ไปเที่ยวแบบอุ่นใจ ไป 3 เส้นทางจาก AIS ทริปกัน!

ไปเที่ยวแบบอุ่นใจ ไป 3 เส้นทางจาก AIS ทริปกัน!

ไปเที่ยวแบบอุ่นใจ ไป 3 เส้นทางจาก AIS ทริปกัน!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

          เวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน อีกนิดเดียวก็จะเข้าสู่ปลายปี 2016 อีกแล้ว Sanook! เชื่อว่าหลายๆคนคงนึกถึงทริปในช่วงปีนี้ที่ได้ไปเที่ยวกันมา อย่าง Sanook! เราก็นึกถึงทริปของ AIS ที่มีความประทับใจจนอยากจะบอกต่อ เพราะทุกคนที่ได้ไปร่วมทริปต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าบริการดี ประทับใจ ดูแลกันเป็นอย่างดี จนทำให้เที่ยวได้สุดไม่พลาดทุกสถานที่สำคัญ เหนือระดับอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

         ซึ่งปีนี้ AIS Exclusive Trip มีทริปดีๆกันหลายเส้นทางเลยทีเดียว อย่างที่ไปกันมาแล้วก็จะมี 3 เส้นทาง คือ  “ย่างกุ้ง – พุกาม – มัณฑะเลย์”  “ซีอาน – ลั่วหยาง – หัวซาน” และ ภูฏาน” ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

          เส้นทางที่ 1 ที่เราจะพูดถึงคือเพื่อนบ้านไม่ใกล้ไม่ไกลอย่างเมียนมาร์ โดย AIS ได้วางเส้นทางเพื่อให้ได้เห็นความงามและวัฒนธรรมใน 3 เมือง คือ “ย่างกุ้ง – พุกาม – มัณฑะเลย์”  โดยมี อ. เผ่าทอง ทองเจือ กูรูด้านประวัติศาสตร์ มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวและความรู้ตลอดการเดินทาง

         เริ่มต้นการเดินทางด้วยสายการบินบางกอก แอร์เวย์  ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าลูกค้า เซเรเนด แพลทินัม และ โกลด์  สามารถเข้าใช้บริการ Bangkok  Airways Blue Ribbon Club Lounge  ได้ฟรี โดยสามารถนั่งพักผ่อนระหว่างรอขึ้นเครื่อง และ ของว่าง ชา กาแฟ และอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อถึงเมียนมาร์การเดินทางทั้ง 3 เมือง  เอไอเอสจัดทริปโดยอำนวยความสะดวกสบาย โดยให้บริการแบบ AIS Live 360 องศา ซึ่งในรถบัสที่นั่งมีบริการทั้งน้ำ ขนม รวมถึงบริการช่วยยกของตลอด  การเดินทาง เรียกได้ว่าเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ 

          ที่ย่างกุ้งนั้นไม่พลาดกับ 1 ใน 5 มหาบูชาสถานอย่างเจดีย์ชเวดากอง องค์เทพทันใจชื่อดังที่เจดีย์โบตาทาวน์ ร่วมพิธีครอบเศียร ครอบเกล้า อันศักดิ์สิทธ์เสริมมงคลชีวิตให้สำเร็จดั่งใจหวังซึ่งจัดขึ้นเฉพาะแบบเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับลูกค้าเอไอเอสเท่านั้น ด้วยพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ที่ประดิษฐาน ณ เจดีย์กาบาเอ  ที่ย่างกุ้งเราได้พักโรงแรม 5 ดาวอย่าง Chatrium Hotel Royal Lake Yangon และมื้อค่ำก็ได้รับเกียรติจากเอกอัครราชฑูตไทย ณ กรุงย่างกุ้งมาร่วมรับประทานอาหารด้วย 

  

         เดินทางสู่เมืองพุกาม ดินแดนแห่งทะเลเจดีย์ มีประวัติยาวนานกว่า 200 ปี อาณาจักรแห่งแรกในประวัติศาสตร์เมียนมาร์ ชมพระเจดีย์ ชเวซิกอน (Shwezigon Pagoda) 1 ใน 5 มหาบูชาสถานจากนั้นไปยังอานันทวิหาร ศาสนสถานที่ได้รับยกย่องให้เป็น เพชรน้ำเอกของพุทธศิลป์สกุลช่างพุกามเป็นมหาวิหารขนาดใหญ่และสมบูรณ์แบบที่สุดในพุกาม  และมีจุดไฮไลต์อย่างจุดชมทะเลเจดีย์แห่งพุกาม และมีกิจกรรมพิเศษอย่างการนั่งรถม้า และปิดท้ายวันด้วยงานเลี้ยงพร้อมการแสดง พร้อมมอบรางวัลให้กับผู้ชนะการประกวดภาพในระหว่างการเดินทาง เรียกได้ว่าสนุกสนานและเป็นกันเองอย่างที่สุด

         และสุดท้ายของทริปคือการเดินทางสู่มัณฑะเลย์ เพื่อกราบนมัสการ พระมหามัยมุนี ( 1 ใน 5 มหาบูชาสถาน) คนเมียนมาร์นับถือพระมหามัยมุนี และถูกปิดทองจนร่างกายหนาและเต็มไปด้วยทอง ทำให้พระมหามัยมุนีได้รับฉายาว่า "พระเนื้อนิ่ม" ซึ่งเกิดจากการปิดทองมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และยังได้มุ่งหน้าสู่วัดกุโสดอซึ่งเป็นวัดที่มี“พระไตรปิฎกเล่มใหญ่ที่สุดในโลก” และก่อนขึ้นเครื่องกลับด้วยวัดชเวนันดอว์ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระราชมณเฑียรทอง (Golden Palace Monastry) ที่สร้างจากไม้สักปิดทองทั้งหลัง เป็นทริปมงคลของทุกคนอย่างสมบูรณ์

  

         เส้นทางที่สองอย่างซีอาน – ลั่วหยาง – หัวซาน เป็นเวลา 4 วัน 3 คืนโดยนครหลวงซีอาน เป็น เมืองหลวงของมณฑลส่านซี มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 6,000 ปี เคยเป็นนครหลวงในสมัยต่างๆ รวมทั้งสิ้น 12 ราชวงศ์ ซีอานได้เป็นศูนย์กลางการติดต่อทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมระหว่างจีนกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมอันเลื่องชื่อ มีโบราณสถานโบราณวัตถุเก่าแก่อันล้ำค่าและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจีน

         ที่นี่เราได้ไปกันครบเริ่มต้นด้วยชมเจดีย์ห่านป่าใหญ่หรือต้าเหยี่ยนถ่า สถานที่ที่พระถังซัมจั๋งใช้แปลพระคัมภีร์ไตรปิฎกหลังจากได้นำพระคัมภีร์มาจากประเทศอินเดีย หลังจากนั้นช้อปปิ้งย่านถนนซีตานเจียสำหรับของฝากและของที่ระลึกพื้นเมือง ลิ้มลองเกี๊ยวน้ำซีอานอันเลื่องชื่อ ณ ภัตตาคารดั้งเดิมอายุกว่าร้อยปี การันตีความอร่อยระดับผู้นำประเทศ และประธานพรรคคอมมิวนิสต์จีน อย่าง “เจียง เจ๋อ หมิน และ หู จิน เทา”

          ณ “เมืองลั่วหยาง” เมืองท่องเที่ยวสำคัญในมณฑลเหอหนาน ก็มีทั้งโปรแกรมให้ได้ชมถ้ำหินหลงเหมินหรือถ้ำประตูมังกร  ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ถ้ำหินแกะสลักที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน และเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมใน ปี 2000 เป็นพุทธสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจีน

          และไม่พลาดเลยกับ “เมืองหลี่ถง” ชมสุสานทหารม้าจิ๋นซี (Terra Cotta Warrior) ที่มีอายุยาวนานกว่า 2,000 ปี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้  ไปกันต่อที่ “เมืองหัวอินเซียน” นั่งกระเช้าไฟฟ้า ขึ้นสู่ เขาหัวซาน 1 ใน 5 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเต๋า

           ซึ่งสิ่งสำคัญที่ห้ามพลาดสำหรับการไปเมื่อซีอานก็คือเรื่องของการสักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ AIS ก็จัดโปรแกรมให้เฉพาะอย่างไม่ตกหล่น กับการชมเมือง ZhouZhi เพื่อสักการะศาลเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยะหรือไฉ่ซิงเอี๊ยเจ้ากงเหมิน โดยชาวจีนเชื่อว่าการบูชาจะประทานความมีโชคลาภหรือความและเดินทางสู่วัดลัทธิเต๋า เหลากวนไท่  ที่สร้างขึ้นเพื่อฟื้นคืนวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ของลัทธิเต๋าซึ่งเป็นศาสนาที่สำคัญของจีน 

          ก่อนกลับได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มณฑลส่านซี  ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ระดับ 5 ดาวของจีน มีโบราณวัตถุล้ำค่าจัดแสดงมากมายตามยุคสมัยต่างๆ  เริ่มตั้งแต่ยุคหินเก่า-หินใหม่ ราชวงศ์จาง-ราชวงศ์โจว เรื่อยไปจนถึงราชวงศ์หมิงและชิง ที่ที่เราได้รับความรู้เรื่องราวอันเก่าแก่ของประเทศจีนอย่างถ่องแท้ และทริปนี้ก็พิเศษเช่นเคยนอกจากความสวยงามของเมืองแล้ว เรายังได้รับเกียรติจาก อ.เผ่าทอง ทองเจือให้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์กันแบบครบถ้วน

           เส้นทางที่สาม “เดินทางชมดินแดนแห่งราชาหิมาลัย ภูฏาน”  เป็นเวลา 5 วัน 4 คืน มาภูฏานแบบนี้ก็ได้ชมทั้งความงามของธรรมชาติและได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชาติ โดยเริ่มต้นกับพาโรซอง (Paro Dzong) ซึ่งคำว่า “ซอง” ในภาษาภูฏานนั้นมีสถานะเป็นทั้งป้อมปราการ สำนักบริหารราชการเมือง อารามหลวง และสนามหลวง กล่าวได้ว่า “ซอง” คือ จิตวิญญาณของชาวภูฏาน 

          ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.จากเมืองพาโรก็ได้เดินทางมาสู่ “เมืองทิมพู นครหลวงของภูฏาณ”และได้ฉายาว่า “เมืองหลวงฤดูร้อน” ที่มีระดับความสูง 2,350 ม.จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระหว่างทางก็ได้ชมทิวทัศน์ของทะเลภูเขา ชมทิมพู ซอง หรือ “ตาชิโช ซอง” (Tashicho Dzong) ป้อมปราการขนาด ใหญ่ ซึ่งปัจจุบันแบ่งเป็นพระตำหนักฤดูร้อนในสมเด็จพระสังฆราชภูฏาน พระอารามหลวง สำนักพระราชวัง ทำเนียบรัฐบาล ห้องประชุมรัฐสภาแห่งชาติ

           ออกจากเมืองหลวงเดินทางสู่ “เมืองปูนาคา” ผ่านช่องเขาโดชูล่าบนเส้นทางผืนป่าหิมพานต์ที่แวดล้อมด้วยต้นสน แม็กโนเลียและกุหลาบ แวะชม “โดชูลาพาส” ( Dochula Pass) หรือช่องเขาศิลา ที่ระดับความสูง 3,145 ม. ซึ่งมีสถูป“ดรุค วังเกล” (Druk Wangle Chorten) หรือสถูปแห่งความเป็นสิริมงคลและสันติสุขของแผ่นดิน 108 องค์ 

           ถึงเมืองปูนาคาที่ตั้งอยู่ระดับความสูงกว่าน้ำทะเล 1,300 ม. จึงมีสภาพอากาศอบอุ่นกว่าทิมพู กษัตริย์และสมเด็จพระสังฆราชแห่งภูฏานจะเสด็จทรงแปรพระราชฐานในฤดูหนาว (ช่วงเดือนพ.ย.- เม.ย.) ดังนั้น ปูนาคา จึงเป็น “เมืองหลวงฤดูหนาว” (Winter Capital) ชม  “ปูนาคา ซอง” (Punakha Dzong) ซึ่งเป็น “ซอง” ที่สำคัญที่สุดของภูฏาน เพราะเป็น สถานที่เก็บพระอัฐิของท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล และเป็นสถานที่พระเจ้าอุกเยน วังชุก บรมราชาภิเษก เป็นปฐมกษัตริย์แห่งภูฏาน 

           มาถึงที่นี่ทั้งนี้ก็ต้องลิ้มรสเมนูพิเศษซึ่งเป็นอาหารผสมถั่งเช่า สมุนไพรชื่อดังของประเทศภูฏาน หรือที่รู้จักกันว่า "ไวอากร้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย" มีคุณสมบัติพิเศษ ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย บำรุงอวัยวะภายใน ซึ่งหารับประทานได้ยากและมีราคาสูง

          เดินทางกลับสู่เมืองทิมพู เช่นเคยสำหรับเรื่องของความศรัทธา AIS ก็ใส่ใจ จัดให้ร่วมถวายตะเกียงน้ำมันเนยเป็นพุทธบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล ณ ซิมโตก้าซอง (Simtokha Dzong) วัดเก่าแก่ที่สุดในภูฏาณ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้โปรดพระราชทานผ้าพระกฐินถวายเป็นราชกุศลเมื่อปี 2556 

          เข้าชมพิพิธภัณฑ์ผ้าทอ ( Bhutan Textile Museum) ที่จัดแสดงผ้าทอและชุดประจำชาติภูฏานในภูมิภาคต่างๆ โดยส่วนใหญ่ได้มาจากเชื้อพระวงค์ภูฏาน สามารถเลือกซื้อผ้าพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะท้องถิ่นได้ที่นี่ ชมโรงเรียนสอนงานศิลปะ (Art school) ที่สอนงานศิลปะและงานช่างของภูฏาน 13 แขนง อาทิ การแกะสลักไม้การปั้นพระพุทธรูปปูนปั้นและการวาดภาพทังกาซึ่งเป็นภาพวาดเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา จากนั้นผ่านชมสนามกีฬา Changlingmethang ที่ประกอบพิธีต่างๆ ที่สำคัญของเมืองภูฎาน

          และเดินทางต่อสู่เมืองพาโร ชมวัดคิชู (Kyichu Temple) วัดเก่าแก่แห่งหนึ่งของภูฏาน มีอายุ 1,300 ปี ชมวิหารเก่าแก่ หลังจากรับประทานอาหารค่ำ พร้อมชมการแสดงระบำหน้ากาก และระบำพื้นเมือง ภายในห้องอาหารของโรงแรม ปิดทริปสุดประทับใจก่อนจะกลับบ้านโดยสวัสดิภาพในวันรุ่งขึ้น

          เป็นอย่างไรบ้างเมื่อเห็นตัวอย่าง 3 ทริปของ AIS ที่บอกเลยว่าให้คุณไม่พลาดจุดประทับใจสำคัญและยังได้รับความรู้ดีๆ ตลอดการเดินทางจาก อ.เผ่าทอง ทองเจือ ทั้ง 3 ทริปและบริการที่ประทับใจสุดๆ เพราะถึงแม้จะเดินทางตลอดทั้งทริปอย่างต่อเนื่องแต่ก็ไม่เหนื่อยเลย เรียกได้ว่าให้การท่องเที่ยวของคุณเป็นการพักผ่อนที่แท้จริง 

          ถ้าอ่านแล้วอินกับเราจนอยากไปเที่ยวแบบเอ็กซ์คลูทีฟ ก็อย่ารอช้า!  AIS Exclusive Trip พร้อมจะเปิดประตูสู่ดินแดนแห่งตำนานรักนิรันดร์ กับ AIS Serenade Exclusive Trip INDIA รีบสมัครไปร่วมทริปได้แล้ว ที่ http://m.ais.co.th/PYHMW7Jco หรือจะไปร่วมเปิดประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ญี่ปุ่น กับทริปฮอกไกโด ตะลุยแดนสกีกับเจมส์จิ ก็สามารถไปสมัครร่วมทริปได้ ที่ http://m.ais.co.th/j7HqqeAIo 

[Advertorial]
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook