หลังจากไปชมหอไอเฟลมาจนชุ่มปอด ก็มาถึงโค้งสุดท้าย..ใน Paris มุ่งหน้าสู่พิพิธภัณฑ์ลูฟว์ และแวะมหาวิหารนอเทอร์ดาม ต่อด้วยการนั่งรถ 2 ชั้นเปิดประทุน ชมทิวทัศน์ในจุดสำคัญๆ ในฝรั่งเศสกันต่อค่ะ.. อ่านย้อนหลัง Provence & Paris in summer – โพรว๊องซ์ ปารีส เที่ยวเองได้ง่ายๆไม่ง้อทัวร์ ตอน 3 .. คลิ๊ก
วันที่ห้าของทริป ตั้งใจจะใช้เวลาสบายๆอยู่ในเมือง เดินเล่นเที่ยวพิพิภัณฑ์ลูฟว์ กับละแวกมหาวิหารนอเทอร์ดาม เลยนั่งรถไฟรวดเดียวไปลงสถานี St.Michel ที่เป็นสถานีที่อยู่ใกล้กับมหาวิหารนอร์เทอร์ดาม ไปถึงเห็นรถบัสนำเที่ยว 2 ชั้น คล้ายๆที่อังกฤษที่เคยไป เลยคิดว่าวันนี้ขอเห็นไฮไลท์ของปารีสแบบสบายกันหน่อยเลยซื้อตั๋วรถบัสใช้วันเดียวราคา 31 ยูโร เอาไว้นั่งชมวิวปารีสเล่นๆ อยากจะลงที่ไหนก็ลงได้ตามป้ายที่จุดท่องเที่ยวที่สำคัญ อยากจะไปต่อก็กลับมาขึ้นที่เดิม ง่ายๆสบายๆดีค่ะ เราใช้บริการบริษัทินี้ คันสีเหลืองค่ะ
นั่งชั้นบน หลังรถจะได้วิ่งไปมาเก็บภาพสบายไม่รบกวนใคร
ภาพจากนี้จะเป็นภาพที่เก็บได้ระหว่างที่รถวิ่งผ่านนะคะ
ผ่านประตูชัยด้วย แต่เปลี่ยนเลนส์ไม่ทัน เลยได้มาแบบแหว่งๆ อิอิ
ชมบ้านเรือนสถาปัตยกรรมสวยงาม เพลินเลย
ตั้งใจจะแวะเข้าไปสอยกระเป๋ามาฝากแม่ใบนึง แต่พอไปถึงเจอคิวย้าวยาว (เอาเข้าจริงๆบัตรคงไม่ผ่านแหล่ะ อิอิ) เลยเดินเล่นถ่ายรูปรอเวลา แต่พอกลับไปที่ร้าน ปรากฏว่าเค้าปิดไม่ให้เข้าแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่ถึงเวลาปิดร้าน ใครที่จะมาช๊อปยี่ห้อนี้ต้องเผื่อเวลามาเข้าคิวด้วยนะคะ
นั่งไปเรื่อยๆค่ะ ตั้งใจว่าจะลงที่ลูฟว์
จำไม่หวาดไหวว่าอะไรเป็นอะไร
นั่งรถชมเมืองไปเพลินๆ แวะลงที่ลูฟว์แล้วค่ะ ผู้คนเยอะมากมาย คิวซื้อบัตรเข้าชมก็ยาวเป็นกิโลต้องถอดใจเหมือนเคย ทริปนี้เห็นหอไอเฟลจนหลอนเลยค่ะ อิอิ
ลงที่ลูฟว์
เดินเล่นด้านนอกไปก่อน รอเก็บภาพตอนค่ำเลยค่ะ
เที่ยวยุโรปหน้าร้อนมันดีแบบนี้นี่เอง ฟ้าใส แดดสวย กลางวันยาวเที่ยวคุ้มมากๆ
เดินไปเรื่อยจนหิวเลยต้องหาอะไรทา่นก่อน ทริปนี้ทานแต่ขนมปังหาร้านอาหารเอเซียไม่ยักกะเจอ เจอสองสามร้านก็ไม่ใช่เวลาที่อยากทาน เลยทานแต่ขนมปัง แซนวิช และ kebab แบบอันนี้ค่ะ อิ่มอร่อยมีทั้งแป้ง เนิ้อ ผัก คุณค่าอาหารครบถ้วน 5 ยูโรเอง ทั้งทริปได้นั่งทานอาหารที่ร้านอาหารแค่มื้อเดียว เป็นมื่อที่นั่งรอรถที่สถานีขนส่ง นอกนั้นเดินหม่ำขนมปังจ้า อิอิ
เดินมาหาของทานแถวนอร์ธเธอดาม
ทาน kebab อันนี้เลยค่ะ อร่อยอิ่มนึง 5 ยูโร พอได้อยู่
อาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส (ฝรั่งเศส: Cathédrale Notre-Dame de Paris กาเตดราลน็อทร์-ดามเดอปารี) หรือ มหาวิหารน็อทร์-ดาม เป็นอาสนวิหารประจำอัครมุขมณฑลปารีส ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส คำว่า Notre Dame แปลว่า พระแม่เจ้า (Our Lady) ซึ่งเป็นคำที่ชาวคาทอลิกใช้เรียกพระนางมารีย์พรหมจารี ปัจจุบันอาสนวิหารก็ยังใช้เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกและเป็นที่ตั้งคาเทดราของอาร์ชบิชอปแห่งปารีส มหาวิหารน็อทร์-ดามถือกันว่าเป็นโบสถ์ที่สวยงามที่สุดในลักษณะกอทิกแบบฝรั่งเศส โบสถ์นี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์โดยเออแฌน วียอแล-เลอ-ดุก ผู้เป็นสถาปนิกคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของฝรั่งเศส
สวยงามวิจิตรมาก
การก่อสร้างเป็นแบบกอทิก นับเป็นมหาวิหารแรกที่สร้างในลักษณะนี้ และการก่อสร้างก็ทำต่อเนื่องมาตลอดสมัยกอทิก ประติมากรรม และหน้าต่างประดับกระจกสี (stained glass) มีอิทธิพลจากศิลปะแบบแนทเชอราลลิสม์ ทำให้แตกต่างจากศิลปะโรมาเนสก์ที่สร้างก่อนหน้านั้น
ราวปี ค.ศ. 1790 ระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศส โบสถ์ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ประติมากรรมและศิลปะทางศาสนาถูกทำลายไปมาก มหาวิหารได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 19 จนมีสภาพเหมือนก่อนหน้าที่ถูกทำลาย
ที่มา : วิกิพีเดีย
เก็บภาพไม่ยั้งค่ะด้านนอกด้านในสวยงามมากจริงๆ
สามารถเดินกลับไปลูฟว์ได้ ใช้เวลาไม่นาน เดินเรื่อยๆประมาณ 20-30 นาทีค่ะ
ไปเที่ยวหน้าร้อน จะเห็นผู้คนมากมายออกมานั่งนอนเล่นอาบแดดกันที่ชายหาดริมแ่ม่น้ำ น่าเอ็นดูจัง บ้านเราแดดเปรี้ยงๆ เดินไปไหนหาร่มไม้ วิ่งเข้าห้องแอร์กันเท้าเป็นระวิง อิอิ
ไปเที่ยวฝรั่งเศสกับเพื่อน ...
