วิ่งจับสายหมอก เดินป่า ชมดอกไม้

วิ่งจับสายหมอก เดินป่า ชมดอกไม้

วิ่งจับสายหมอก เดินป่า ชมดอกไม้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟังเพื่อนเล่าก็เยอะแล้ว อ่านจากหนังสือท่องเที่ยวก็บ่อยแล้วว่า ทุ่งโนนสน อช.ทุ่งแสลงหลวง จ. พิษณุโลก บรรยากาศนั้นสวยงามชวนฝันเพียงใด แต่จนแล้วจนเล่าก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปเชยชมสักที จนพี่ๆ ที่น่ารักจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก กริ๊งกร๊างโทร.มาชวนล่วงหน้ากันเป็นเดือนๆ เพราะไม่อยากให้พลาดโอกาสไปชมความงดงามของทุ่งดอกไม้หลากสีสันที่กำลังชู่ช่อแข่งขันกันอวดโฉม พร้อมนอนกางเต็นท์สัมผัสลมหนาว ท่ามกลางอากาศเย็นสบายแสนสดชื่น ทริปนี้บอกได้คำเดียวว่า ฟังสิบครั้งก็ไม่เท่ากับไปเห็นความงดงามด้วยตาตัวเองเพียงครั้งเดียว!!


อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องธรรมชาติและเป็นอุทยานฯ ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ มีพื้นที่ 789,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ จ. พิษณุโลกและเพชรบูรณ์ มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อน เป็นแหล่งต้นลำธารสำคัญที่ไหลลงสู่แม่น้ำน่าน มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ น้ำตกต่างๆ บนเส้นทางสายพิษณุโลก- หล่มสัก เช่น น้ำตกแก่งโสภา เป็นต้น ส่วนพื้นที่ด้านตะวันออกและตอนกลางของอุทยานฯ ในอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นบริเวณป่าสนและทุ่งหญ้าสะวันนา ได้แก่ ทุ่งแสลงหลวง ทุ่งพญา และทุ่งโนนสน ทริปนี้เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ มุ่งหน้าสู่ อ. เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ก่อนเลี้ยวรถเข้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.12 (รักไทย)เพื่อนอนพักผ่อนเอาแรงก่อนออกเดินทางในช่วงสายๆ ตื่นเช้าวันแรกพวกเราเติมพลังด้วยข้าวต้มร้อนๆ สำหรับเก็บใช้เป็นเรี่ยวแรงในการเดินป่า ก่อนเก็บสัมภาระส่วนตัวและแยกสัมภาระบางส่วนที่หนักเกินกว่าเราจะแบกไหวให้ลูกหาบเเบกขึ้นไป ซึ่งสัมภาระต่อลูกหาบหนึ่งคนนั้นจะไม่เกิน 20 กิโลกรัมเมื่อพร้อมเเล้วเราก็เริ่มออกเดินทางโดยรถ 6 ล้อ จากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.12 (รักไทย) ไปอีกราวๆ ประมาณ 8 กิโลเมตร ก็ถึงจุดเริ่มต้นสำหรับการเดินป่าท่องเที่ยวทุ่งโนนสน

กายพร้อมใจพร้อม ก็ได้เวลาออกสะพายเป้ออกเดินป่ากันอย่างพร้องเพรียง ระหว่างเส้นทางเดินป่าไปทุ่งโนนสน สองข้างเราจะพบกับพรรณไม้น้อยใหญ่ที่เคยเห็นบ้างไม่เคยเห็นบ้างอยู่ตลอดทาง พร้อมกับเสียงบรรยายของเจ้าหน้าที่ที่คอยให้ความรู้กับนักเดินป่าทั้งหน้าใหม่และเก่าตลอดเส้นทาง อีกอย่างก็เป็นการกระตุ้นให้พวกเรารู้สึกสนุกสนานเพลิดเพลินกับการเดินป่าที่ใช้เวลาไม่ใช่น้อย เดินป่ามาครึ่งทาง เห็นหลายคนในทริปถึงกลับลิ้นห้อย ส่งเสียงหอบ แฮ่กๆๆ แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของทุกคนที่จะมาพิชิตความสวยงามของมวลหมู่ดอกไม้ในทุ่งโนนสนให้ได้ในปีนี้ ก็ไม่มีใครถอดใจยอมแพ้กับความเหนื่อยง่ายๆ

เมื่อแวะเติมพลังด้วยอาหารมื้อกลางวันกลางป่ากันเรียบร้อย ก็ได้เวลาออกเดินทางต่อ ระหว่างทางเราได้ยินเสียงแมลงนานาชนิดขับขานเสียงดังระงมไปทั่วผืนป่า แต่เสียงที่ได้ยินกันบ่อยกว่านั้น คือ เสียงของผู้ร่วมเดินทางที่มักจะถามเจ้าหน้าที่ว่า ใกล้หรือยังครับ อีกไกลไหมค่ะ 555 แต่ก่อนที่ทุกคนจะหมดเรี่ยวเรงเดินต่อ เราก็มาถึงจุดชมวิวแห่งแรกให้ได้ชมเติมแรงใจ ซึ่งพี่ๆ เจ้าหน้าที่บอกมาว่า จากจุดนี้อีกนิดเดียวก็ถึงทุ่งโนนสนเเล้วครับ ได้ยินเสียงสวรรค์เพียงเท่านี้ พวกเราทุกคนที่ต่างกำลังเหนื่อยล้าอยู่ หัวใจเบิกบานพองโตขึ้นมาทันที มีพลังเดินป่าต่อกันแบบสู้ไม่ถอยเลยทีเดียว

เดินไปต่ออีกไม่ไกล เราก็มาถึงทุ่งโนนสน รอบกายเราเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าโล่งกว้างสลับกับสนสูงเหมือนดั่งภาพฝันชวนให้รู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เมื่อมาถึงเราก็นั่งถอดหุ่ยพักเอาเเรงกันสักนิด ก่อนลงมือปฏิบัติการกางเต็นท์และช่วยกันทำอาหารเย็นสุดอร่อย เพื่อนบางคนที่เหนื่อยมาทั้งวันก็เเยกย้ายไปอาบน้ำบ้าง โดยเดินไปอาบน้ำกันที่น้ำตกกุหลาบแดง ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักราวกิโลกว่าๆ หรือใครยังไม่ไปอาบก็เดินชมทุ่ง เดินถ่ายรูปดอกไม้ให้หัวใจสดชื่นบ้าง

พักผ่อนกันมาตลอดคืน รุ่งสางก่อนพระอาทิตขึ้น พวกเรารีบลุกกันมาตั้งกล้องรอเก็บภาพบรรยากาศทุ่งโนนสนในยามฟ้าสาง ที่พูดได้คำว่าสวยประทับใจเกินคำบรรยาย จากนั้นกินอาหารเช้าเติมพลังอิ่ม เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ก็พาพวกเราเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติรวมระยะทางกว่า 4 กม. ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติเราจะได้พบกับพันธุ์ไม้หายากเเละพันธฺไม้ไม่ประจำถิ่นหลากหลายชนิด ก่อนมาถึงปลายทาง คือ น้ำตกกุหลาบเเดง ที่เรามาอาบน้ำกันเมื่อวาน

เห็นแค่นั้นทุกคนก็ไม่รอช้ารีบควักน้ำล้างหน้าล้างตา บ้างก็ถอดเสื้อผ้าลงเเช่น้ำให้ชื่นใจ ตรงจุดนี้เราได้เติมพลังกินข้าวเที่ยงกันอีกครั้ง ท่ามกลางธรรมชาติและน้ำตกแสนเย็นสบาย จากนั้นก็เเยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย หรือตัวใครตัวมันนั่นเอง 55 ใครจะนอนเล่น ใครจะถ่ายรูป ก็ทำได้ตามใจชอบ ก่อนล้อมวงนั่งคุยกันในยามเย็น และพักผ่อนให้เต็มอิ่ม ก่อนออกเดินทางในวันรุ่งขึ้น โดยในวันกลับ พวกเราใช้เวลาเดินทางออกจากทุ่งโนนสน ถึงจุดเริ่มต้น เพียงแค่ 3 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น เรียกได้ว่ารวดเร็วปานสายฟ้าแล็บ คงเพราะได้พลังความสดชื่นจากธรรมชาติ ชาร์จแบตให้กับทุกคนเสียกระมัง

เพื่อนๆ คนไหนสนใจรีบวางแผนเดินทางไปกันนะครับ จะไปเป็นหมู่ ไปเป็นคู่ หรือไปกับครอบครัว ก็เป็นทริปธที่สนุกและน่าประทับใจแบบไม่เหนื่อยเกินไปสำหรับคนรักธรรมชาติและลมหนาวจริงๆ

S! Travel Memo

@ ทุ่งโนนสน เป็นทุ่งหญ้าสลับป่าสนเขา ช่วงปลายฝนต้นหนาวตามลานหินจะเต็มไปด้วยไม้ป่าที่แข่งกันออกดอกอวดโฉมความสวยงามทั่วท้องทุ่ง เช่น ดุสิตา ม้าวิ่ง กระดุมเงิน กระดุมทอง สร้อยสุวรรณา เขนงนายพราน และกล้วยไม้ดินนานาชนิด ทุ่งโนนสนตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของอุทยานฯ ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.12 (รักไทย) 15 กิโลเมตร โดยเดินทางด้วยรถยนต์ 6 กิโลเมตร และเดินทางเท้าอีก 9 กิโลเมตร ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว คือ เดือนตุลาคม- มกราคม

@ ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่กิโลเมตรที่ 79-80 เส้นทางสายพิษณุโลก-หล่มสัก นักท่องเที่ยวสามารถและสอบถามข้อมูลเดินทางศึกษาธรรมชาติใช้บริการที่พักและกางเต็นท์บริเวณนี้ได้ สำรองที่พัก โทร.0 2579 7223 , 0 2561 2919 www.dnp.go.th

@ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.8 (หนองแม่นา) มีสิ่งอำนวยความสะดวก ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ห้องประชุม สัมมนา สำหรับ 50 คน บ้านพักไว้ให้บริการ 7 หลัง คือ บ้านแสลงหลวง 201-207 สถานที่กางเต็นท์ ค่ายอนุรักษ์ ค่ายพัก 2 หลัง จำนวน 70 คน เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ติดต่อสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวได้ที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ต.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก 

@ การขนสัมภาระในการเดินป่า แนะนำว่าให้พกสัมภาระที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ พกติดตัวไปด้วยเท่านั้น เช่น ยาประจำตัว น้ำดื่ม เกลือแร่ หรือขนมเล็กๆ น้อยๆ สำหรับเติมพลัง หรือกล้องถ่ายภาพ สำหรับกดชัตเตอร์มุมภาพประทับใจระหว่างเดิน ก็จะช่วยให้คุณมีความสุขเพิ่มขึ้นอีกเยอะ

@ การเดินทางไปหน่วยฯ หนองแม่นา

- รถยนต์ส่วนบุคคล จากบ้านแค้มป์สนกิโลเมตรที่ 100 เส้นทาง พิษณุโลก - หล่มสัก แยกไปตามทางหลวงหมายเลข 2196 ทางไปเขาค้อจนถึงตลาดพัฒนา เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2325 จนถึงบ้านทานตะวัน มีทางไปหน่วยจัดการอุทยานฯ (หนองแม่นา) อีก 3 กิโลเมตร รวมระยะทางจากบ้านแค้มป์สน 35 กิโลเมตร

- รถโดยสาร จากสถานีขนส่งพิษณุโลก โดยสารรถประจำทางสาย พิษณุโลก - หล่มสัก ลงรถที่บ้านแค้มป์สน กิโลเมตรที่ 100 จากนั้นจ้างเหมารถสองแถวจากบริษัทรถเช่าใน พิษณุโลกไปยังหน่วยฯหนองแม่นาเลยก็ได้

สอบถามรายเอียดได้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง โทร.0 5526 8019

เรื่องและภาพ: ปิยกิตติ์ นิตย์เจริญ

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)


ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook.. ได้ที่นี่เลย!!

อัลบั้มภาพ 28 ภาพ

อัลบั้มภาพ 28 ภาพ ของ วิ่งจับสายหมอก เดินป่า ชมดอกไม้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook