เฉลิมฉลอง 220 ปีกรุงรัตนโกสินทร์

หลังจากขึ้นครองราชย์แล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงโปรดให้มีการสร้างพระนครขึ้นมาใหม่ ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้า พระยาเยื้องกับกรุงธนบุรีราชธานีเดิมและ ทำพิธียกเสาหลักเมือง เมื่อวัน อาทิตย์เดือน 6 ขึ้น 10 ค่ำปีขาล จุลศักราช 1144 ตรงกับวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 โดยพระราชทานนามว่า "กรุงเทพมหานคร บวรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศนมหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สัก กะทัติยวิษณุกรรมประสิทธิ" และต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4ทรงเปลี่ยนนาม ใหม่เป็น "กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์" ระยะเวลาตั้งแต่แรกตั้งกรุงเทพมหานครฯ เมื่อปี พ.ศ. 2325 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันเรียกว่า "สมัยรัตนโกสินทร์" ร.ต.ต. เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสฉลองราชธานี 220 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ 21 เมษายน 45 กรุงเทพมหานครจะจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 20-25 เม.ษ. 45 ณ เวทีท้องสนามหลวง โดย เวทีด้านทิศใต้ (ด้านกำแพงพระบรมมหาราชวัง) ชมการแสดง แสง สี เสียงบอกเล่าวิวัฒนาการของกรุงรัตนโกสินทร์ ความเปลี่ยนแปลง ของบ้านเมือง สังคม ศิลปวัฒนธรรม ในแต่ละรัชสมัยของพระมหากษัตริย์ ในพระบรมราชวงศ์จักรี กำกับการแสดงโดย ยุทธนา มุกดาสนิท สนิท จัด แสดง 3 คืน ในวันที่ 21,23, 25 เม.ษ.45 ตั้งแต่ เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป ส่วนคืนวันที่ 22 และ 24 เม.ษ.45 จัดฉายภาพยนตร์ไทยที่เคยโด่งดังใน อดีตคืนละ 2 เรื่องไม่ซ้ำกัน สำหรับ เวทีด้านทิศเหนือ (ด้านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) พบกับ ความบันเทิงบนเวที โดยศิลปิน นักร้อง นักแสดงชื่อดัง และการแสดงตลก ลิเก ลำตัดตลอด 6 คืน คือวันที่ 20-25 เม.ษ. 45 ซึ่งในคืนวันที่ 20 เม.ษ. 45 จะเปิด เวที Count Down ฉลองราชธานี 220 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ พบ เบนซ์ พรชิตา ณ สงขลาและ ดารานักร้องดังมากมาย ก่อนร่วมกันนับถอยหลังเมื่อใกล้เวลา 24.00 น.ติดตามชมการถ่ายทอดสดงาน Count Down ทางสถานีโทรทัศน์ ITV เวลา 22.30-24.15 น. ทั้งนี้การแสดงและมหรสพต่างๆที่ท้องสนามหลวง จัดแสดงให้ประชาชนชมฟรีตลอดงาน ชมขบวนรถบุปผาชาติ ตระการตากว่าร้อยคี่ถนนราชดำเนิน ตลอดสาย สำหรับกิจกรรมงาน ฉลองราชธานี 220 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ 21 เม.ษ.45 ในช่วงเช้า เริ่มตั้งแต่เวลา 06.30 น. ณ มณฑลพิธีท้อง สนามหลวงมีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 220 รูป และพระราชาคณะ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์เวลา 08.29 น. ผู้ว่าฯ กทม. นำคณะผู้บริหาร และข้าราชการ กทม. สักการะศาลหลักเมือง เวลา 09.30 น. พิธีสืบชะตา เมือง โดย นิมนต์ พระสงฆ์ 4 รูปประจำปะรำพิธี 4 ภาค บริกรรมคาถา นครขาน โดยมีริ้วขบวน 4 ภาค บรรเลงนาฏดนตรีพร้อมอัญเชิญเครื่อง สังเวยเข้าสู่ปะรำพิธี 4 ทิศ เพื่อประกอบพิธีสืบชะตาเมือง ในภาคบ่าย เวลา 16.00 น. ชมความงามของขบวนรถบุปผาชาติ และขบวนพาเหรดกว่า 100 คัน ที่ถนนราชดำเนินตลอดสาย ซึ่งจะมีการ จัดขบวนรถบุปผาชาติของสถานทูตต่างๆ เช่น ประเทศ สวิสเซอร์แลนด์ แอฟริกาใต้ และ สาธารณรัฐเกาหลีขบวนรถของบริษัทต่างๆ สำนัก และ สำนักงานเขต 50 เขตของกทม. ร่วมด้วยขบวนพาเหรดของหน่วยงาน กระทรวง ทบวง กรม สถาบัน การศึกษา สมาคมต่างๆ ขบวนพาเหรด ศิลปวัฒนธรรม พื้นบ้าน 4 ภาค ขบวนพาเหรดย้อนยุคสุโขทัย และลพบุรีตลอดจนขบวนพาเหรด ของสถานทูตแต่งกายในชุดประจำชาติ เช่น ภูฐาน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มองโกเลีย ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา สวิสเซอร์แลนด์ เวียตนาม ฯลฯ ขบวนพาเหรด และขบวนรถบุปผาชาติจะคั่นด้วยวงโยธวาทิตที่ชนะการประกวด ในระดับประเทศ และระดับโลก ประมาณ 15 วง และวงดุริยวงศ์กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ร่วมเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา ริ้วขบวน แบ่งเป็น 8 ขบวน ประดับตกแต่งอย่างสอดคล้องกับแนวคิด 1. เฉลิมรัฐฉัตรแก้ว 9 รัชกาล 2.สืบสานประเพณีวัฒนธรรมล้ำค่า 3. สี่ภาค วิถีไทยตระการตา 4. ภูมิปัญญาการละเล่นกีฬาไทย 5 รวมของดีมีคุณค่า 50 เขต 6.นานาประเทศฉลองกรุงครั้งยิ่งใหญ่ 7. ทุกชนชาติอยู่ดีมีสุขในเมืองไทย 8. ราษฎร์ รัฐ ต่างร่วมใจเฉลิมฉลอง 220 ปี ขบวนรถบุปผาชาติ และ ขบวน พาเหรดจะเริ่มเคลื่อนขบวนเวลา 16.00 น. ไปตามถนน ราชดำเนินกลาง โดยมี พิธีเปิดที่ลานพลับพลา มหาเจษฎาบดินทร์ ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สิ้นสุด ขบวนที่ท้องสนามหลวง และมีอัฒจันทร์สำหรับชมขบวนรถบุปผาชาติ และขบวน พาเหรด รองรับผู้ชมได้ประมาณ 2,000 คน ตามแนวเส้นทางที่ขบวนผ่านด้วย ทางศูนย์ท่องเที่ยวกรุงเทพฯ และ กรุงเทพมหานคร จึงขอเชิญชวนและร่วมกันเฉลิมฉลองในปีอันมิ่งมงคลนี้ Leisure Team