ไปกับแฟน
สะพานคู่รัก .... สะพาน Pont des Arts เป็นสะพานแห่งแรกในกรุงปารีสที่มีโครงสร้างทำด้วยเหล็ก สร้างในสมัยจักรพรรดิ์นโปเลียน ในปี ค.ศ.1802 ได้นำแบบอย่างมาจากประเทศอังกฤษ เป็นสะพานที่เชื่อมสองฝั่งแม่น้ำเซน ปารีส ช่วง Musée du Louvre และ Institut de France
ปัจจุบันนิยมใช้เป็นสถานที่จัดแสดงงานศิลปะ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของปารีส จากตำนาน "สะพานคู่รัก" ที่คู่หนุ่มสาวนิยมนำกุญแจสลักชื่อของตัวมาแขวนไว้กับราวสะพาน และโยนลูกกุญแจลงแม่น้ำแซนเป็นการแสดงคำมั่นสัญญาในความรักต่อกัน นอกเหนือจากสะพานแห่งนี้แล้ว ยังมีสะพานอีกแห่ง คือ ปงเดอลาร์เชอเวเช (Pont de l'Archevêché, สะพานอาร์ชบิชอป) ที่หนุ่มสาวนิยมนำกุญแจมาแขวนไว้
กว่าจะมาถึงพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หมดไปวันนึง อิอิ
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หรือในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า Musée du Louvre หรือในชื่อทางการว่า the Grand Louvre พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในโลกด้วยค่ะ ไปเที่ยวหน้าร้อนคิวยาวเป็นกิโล ไม่สามารถยืนตากแดดรอเข้าชมโมนาลิซ่าได้จริงๆ ขอรอแสงเย็นเก็บภาพความประทับใจมาฝากกันแทนดีกว่า
มุมนี้โรแมนติคจริงๆค่ะ ผู้คนมากมายที่มานั่งชื่นชมความงามของที่นี่กัน เห็นมากันเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อนหรือคู้รักดูจะมากที่สุด
จริงๆแล้วในปารีส ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนก็จะมีความสวยงามโรแมนติกไปทุกที่จริงๆนะคะเป็นประเทศที่ผู้คนแสดงออกซึ่งความรักอย่างเปิดเผย
มองแล้วโรแมนติคด้วย น่ารักดี เขิลเลย อิอิ
ลูฟว์ ปิรามิด แสงงามและเงาสะท้อนน้ำ เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวและช่างภาพจากทั่วโลกมาเก็บภาพความประทับใจและความทรงจำที่สวยงามของที่นี่กัน
สวยงามจนวางกล้องไม่ลงเลยค่ะ
ฟินมาก คุ้มค่าการรอคอยค่ะ
ไปปารีส ไม่ควรพลาดไปเที่ยวชมพระราชวังแวร์ซาย์อันเลื่องชื่อนะคะ การเดินทางไปกันง่ายๆโดยรถไฟจากตัวเมืองปารีส ไปขึ้นรถไฟจากที่ไหนก็ได้ในปารีสให้มาเปลี่ยนรถไฟสาย C ที่สถานี Invalides วิ่งตรงไปพระราชวังที่อยู่นอกปารีส ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชม. ค่าโดยสาร 3.35 ยูโรค่ะ
พระราชวังแวร์ซาย (ฝรั่งเศส: Château de Versailles) เป็นพระราชวังหลวงแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ที่แวร์ซาย ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของกรุงปารีส พระราชวังแวร์ซายเป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสวยงามแห่งหนึ่งของโลก
