นับวันอีสานของเรายิ่งคึกคัก โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวที่เชื่อมต่อกับพี่น้องเมืองลาวจากการตื่นตัวตอบรับกระแส AEC ทริปนี้เราจะชวนคุณไปม่วนซื่นเที่ยวชมวัฒนธรรมในสองประเทศจากอุดรธานี-นครเวียงจันทน์เดี๋ยวนี้จะไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวนั้นแสนสะดวกสบาย เหมือนที่สายการบินนกแอร์พาเราไปเที่ยวเมืองน้องพี่อุดรธานี-เวียงจันทน์ ด้วยการนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ สู่อุดรธานีแล้วต่อรถเดินทางสู่หนองคายเพื่อข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาวเข้าสู่นครเวียงจันทน์ แม้จะต้องฝ่าปรอยฝนเย็นฉ่ำตลอดทริปแต่ก็ม่วนหลายเด้อ!
1. ประตูชัยแด่ชาวลาวผู้เสียสละ หลังจากข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาวที่ด่านท่านาแล้งในเขตสปป. ลาว เรามุ่งหน้าไปจุดหมายแรกที่มีความยิ่งใหญ่และมีความหมายยิ่งต่อพี่น้องชาวลาวนั่นคือ ประตูชัย อนุสรณ์สถานแห่งชัยชนะหลังถูกปลดปล่อยจากเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศส ประตูชัยมีความสูง 49 เมตร เด่นสง่าด้วยโครงสร้างสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากประตูชัยในกรุงปารีส แต่ราย-ละเอียดของสถาปัตยกรรมล้วนบ่งบอกเอกลักษณ์ของลาวอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปศิลปะลาวงานปูนปั้นเล่าเรื่องมหากาพย์รามายณะที่ใต้ซุ้มประตู และมีบันไดวนขึ้นไปชมทิวทัศน์ของนครเวียงจันทน์ใกล้กันยังเป็นที่ตั้งอาคารทำเนียบรัฐบาลและกระทรวงต่างๆ สามารถปั่นจักรยานหรือเดินเล่นชมเมืองได้สบาย
2. ไหว้พระหมื่นองค์ที่วัดสีสะเกด วัดเก่าแก่ที่สุดในเวียงจันทน์ อยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์หอพระแก้วสร้างโดยพระบิดาของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช วัดนี้รอดพ้นจากการถูกเผาทำลายในสงครามมาหลายครั้งจึงเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวลาวอย่างยิ่ง สิ่งสำคัญภายในวัดที่ต้องไปชม เช่น หอพระไตรปิฎกที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะพม่าแผ่นศิลาจารึกเล่าประวัติวัดสีสะเกด พระประธานภายในพระอุโบสถ ด้านนอกมีระเบียงล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน ซึ่งแต่ละด้านมีพระพุทธรูปองค์เล็กๆ อยู่ตามฝาผนัง เมื่อรวมพระพุทธรูปที่อยู่ในวัดมีทั้งสิ้น 10,136 องค์ ใครมาไหว้พระที่วัดนี้ก็เหมือนได้สักการะพระหมื่นองค์ในคราวเดียว
3. บนขอรักกับพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลาว ใครไปถึงเวียงจันทน์แล้วไม่ได้นมัสการพระธาตุหลวงถือว่ามาไม่ถึงเวียงจันทน์ พระธาตุนี้ประดิษฐานพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าส่วนหัวเหน่า 27 องค์ รูปแบบสถาปัตยกรรมเหมือนกับพระธาตุพนม ซึ่งพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเจดีย์ทรงล้านช้างรูปดอกบัวตูมครอบพระธาตุองค์เดิมสูง 45 เมตร รายรอบด้วยพระธาตุองค์เล็กอีก 30 องค์ ด้านหน้าพระธาตุจึงประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชเอาไว้ด้วย ส่วนด้านข้างมีวัดสำคัญอีกสองวัดคือ วัดพระธาตุหลวงเหนือ และวัดพระธาตุหลวงใต้ ว่ากันว่าใครอยากสมหวังเรื่องความรัก หากบนบานที่พระธาตุหลวงแห่งนี้ก็จะสมหวัง
4. ล่องแม่น้ำงึม อีกกิจกรรมท่องเที่ยวสุดชิลล์ ในเวียงจันทน์ ต้องไปล่องแพกินข้าวในแม่น้ำงึม ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่มีการสร้างเขื่อนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าไว้ใช้ในเวียงจันทน์ รวมถึงส่งขายให้บ้านเราด้วย นอกจากจะมีเรือให้เช่าไปเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ แล้วยังมีแพร้านอาหารให้บริการนักท่องเที่ยวที่มาล่องแพ ชิมอาหารพื้นบ้านและเมนูปลาสดๆ จากเขื่อน รวมถึงชมธรรมชาติสองฟากฝั่งแม่น้ำงึมหรือจะร้อง
คาราโอเกะก็มีนะ
5. ท่องพิพิธภัณฑ์หอพระแก้ว อดีตวัดหลวงแห่งราชวงศ์ล้านช้าง สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2108 เพื่อประดิษฐานพระแก้วมรกตที่พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชได้อัญเชิญมาจากอาณาจักรล้านนา ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อจัดแสดงโบราณ-วัตถุต่างๆ เช่น บานประตูจำหลักรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระแท่นบัลลังก์ปิดทองจารึกพระไตรปิฎกภาษาขอม กลองสำริดประจำราชวงศ์ลาว พระพุทธรูปน้อยใหญ่ ยกเว้นองค์พระแก้วมรกตเพราะได้ถูกอัญเชิญกลับสยามประเทศเมื่อครั้งอาณาจักรล้านช้างถูกตีแตกในปีพ.ศ. 2322
6. ช้อปปิ้งตลาดเซ้า-ดิวตี้ฟรีลาว สำหรับขาช้อปไม่มีหงอย ในเวียงจันทน์มีตลาดใหญ่ๆ บนถนนลานช้างอย่างตลาดเซ้าให้ช้อปกระจาย โดยเฉพาะสาวๆ ที่ชอบผ้าทอลาวลายโบราณ งานแกะสลักไม้ และของที่ระลึกมีให้เลือกหลายร้าน บางโซนเหมือนห้างติดแอร์เน้นสินค้าจากจีน ไทย เวียดนาม จำพวกสินค้าอุปโภค-บริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์ เสื้อผ้า ร้านขายทองและเครื่องเงิน ก่อนกลับยังแวะช้อปสินค้าปลอดภาษีในดิวตี้ฟรีลาวที่ตั้งอยู่ด่านชายแดนได้อีกด้วย
7. ศรัทธาธรรมเหนือขุนเขาที่วัดป่าภูก้อน ข้ามมาเที่ยวฝั่งไทยกันบ้าง แม้จะมีเวลาน้อยนิดแต่เราก็ได้ไปชมสิ่งสุดยอดของอุดรธานี ถือเป็นสวรรค์บนดินถิ่นอีสานที่ควรต้องไปสักครั้งในชีวิต นั่นคือขึ้นไปสักการะพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนีหรือพระนอนปางปรินิพพานที่แกะสลักจากหินอ่อนความยาว 20 เมตร สร้างขึ้นในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา
พระพุทธ-ไสยาสน์นี้ประดิษฐานบนยอดเขา ณ วัดป่าภูก้อน ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและ ป่าน้ำโสม ระหว่างรอยต่อ 3 จังหวัด อุดรธานี เลย และหนองคาย สร้างขึ้นเมื่อปี 2530
โดยคุณปิยวรรณและคุณโอฬาร วีรวรรณ ผู้มีความเลื่อมใสในพุทธศาสนา นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีพระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และรูปปั้นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในแถบอีสานให้สักการะด้วย
8. ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน อุดรธานี จุดสุดท้ายของทริปนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แห่งใหม่ของอุดรธานี อยู่ใกล้กับตลาดหนองบัวและศาลเจ้าปู่-ย่า ภายในมีอาคารหลายอาคาร แต่ที่เด่นๆ คือ อาคารพิพิธภัณฑ์คุณธรรมที่เล่าถึงคนไทยเชื้อสายจีนในอุดรธานีที่มีทั้งหมด 11 ตระกูลแซ่ ความเป็นมาของเทพเจ้าปู่-ย่าที่เป็นศูนย์รวมใจของกลุ่มพ่อค้าชาวจีน เรื่องราวประเพณีการไหว้ของชาวจีน ตลอดจนเรื่องราวของขงจื้อ ทั้งหมดจัดแสดงท่ามกลางแสงสีเสียง 3 มิติทันสมัย เดินชมกันเพลินสลับกับบรรยากาศด้านนอกที่รายรอบไปด้วยบ่อปลาคาร์พจักรพรรดิ์และสวนจีนร่มรื่นเย็นสบาย
Fast Fact
สายการบินนกแอร์ ให้บริการเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง)-อุดรธานี วันละ6 เที่ยวบิน เริ่มเที่ยวแรก 06.00 น. และเที่ยวสุดท้าย 19.15 น. และยังมีบริการ Fly ‘n' Ride สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางจากกรุงเทพฯ หรือเชียงใหม่บินลงอุดรธานีแล้วนั่งรถที่รอรับที่สนามบินต่อไปยังเวียงจันทน์ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวได้ ตรวจสอบเที่ยวบินที่ www.nokair.com
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook.. ได้ที่นี่เลย!!