รีวิว RAVA Beach Club ประสบการณ์ริมหาดภูเก็ต ที่ต้องมาสักครั้ง

ภูเก็ต! เป็นอีก Landmark ที่หลายคนอยากไปเพราะมองว่าเป็นทั้งวัฒนธรรม และมีสถานที่หนึ่งที่ตรงหาดลากูน่า ที่เพิ่งเปิดอย่าง RAVA Beach Club ถือว่าบีชคลับที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมพลิกโฉมประสบการณ์การพักผ่อนริมทะเลของภูเก็ตให้น่าจดจำยิ่งกว่าเดิม ด้วยทิวทัศน์ทะเลแบบพาโนรามา สระว่ายน้ำอินฟินิตี้ถึง 3 สระ และคอนเซ็ปต์ที่ผสมผสานเสียงของธรรมชาติ ดนตรี และเสียงหัวเราะของผู้คนเข้าไว้ด้วยกัน รอบนี้ Sanook Tracel พาคุณไปสัมผัสแบบใกล้ชิดกับ จุดเด่นของหาดแห่งนี้

ค้นพบ Vibe ที่ใช่ใน 3 โซน 3 สไตล์

RAVA Beach Club ครอบคลุมพื้นที่กว่า 3,500 ตารางเมตร โดยแบ่งออกเป็น 3 โซนหลักที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการ

1. YOUNG & FUN: พื้นที่แห่งความสนุกและจังหวะดนตรี โซนไฮไลต์ของ RAVA ที่เต็มไปด้วยพลังและความมีชีวิตชีวา รายล้อมด้วยสระว่ายน้ำอินฟินิตี้ทั้ง 3 สระ พร้อมเตียงอาบแดดและที่นั่งกว่า 180 ที่ เหมาะสำหรับการพักผ่อน สังสรรค์ และเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงจากดีเจ เป็นจุดที่สมบูรณ์แบบสำหรับการถ่ายภาพลงโซเชียลมีเดียและสร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำ

2. MASTER GRILL: สวรรค์ของคนรักเมนูย่าง โซนอาหารที่โดดเด่นด้วยครัวแบบเปิด (Open Kitchen) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบ้านสไตล์โมเดิร์น หัวใจของโซนนี้คือเตาย่างถ่านขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางครัว ให้แขกได้สัมผัสประสบการณ์ไลฟ์คุกกิ้งอย่างใกล้ชิด นำทีมโดย Head Chef โจชัว เกรย์ (Joshua Gray) ผู้มีประสบการณ์กว่า 15 ปีจากออสเตรเลีย ที่จะรังสรรค์เมนูย่างสุดพิเศษ ทั้งเนื้อดรายเอจพรีเมียม ซีฟู้ดสดๆ และเมนูซิกเนเจอร์อย่างสเต็กโทมาฮอว์กและเส้นหมึกดำเนื้อปูซอส XO โดยผสมผสานเทคนิคระดับสากลเข้ากับวัตถุดิบท้องถิ่นของไทยได้อย่างลงตัว

3. PRESTIGE: ความเป็นส่วนตัวและหรูหราระดับเอ็กซ์คลูซีฟ โซนพิเศษที่สงวนไว้สำหรับเจ้าของเรสซิเดนซ์ในโครงการลากูน่าและสมาชิกคลับเท่านั้น มอบความเป็นส่วนตัวสูงสุดด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งห้องอาหารปรับอากาศ สระว่ายน้ำอินฟินิตี้ส่วนตัว เตียงอาบแดด ล็อกเกอร์ และห้องอาบน้ำ เป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อนริมทะเลที่เหนือระดับอย่างแท้จริง

กิจกรรมและบริการที่เติมเต็มวันพักผ่อนของคุณ

นอกเหนือจากโซนต่างๆ แล้ว RAVA ยังมีกิจกรรมและบริการอีกมากมายที่ทำให้คุณเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งวัน

• RAVA DAY PASS: สำหรับแขกทั่วไป สามารถเข้ามาใช้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้ตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้อาบแดด เตียงพักผ่อน หรือจะเลือกแช่น้ำในสระอินฟินิตี้ก็ทำได้
• PURA VIDA SUNDAY BRUNCH: เติมเต็มวันอาทิตย์ด้วยบรันช์มื้อสายริมทะเล เสิร์ฟเมนูย่าง ซีฟู้ดสดๆ พร้อมสปาร์กลิงไวน์ และสามารถอัปเกรดเป็นแชมเปญ Veuve Clicquot ได้
• กิจกรรมสุขภาพและกีฬาทางน้ำ: สำหรับสายแอคทีฟ มีกิจกรรมให้เลือกสนุกทั้งการพายคายัก แพดเดิลบอร์ด หรือจะผ่อนคลายกับกิจกรรมโยคะวันพระจันทร์เต็มดวงและซาวด์บาธก็ได้
• กิจกรรมสำหรับเด็ก: มีพื้นที่ให้เด็กๆ ได้เล่นสนุกและเสริมสร้างจินตนาการอย่างปลอดภัย
• THE BOUTIQUE: ร้านค้าที่รวบรวมไอเทมจำเป็นสำหรับทะเล ตั้งแต่ชุดว่ายน้ำ แว่นกันแดด ไปจนถึงของที่ระลึกจากท้องถิ่นและของที่ระลึกจาก RAVA

จากทั้งหมดต้องบอกว่า RAVA Beach Club ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่สำหรับมานั่งชมวิวทะเล แต่เป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อนที่ไร้ข้อจำกัด ที่ซึ่งคุณสามารถเริ่มต้นวันด้วยความสงบในช่วงบ่าย และปิดท้ายด้วยปาร์ตี้สนุกสนานในยามค่ำคืน พร้อมมอบประสบการณ์ริมหาดที่จะสร้างความประทับใจให้คุณไปอีกยาวนาน

ปิดท้ายของจริง นอกจากทริปนี้จะพาไป RAVA Beachclub แล้ว การบินไปภูเก็ตครั้งนี้กับ การบินไทย ก็ให้ประสบการณ์ที่ดี นั่งสบาย มีหนังกับบริการ Wi-Fi ต่อกับมือถือแล้วดูได้เลยสะดวกมากๆ เลยเทียบ และขึ้นชื่อว่าสายการบินใส่ใจแบบนี้ ต้องบอกว่าเขา เสริฟตลอดเวลา เลยครับ!