เดิมนั้น เมืองแวร์ซายเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งเท่านั้น มีผู้คนอาศัยอยู่เบาบาง บริเวณส่วนใหญ่เป็นป่าเขา เยี่ยงชนบทอื่น ๆ ของฝรั่งเศส เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส ยังทรงพระเยาว์ ขณะพระชนมายุได้ 23 พระชันษา ทรงนิยมล่าสัตว์ในป่า และทรงเห็นว่าตำบลแวร์ซายน่าจะเหมาะแก่การประทับเพื่อล่าสัตว์ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระตำหนักขึ้นมาใน พ.ศ. 2167 โดยในช่วงแรกเป็นเพียงกระท่อมเล็กๆ สำหรับพักชั่วคราวเท่านั้นค่ะ
เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส แห่งฝรั่งเศส ขึ้นครองบัลลังก์ มีประสงค์ที่จะสร้างพระราชวังแห่งใหม่ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการปกครองของพระองค์ จึงเริ่มปรับปรุงพระตำหนักเดิมในปี พ.ศ. 2204 ใช้เงินทั้งหมด 500,000,000 ฟรังก์ คนงาน 30,000 คน และใช้เวลาอยู่ถึง 30 ปีจึงแล้วเสร็จในพ.ศ. 2231 ทุกส่วนทำด้วยหินอ่อนสีขาว เป็นแบบอย่างศิลปกรรมที่งดงามมาก ภาย ในแบ่งออกเป็นห้องๆ เช่น ห้องบรรทม ห้องเสวย ห้องสำราญ ฯลฯ ทุกห้องล้วนมีเครื่องประดับงดงามตระการตาและภาพเขียนที่มีชื่อเสียง (ที่มา: วิกิพีเดีย)
เหมือนเคยค่ะ ไปเที่ยวหน้าร้อน นักท่องเที่ยวเยอะมากๆ โดยเฉพาะหลังเที่ยง เพราะคนนอนดึกตื่นสาย คิวซื้อตั๋วเข้าชมด้านในยาวประมาณ 8 กม.ได้มังคะ อิอิ และต้องยืนรอกันกลางแดดเปรี้ยง เป็นคนไม่ทนแดดเลยไม่รอเข้าคิวเหมือนเคย เลยได้แต่เดินเที่ยวเลาะร่มเงาต้นไม้ชมสวนอย่างเดียวเลย แหะๆ
มาเที่ยวเองแบบนี้ต้องเดินเยอะมากๆๆ ควรจะเอารองเท้าู่่คู่ใจมานะคะ ไม่งั้นเจ็บเท้าเที่ยวไม่สนุกแน่
ขอมีภาพกับเค้าซักใบ อิอิ
เห็นภาพครอบครัวน่ารักๆนอนสลบกัน แดดแรงจริงๆ ไม่สู้ค่ะ
แต่ฝรั่งเค้าสู้แดดกันจริงๆ เพราะเห็นบ้างก็พายเรือเล่นกลางแดดเปรี้ยง ส่วนกระเหรี่ยงอย่างเราไม่ไหวค่ะ หลบอยู่ใต้ร้มไม้อย่างเดียว
บ้างก็ชวนกันปั่นจักรยานเที่ยว เห็นบางกลุ่มปูเสือนอนอาบแดดกลางสนามหญ้าอีก
น้องเสื้อแดงแจ่มไปนะคะ
ใช้เวลาค่อนวันทีแวร์ซาย กลับมาปารีสตั้งใจไปเดินช๊อปที่ถนน Champs-Élysées อันโด่งดังกันซักหน่อย
ปารีสก็มีสามล้อน่ะจ๊ะ
เที่ยวฝรั่งเศสหน้าร้อน แต่งตัวประมาณนี้ค่ะ
ตอนเย็นๆฟ้าก็ดูปรกติดี
อืมมมสวยยย
เห็นคนหิ้วถุงออกมาจากร้าน Hermes ..
ไปเที่ยวฝรั่งเศสหน้าร้อน แต่ก็แอบเห็นใบไม้เปลี่ยนสีบ้างประปราย สวยจัง นึกภาพฤดูใบไม้ร่วงที่นี่ต้องยิ่งโรแมนติกแน่นอน
ท้องฟ้าสีแดงเลย
ยืนถ่ายกันกลางถนนเลย
ปิดท้ายความประทับกับฝรั่งเศสกันที่หอไอเฟลล่ะกัน ทริปนี้แวะไป 2 ครั้ง ชิลล์มาก เลิฟสุดๆ และขอจบทริปฝรั่งเศส โพรว๊องซ์ ปารีสแบบชะโงกทัวร์7 วัน 6 คืนในฤดูร้อนที่กลางวันเที่ยวได้ยาววววว ฟ้าก็สวย น่าเที่ยวเป็นที่สุดลงตรงนี้นะคะ ขอบคุณสายการบินแอร์ฟรานซ์สำหรับตั๋วเครื่องบินที่ให้โอกาสไปผจญภัยในฝรั่งศส ประเทศที่สามารถเที่ยวเองได้อย่างง่ายดายแบบไม่ง้อทัวร์ในทริปนี้ด้วยค่ะ
อ่านย้อนหลัง Provence & Paris in summer – โพรว๊องซ์ ปารีส เที่ยวเองได้ง่ายๆไม่ง้อทัวร์ ตอน 1