ถือว่าเป็นโปรแกรมที่น่าสนใจอย่างมากมีข้อแนะนำว่า 2 ชั่วโมง หลังจากการนวดแบบใดๆ ก็ตาม อย่าเพิ่งอาบน้ำ เพื่อปล่อยให้สมุนไพร หรือน้ำมันซึมเข้าผิวให้มากที่สุด อีกทั้งเป็นการปล่อยให้เลือดไหลเวียนสักพัก และควรดื่มน้ำอุ่นหลังการนวด หลีกเลี่ยงน้ำเย็น

ช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านพ้นไปแล้ว ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่ง รู้สึกผ่อนคลายไปทั้งกาย สบายไปทั้งใจ แจ่มชัดทันทีว่า ไม่มีความสุขใด จะสุขเท่าปัจจุบันขณะอีกแล้ว และที่ La Flora Spa เป็นอีกครั้งที่ฉันพบเข้ากับความสุขนี้ La Flora Spa มีโปรแกรมการนวดอีกมากมาย ให้ผู้เข้าใช้บริการเลือกตามรสนิยมของตน

La Flora Spa ตั้งอยู่ที่ La Flora Resort 59/1 หมู่ 5 ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา 82190 โทร. 0-7642-8000-28 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.lafloraresort.com

สนับสนุนข้อมูลจาก นิตยสาร voyage
Voyage, October 2007 ออนไลน์วันที่ 6 พฤศจิกายน 2550

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook