Deep Water ที่เกาะสีชัง

เรือยนต์ลำใหญ่ค่อยๆ ถอยหลังออกจากท่าเรือเกาะลอย อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ผู้คนโดยสารอันประกอบไปด้วยชาวบ้านท้องถิ่นที่เดินทางข้ามฝั่งไปมาอยู่เป็นประจำจนเห็นภาพเช่นนี้อย่างเคยชิน

และนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนซึ่งกำลังตื่นตากับภาพท้องทะเลกว้างใหญ่งดงามสุดสายตา แม้จะมีความรู้สึกที่แตกต่างจากกลุ่มของชาวบ้าน แต่ทว่าเรือใหญ่ลำนี้กำลังนำพาทุกคนไปยังจุดหมายปลายทางตรงหน้าแห่งเดียวกัน “เกาะสีชัง”

 

ผมเองในฐานะผู้มาเยือนแม้ว่าจะเคยเดินทางมาที่เกาะแห่งประวัติศาสตร์นี้หลายต่อหลายครั้งแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงมีความรู้สึกตื่นตากับภาพความงดงามของท้องทะเลทุกครั้งไป

ทะเลแม้จะเป็นเพียงผืนน้ำกว้างใหญ่สีคราม มีเกลียวคลื่นถาโถมเป็นระลอกน้อยใหญ่เรือที่นั่งไปต้องฟันฝ่ากระแสลมและน้ำ บ่อยครั้งที่น้ำทะเลกระเซ็นเข้ามาปะทะใบหน้าบางคนอาจจะไม่ยินดี

แต่สำหรับผมนี้ถือว่านี่คือไมตรีการต้อนรับจากท้องทะเล ประมาณ 45 นาทีจากฝั่ง ผมและเพื่อนๆ อีก 5 ชีวิต ก็ได้มายืนสูดอากาศบริสุทธิ์บนเกาะ ผู้โดยสารคนอื่นออกเดินทางต่อไปยังจุดหมายของตน

ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้บริการรถ 3 ล้อเครื่องโดยสาร หากไปไกลหน่อยหรือมีสัมภาระมากก็ใช้บริการรถกระบะสองแถวที่มาจอดรอคอยเรียงรายอยู่อย่างเป็นระเบียบ

 

สำหรับเป้าหมายการเดินทางของพวกเราในทริปนี้ ค่อนข้างจะแตกต่างจากนักท่องเที่ยวทั่วไป เนื่องจากพวกเรามีความตั้งใจว่าต้องการค้นหาเส้นทางใหม่ในการท่องเที่ยวแบบผจญภัย

โดยมีรูปแบบการปีนหน้าผาแบบ Deep Water เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมการเดินทาง ทริปนี้จึงถือได้ว่าเป็นทริปสำรวจเส้นทาง โดยมีทีมนักปีนหน้าผาจากกลุ่ม Hyperventure

ซึ่งเป็นทีมที่มีประสบการณ์การปีนหน้าระดับแนวหน้าของเมืองไทย มาร่วมดูแลและทำการสำรวจเพื่อประเมินผลว่า ที่เกาะสีชังแห่งนี้นั้นมีความเป็นไปได้หรือมีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใดที่จะเปิดเส้นทางปีนหน้าผา

เพื่อจะได้เป็นข้อมูลให้แก่นักปีนหน้าผาต่อไป

 

การปีนหน้าผาแบบ Deep Water นั้นก็คือ การปีนแบบคนเดียวโดยไม่ใช้เชือกเหมือนอย่างที่เห็นกันทั่วไป ผู้ปีนควรจะต้องมีทักษะการปีนหน้าผามาก่อน หากปีนไม่ไหวหรือมีการล่วงหล่นลงมา

ผู้ปีนก็จะตกลงสู่น้ำเบื้องล่าง ทั้งนี้ก่อนการปีนจะต้องมีการสำรวจพื้นที่ก่อนว่ามีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน หากพบว่ามีจุดที่ไม่ปลอดภัยพื้นที่แห่งนั้นก็ไม่สามารถทำการปีนแบบ Deep Water ได้

ดังนั้นการปีนหน้าผาแบบ Deep Water นี้ จึงต้องใช้ประสบการณ์และความสามารถของผู้ปีนเป็นอย่างสูง

 

หลังจากที่พวกเราทุกคนเดินขึ้นไปสักการะศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ที่ตั้งอยู่บริเวณบนเชิงเขาใกล้กับตัวตลาดเกาะสีชังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้ออกเดินทางต่อโดยการเลือกไปสำรวจ

บริเวณทางด้านทิศใต้ของเกาะสีชัง ตามคำแนะนำของพี่แซม แห่งค้างคาวทัวร์ ซึ่งเป็นผู้ดูแลเกาะค้างคาวที่ตั้งอยู่ถัดไปทางด้านทิศใต้ของเกาะสีชัง

พี่แซมได้จัดเตรียมเรือและแพลากจูงไว้ให้เราได้เดินทางอย่างสะดวก อีกทั้งอาหารกลางวันระหว่างการสำรวจเป็นไปด้วยบรรยากาศแห่งมิตรภาพน่าประทับใจ

 

เวลาบ่ายยามที่แสงแดดสาดส่องลงมา หลายพื้นที่อาจได้รับผลกระทบเป็นร้อนความระอุ แต่น่าแปลกที่บริเวณด้านท้ายเกาะสีชังแสงแดดกลับถูกบดบังด้วยเหลี่ยมเขา

ประกอบกับมีสายลมโบกโบยสะบัดพัดมาเป็นระยะๆ จนเกือบทำให้ผมเคลิ้มหลับไป หากไม่มีภาระกิจที่หน้าผาตรงหน้าเวลานี้คงได้ฝันดี นักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งนั่งเรือผ่านมาทักทายและแวะเทียบเรือเข้ากับแพของเรา

สอบถามได้ความว่าพวกเขาเดินทางมาดำน้ำรอบๆ เกาะสีชังหลายจุด โดยรวมแล้วสรุปว่าบริเวณด้านทิศใต้ของเกาะมีปลาทะเลและปะการังสวยงามมากที่สุด เหมาะสมกับการดำน้ำแบบ snorkeling หรือการดำแบบผิวน้ำ

เนื่องจากกระแสน้ำไม่รุนแรงมีความปลอดภัย แต่ทั้งนี้ผู้ดำน้ำก็ควรสวมใส่เสื้อชูชีพทุกครั้งที่ลงไปดำ

 

เราใช้เรือคายัคลำเล็กทะยอยส่งนักปีนหน้าผาจากแพใหญ่ไปสู่จุดเริ่มปีนซึ่งก็คือหน้าผาตระหง่านตรงหน้า นักปีนในชุดพร้อมเปียกสวมใส่รองเท้าที่ใช้สำหรับการปีนหน้าผาโดยเฉพาะ

ซึ่งเป็นรองเท้ายางชนิดพิเศษพื้นเรียบไม่ลื่นเมื่อสัมผัสกับผิวหิน ส่วนปลายแหลมช่วยให้ปลายเท้าเข้าจิกตามซอกมุม การปีนหน้าผานอกจากผู้ปีนจะต้องใช้กำลังแขนที่แข็งแรงแล้ว

ยังจะต้องใช้กำลังขาช่วยในการส่งน้ำหนักตัวขึ้นไปยังจุดต่อไปอีกด้วย

 

นักปีนหน้าใหม่หลายคนเมื่อเริ่มปีนหน้าผาส่วนใหญ่มักจะใช้กำลังแขนเพียงอย่างเดียว โดยลืมไปว่ากำลังขานั้นมีความสำคัญมากไม่น้อยไปกว่ากัน

เมื่อใช้กำลังแขนรับน้ำหนักตัวหรือดึงตัวมากเกินไปโดยที่ไม่ใช้กำลังจากขาและเท้าช่วย หลายคนจึงมักตกลงมาก่อน เพราะว่าแขนหมดกำลัง หรืออาจจะด้วยอีกเหตุผลที่ว่า

นักปีนหน้าใหม่เมื่อมาเผชิญกับความสูงก็มักจะเกิดความกลัว ขาอาจจะอ่อนกำลังไปโดยธรรมชาติของมนุษย์ทั่วไป จึงอาจขาดสติและใช้กำลังแขนยึดเหนี่ยวหรือเกาะกับสิ่งที่เกาะได้ในขณะนั้นจนเป็นเวลานานมากเกินไป

ทำให้แขนรับน้ำหนักร่างกายมากจนทนไม่ไหว สุดท้ายก็จะตกลงมา หากเราสังเกตนักปีนหน้าผาที่มีความชำนาญ จะเห็นได้ว่าเขาจะไม่หยุดพักจนนานเกินไป

เพราะการหยุดพักนานเท่าไรเขาก็จะยิ่งเสียพลังงานมากขึ้น เราจึงมักจะเห็นนักปีนหน้าผาปีนขึ้นไปได้อย่างฉลุยราวกับการเดินขึ้นไปอย่างช้าๆ ทว่ามั่นคง

 

สำหรับในประเทศไทยของเรากิจกรรมการปีนหน้าผาถือว่าเป็นกิจกรรมใหม่ แม้ว่าอาจจะมีกลุ่มผู้นิยมปีนหน้าผามาเป็นเวลานานแล้ว แต่ก็ยังถือว่าเป็นกิจกรรมที่ยังไม่แพร่หลายนัก

ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการปีนและอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยต่างๆ นั้นมีราคาค่อนข้างสูง อีกทั้งสถานที่ภูมิประเทศที่เหมาะสมกับการปีนนั้นค่อนข้างจะมีน้อย จึงทำให้กิจกรรมการปีนหน้าผายังไม่แพร่หลายไปเท่าที่ควร

 

ทีมนักปีน 2 คนแรก ตกน้ำไปเรียบร้อย ทำให้เกิดเสียงหัวเราะกันอย่างสนุกสนานแก่ผู้ชมและผู้เชียร์กึกก้องไปทั้งแพ ส่วนคนที่ 3 ถือได้ว่าเป็นนักปีนระดับแนวหน้าของทีม Hyperventure

สามารถเรียกเสียงปรบมือจากผู้ชมบนแพได้อย่างประทับใจ จากนั้นผู้ที่พลาดในรอบแรกได้ขอแก้ตัวใหม่อีกคนละรอบสองรอบ จึงได้ผ่านไปสู่จุดหมายโดยเรียกเสียงปรบมือได้เช่นเดียวกัน

 

เป็นอันว่าหน้าผาบริเวณด้านทิศใต้ของเกาะสีชัง ถือได้ว่ามีความเป็นไปได้หากจะมีใครต้องการมาปีนหน้าผาแบบ Deep Water หรือมาจัดกิจกรรมสนุกๆ ท้าทายความสามารถเช่นนี้

แต่ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยก็ควรอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ผมขอเตือนว่าอย่าไปปีนกันเองเพราะอาจจะเกิดอันตรายได้

 

หรือผู้ที่สนใจการดำน้ำชมปะการังบริเวณรอบๆ เกาะสีชังก็มีจุดดำน้ำหลายจุดที่คุณจะใช้เวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย

อย่ามองข้ามเกาะสีชังไปนะครับ เกาะนี้มีอะไรมากกว่าที่ผมเล่าให้ฟังอีกเยอะเลย ไม่เชื่อลองไปดู..

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

- เกาะสีชัง เดินทางเที่ยว เกาะใหญ่กลางทะเล จังหวัดชลบุรี

- เที่ยวใกล้กรุง...มุ่งสู่เกาะสีชัง

- ความงดงามยามค่ำคืน "เกาะสีชัง" ในมุมมองที่หลาย ๆ คนยังไม่เคยเห็น!!

- 5 ที่เที่ยวสุดชิคบนเกาะสีชัง ความคลาสสิคใจกลางทะเลอ่าวไทย!! ไปง่ายใกล้กรุงเทพ