เที่ยว "งานวัด" รำลึกความหลังครั้งเก่า
เที่ยว "งานวัด" รำลึกความหลังครั้งเก่า
หากถามว่าใครเคยไปเที่ยวงานวัดมาแล้วบ้าง? เชื่อว่าเกือบทุกคนที่ถูกถาม มักให้คำตอบที่เหมือนกันคือทุกคนต้องเคยไปเที่ยวงานวัดมาแล้วทั้งนั้น
แต่งานวัดในความทรงจำของแต่ละคนนั้น ผมเชื่อว่าย่อมไม่เหมือนกันแน่นอน เพราะมันมีวิวัฒนาการเปลี่ยนไปตามปี ตามกาลสมัย จากรุ่นสู่รุ่น ยุคคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย จนมาถึงรุ่นพวกเรา(วัยสามสิบต้นๆ) มีอะไรมากมายที่เปลี่ยนไป
นี่คือ วัฏจักรของงานวัดทั่วๆไป ในปัจจุบันนี้ แต่งานวัดไม่ว่าจะเป็นยุคไหนๆ ก็คล้ายๆ กันมันยังมีมนต์ขลังในตัวเองเสมอ
งานวัด เป็นศูนย์รวมของความบันเทิงกลางแจ้งขนาดใหญ่ และมักถูกจัดขึ้นในช่วงหน้าหนาวอากาศเย็นสบาย และจัดกันยาวต่อเนื่องหลายวัน ไม่ว่าจะเป็นงานวัดของภาคไหน จังหวัดไหน ก็มักเป็นในทิศทางเดียวกัน!!
วันนี้ผู้เขียนจะพาไปสัมผัสบรรยากาศของงานวัดในแบบฉบับของปี 2015 กันครับ
ภายในงานวัด เราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศรื่นเริงที่เต็มไปด้วยแสงสีความคึกคักของกิจกรรมต่างๆ ที่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคและสมัย
สิ่งแรกที่เรามักนึกถึงเมื่อมาเที่ยวงานวัดนั้นคือ "ชิงช้าสวรรค์" พระเอกของงานที่ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปนานแค่ไหนก็ตาม ชิงช้าสวรรค์ก็ไม่ได้หายไปจากงานวัด ยังคงเป็นเครื่องเล่นที่มักเป็นตัวชูโรงในงานวัดเสมอ
ต่อมาเป็น "ม้าหมุน" เครื่องเล่นที่เด็กหลายๆ คนชอบนักชอบน๊า ปัจจุบันก็ยังมีให้เห็นแต่มักถูกปรับขนาดให้เล็กลง เพราะอะไรรู้ไหม? เด็กสมัยนี้เค้าโตเกินตัวไง รู้เยอะ ม้าหมุนหรือจะสู้อะไรกับ "รถบั้ม" ได้หรือคุณว่าไม่จริง เท่าที่สังเกตดู ม้าหมุนมีลูกค้าน้อยมาก
ปืนอัดลม... ของเล่นที่เด็กผู้ชายหลายๆ ไม่ว่างานวัดที่ไหนก็ต้องมีซุ้มของปืนอัดลมชนิดต่างๆ มาเปิดร้านในงานเสมอ แต่ในปัจจุบันนั้นชุ่มปืนอัดลมยังมีให้เห็นบ้างแต่ค่อนข้างประปรายหาเล่นค่อนข้างยากแล้ว เพราะพากันเปลี่ยนเป็นปาโป่งแทน
ลองเล่นกันเค้าไปเหมือนกันนะ แต่ให้ตายเถอะลูกดอกไม่สามารถทำอะไรลูกโป่งได้ โดนเมื่อไรเด้งมาเมื่อนั้น
หากมาเยือนงานวัด หลายคนมักหิ้วท้องมาหาของกินที่งานแน่นอน!! เพราะว่าเรื่องอาหารการกินไม่ว่าจะเป็นคาวหรือหวาน ในวัดทุกอย่างมาเต็มแน่นอน.......และงานวัดทุกที่มักเหมือนกัน นั้นคือเตรียมแค่ท้องว่างๆ ไปสำหรับใส่ของกินให้พอ
ของกินโบราณยังมีพอให้หากินได้บ้างไม่ว่าจะเป็นผัดไทย หอยทอด, ขนมจีนน้ำยา, ก๋วยเตี๋ยว หรือขนมเบื้องญวณ และอื่นๆ ที่ยังคงเดินหากินได้ แม้มักจะมีร้านๆ ที่เหมือนๆ กันเต็มไปหมดก็ตาม อย่างผัดไทยเท่าที่ลองนับๆ ดูในงานก็เจอไปสิบกว่าร้านแล้ว
ส่วนขนมและของหวานก็มีวางขายทั่วไปเกือบทั่วบริเวณงาน แม้ว่าบางอย่างจะเป็นขนมสมัยใหม่ ที่นำมาออกซุ้มขาย แต่กลิ่นอายของขนมโบราณก็ยังพอมีให้เห็นอยู่ อย่างขนมถังแตก, ขนมเบื้องไทย, หรือซุ้มสายไหม
ไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งของงานวัดโดยเฉพาะตามต่างจังหวัดก็คือ "หนังกลางแปลง" เอากะเขาสิเพราะนี้คือทีเด็ดของงานครับ ส่วนใหญ่เล่นโต้รุ่งทุกงาน แต่สำหรับสมัยนี้ตามจังหวัดใหญ่ที่เค้าจัดงานวัดกันนั้น ตอนนี้หนังกลางแปลงได้ถูกกลืนหายไปกับความเจริญแล้ว
หากจะเหลือให้เห็นก็คงเป็นคณะลิเกใหญ่ๆ หรือไม่ก็วงดนตรีที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แอบได้ยินมาว่าเค้าว่าจ้างมาเล่นคืนละไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นแหนะ ลองคำนวณเอาดู 50,000 คูณ 7 วันเป็นเงินเท่าไร? นั้นทำให้รู้ว่าวัดดังๆ เค้ามีรายได้มากมาขนาดไหน
อีกหนึ่งสีสันที่เชื่อว่าใครหลายๆ คนก็คงมีความทรงจำนั้นคือ "เมียงู" ยังจำได้ไหม? บทเพลงสั้นๆ ง่ายๆ ที่พวกเราร้องกันจนติดปากอย่าง "บาทเดียวดูเพลินอะไรไม่เกินเมียงู ลูบได้คลำได้ ลูบได้คลำได้ แต่อย่าเอาไม้แหย่รู(หลายคนร้องตาผมได้แน่นอน)
ซึ่งในยุคปัจจุบันนั้นหาดูได้ยากเต็มที่ เพราะสาวๆ โคโยตี้นุ่งน้อยห่มน้อยพวกเธอเข้ามาโชว์อะไรสารพัดดูม...ยักย้ายสายเอวยกบั้นท้ายในวัดแทนเมียงูหมดแล้ว ทำเอาพระเจ้าสมาธิแตกกันตามๆ ไม่เว้นแม้กระทั้งการแต่งตัวของสาวๆ ที่ซุ้ม "สาวน้อยตกน้ำ"
แต่คืนนี้ไม่ได้ถ่ายภาพของสาวสวยมาฝากกันหรอกนะ มือมันสั่นๆ ภาพเบลอไปหมด เก็บมาแค่คลิปสาวน้อยตกน้ำมาแค่นั้น
ปิดท้ายกันด้วยตลาดนัด ขอเรียกว่าตลาดนัดละกันนะครับเพราะในงานวัดมีร้านค้า มากมายหลากหลายประเภทมาออกร้านขายของกัน พูดเลย "สากกะเบือยันเรือรบ"
อีกหนึ่งสิ่งทีมักมาคู่กับงานวัด ไม่รู้ว่าทำไปแล้วจะได้บุญหรือเป็นการส่งเสริมให้มารศาสนาเหล่านี้ได้ดีก็ไม่รู้ นั้นคือเหล่ากระบวนการของ "ขอทาน" ที่มักเห็นอุ้มลูก จูงหลานมานั่งขอเงิน
เรียกได้ว่าตลอดแนวงานวัดเลยก็ว่าได้ เอาละครับเข้าวัดทำบุญก็มองผ่านๆ ไปสบายใจก็ทำ ไม่สบายใจก็ไม่ต้องทำ
ผู้เขียนแอบถ่ายรูปมาได้ 1 คน เพราะอยากรู้เหมือนกันเค้าทำอะไรน้องหมาถึงได้หลับสนิทขนาดนั้น มีบางคนเอาเด็กทารกแรกเกิดนั่งตากลมขอทาน แอบคิด หัวจิตหัวใจของคนพวกนี้เค้าทำจากอะไร ทำไมใจดำจริงๆ สงสารเด็กมากครับ
สุดท้าย...เมื่อไปเที่ยวงานวัดแล้วอย่าลืมไปไหว้พระทำบุญด้วย อย่างน้อยการมางานวัดก็ถือเป็นอานิสงส์ที่ทำให้เราได้บุญติดตัวกลับบ้านด้วยเช่นกันไม่มากก็น้อย
เค้าเรียกว่าอนิสงค์ทางอ้อมที่ติดตัวกลับบ้านแบบไม่รู้ตัว สุขกาย สบายใจ แถมอิ่มท้องอีกต่างหาก
นาย.ชากระป๋อง