ณ อินเดียนาโปลิส : "ไมค์ ไทสัน" กับชีวิตโลกคู่ขนาน 3 ปีในคุก

วันที่ ไมค์ ไทสัน ก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์โลกในช่วงปลายยุค '80s เซียนมวยทั่วโลกเห็นพ้องต้องกันว่าไอ้หนุ่มคนนี้กำลังจะกลายเป็น มูฮัมหมัด อาลี คนต่อไป เขาจะเป็นวีรบุรุษของชาวอเมริกัน และกลายเป็นตำนานของประเทศ... ตู้ม! ทว่าทุกอย่างเป็นเหมือนพลุ จุดขึ้นมาตูมเดียวและจากไปตลอดกาล...

"ผมหวนคิดถึงคำพูดที่ตัวเองเคยพูดเมื่อนานมาเเล้ว มันสะท้อนให้เห็นว่าผมควรละอายขนาดไหน ผมปฎิบัติตัวเยี่ยงสัตว์มาหลายปี ผมต้องการที่จะอ้อนน้อมถ่อมตนให้มากที่สุดกับความสามารถที่ผมมี" ไมค์ ไทสัน ตำนานนักชกแชมป์โลกเฮฟวี่เวทในวัย 48 ปี เล่าย้อนไปถึงอดีตอันหอมหวานที่จบลงเพราะตัวของเขาเอง

 

"ตอนนั้นผมไม่ได้อ่อนน้อมถ่อมตนเลย" เขาสารภาพ "ไม่มีกระดูกข้อไหนในร่างกายผมที่เขียนว่าอ่อนน้อมถ่อมตน … ต่อให้ผมอยากจะทำให้มันเป็นจริงแค่ไหนก็ตาม"

นี่คือเรื่องราวของชายผู้ยโสโอหังและเรียกตัวเองว่าคนที่เลวที่สุดในโลก เขาเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสุดโต่ง และบางครั้งมันมากเกินไปจนทำให้เขาต้องเข้าไปรับกรรมในคุก... ในที่เเห่งนั้นเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง ติดตามได้ที่นี่

ติดได้อย่างไร?

ไมค์ ไทสัน คือยอดมวยเฮฟวี่เวทที่เก่งกล้าสามารถเกินอายุ ในปี 1986 เขากลายเป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทด้วยการเอาชนะ เทรเวอร์ เบอร์บิค ด้วยวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น และมันคือแชมป์โลกที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้เขายังพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ได้ฟลุ๊คและไม่ได้เก่งแค่ไฟต์เดียว เพราะในช่วงปลายยุค '80s ไม่มีนักชกเฮฟวี่เวทต้านทานความร้อนแรงของ "Iron Mike" ได้เลย เรียกได้ว่า ไทสัน น็อคได้ทุกคนในรุ่นก็คงไม่ผิดนัก ...

 

ณ เวลานั้นสิ่งที่ ไทสัน แสดงออกมาคือความดุดันแบบมวยหนุ่ม แต่ที่เหนือยิ่งกว่าความดุดันคือความเร็วที่เกินกว่ามวยรุ่นยักษ์ด้วยกันจะตามทัน เขามีสเต็ปฟุตเวิร์กที่คล่องแคล่ว และการออกหมัดไวเหมือนกับการฉกของงู ภาพในตอนนั้นเหมือนกับการได้เห็น มูฮัมหมัด อาลี ตอนหนุ่มก็ไม่ปาน แน่นอนว่าเขามีโอกาสจะตามรอย อาลี ได้เหมือนกัน ...

อย่างไรก็ตามว่าอย่าเพิ่งตัดสินอนาคตของนักกีฬาคนใดก็ตามที่ดังเปรี้ยงขึ้นมาในทีเดียว เพราะบททดสอบที่แท้จริงมันคือหลังจากนั้นต่างหาก "ชื่อเสียง" เปลี่ยนคนบ้านๆ ให้เป็นคนดัง, "เงินทอง" เปลี่ยนคนที่ไม่เคยมีได้มือเติบ และ "เกียรติยศ" เปลี่ยนให้อดีตกุ๊ยข้างถนนวางมาดยโสโอหังใส่ทุกคน  และไทสัน เป็นคนประเภทนั้น จริงๆ บทบาทตัวแสบสิงสถิตอยู่กับ ไทสัน มานมนานตั้งแต่ยังเด็ก ทว่าหลังจากวันที่เขาดังเป็นพลุแตกขึ้นมาเขากลับยิ่งแสบขึ้นมากกว่าเดิม โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง

รอรีย์ ฮอลโลเวย์ อดีตผู้จัดการของ ไมค์ ไทสัน ย้ำกับนักมวยในสังกัดเขาไม่รู้ต่อกี่ครั้ง รอรี่ พยายามเตือนว่าสิ่งนี้จะทำร้ายเขา และทำให้ชีวิตพังลงได้ง่ายๆ แต่เมื่อด้านมืดครอบงำ ไม่ว่าใครพูดอะไร ไทสัน ไม่สนใจทั้งนั้น

"ตลอดชีวิตเลยที่ผมพยายามที่จะดึง ไมค์ ไม่ให้ไปยุ่งกับเรื่องของผู้หญิงมากนัก โดยเฉพาะตอนถูกคุมขัง แต่กลับเป็นผมที่ถูกไล่ออกมาเอง เขามีการ์ดเฝ้าประตูโรงแรมหลายคน และการ์ดของเขาก็กันไม่ให้ผมเข้าไปเยี่ยมจนกว่าจะถึงวันรุ่งขึ้น เพราะเขาอยากเจอสาวๆ มากกว่า และนั่นก็ทำให้ผมต้องไปนอนคอยในรถแทน"

ไมค์ ชื่นชอบในการควงสาวสวยไม่เว้นแต่ละวันว่ากันว่าเขาเคยนอนกับผู้หญิงคืนเดียวถึง 15 คนก็ยังมี แต่สุดท้ายในดินเเดนที่กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ต่อให้ดังแค่ไหน ไมค์ ก็เกมอยู่ดี "ผมรู้ดีว่าตัวเองจะช่วยเขาได้และลงมือทำไปแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะช่วยเปลี่ยนแปลงแก้ไขชีวิตของใครให้กลับมาสู่วิถีปกติได้ด้วยตัวผมคนเดียว" รอรี่ คอตกยอมรับความจริง

 

ไทสัน ถูกจับกุมเมื่อปี 1991 ด้วยข้อหาข่มขืน เดสิรี วอชิงตัน เด็กสาววัย 18 ปี หนึ่งในผู้เข้าประกวดนางงาม โรด ไอร์แลนด์ ในโรงแรมที่พัก ทำให้เจ้าตัวถูกดำเนินคดีต้องขึ้นโรงขึ้นศาล และถูกตัดสินจำคัก 6 ปี แม้เรื่องนี้ตัวของผู้เสียหายไม่ได้ยื่นฟ้องร้องเอาผิด แต่มันก็ยังผิดกฎหมายอยู่ดี ...

"คุณจะเรียกว่าข่มขืนได้อย่างไรเมื่อมีผู้หญิงมาเคาะห้องและเข้ามาจู่โจมคุณตอนตี 2" ไทสัน เล่าผ่านมุมมองของเขาในค่ำคืนนั้น ทว่ามันก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้อยู่ดี หลักฐานมัดตัวจนดิ้นไม่หลุด ศาลพิพากษาจำคุกไทสันเป็นเวลา 6 ปี พร้อมกับสั่งให้คุมประพฤติอีก 4 ปี รวม 10 ปี และนั่นคือวันที่เขาต้องสละเข็มขัดเเชมป์โลกและเดินเข้าซังเตไปแบบจำยอม

ทันทีที่ผู้พิพากษากริฟฟอร์ดจาก อินเดียนาโปลิส ตัดสินให้มีความผิดคดีข่มขืนต้องรับโทษ ไมค์ ก็ถอดนาฬิกาและมอบให้กับทนายความของเขา จากนั้นจึงถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวไป ... ชีวิตในคุกเริ่มขึ้นเเล้ว

สบายแค่ไหน

ไทสัน อยู่อย่างไรในวันแรกที่เข้าไปอยู่ในคุก? ... เรื่องนี้เขาบอกภายหลังจากที่ออกมาหลายปีแล้ว มันเป็นช่วงที่เขารับเล่นภาพยนตร์เรื่อง The Hangover โดยเจ้าตัวบอกว่า "คือชีวิตวัยเด็กของผมเนี่ยได้เจอกับบางสิ่งที่น่ากลัวและสิ่งที่ผมไม่ชอบใจมามากมาย ดังนั้นผมคิดว่าการได้อยู่ในคุกมันง่ายกว่าเยอะเลยนะ" ที่เขาพูดมานั้นจริงหรือว่าแกล้งตัดไม้ข่มนามกันแน่?

 

ไทสัน เริ่มเล่าต่อจนหมดเปลือกว่าตอนนั้นมันเหมือนการเข้าไปลาพักร้อนดีๆ นี่เอง เขาเข้าคุกไปได้ไม่นานเขาสามารถหายาเสพติดมาใช้ในเรือนจำได้ด้วยการส่งเงินให้กับคนที่เขาเรียกว่า "ที่ปรึกษาด้านยาเสพติด" โดยเงินล็อตแรกที่ ไทสัน มอบให้เอเย่นต์หลังลูกกรงคนนั้นคือ 10,000 เหรียญสหรัฐฯ เขาใช้เวลาไปกับการ กิน-นอน-เสพยา-อ่านหนังสือ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ... เซ็กส์  

แม้ว่าคุกที่เขาอยู่จะเป็นคุกนักโทษชาย ไม่มีนักโทษหญิงมาป้วนเปี้ยนแต่ก็ไม่ใช่ปัญหา ไมค์ ไทสัน เกิดปิ๊งกับผู้คุมสาวคนหนึ่งในช่วงแรกที่เข้าไป เขาใช้ความดัง และเงินที่ยังมีอยู่ (ภายนอกคุก) เกี้ยวเธอมาครองโดยมอบเงินให้เธอ 10,000 เหรียญฯ เพื่อให้เธอเอาไปซ่อมหลังคาบ้าน และคนที่ ไทสัน มีเซ็กส์ด้วยก็คือคนเดียวกับคนที่นำยาเสพติดมาให้เขาใช้ในคุกนั่นแหละ...

"ผมมีเซ็กส์บ่อยมาก... บ่อยจนเหนื่อยหอบ เหนื่อยเกินกว่ากว่าจะเดินไปออกกำลังกายประจำวันตามกิจวัตรนักโทษได้ ผมเอาแต่นอนอยู่ในห้องขังของผมนั่นแหละ" ไทสัน ว่าไว้กับ เดลี่ เมล์  

 

ส่วนเรื่องของอาหารการกินของเขาก็จัดว่าสบายเอาเรื่องกว่าใครๆ เพราะมีข่าวรายงานว่า ไทสัน กิน ล็อบสเตอร์ ราชาแห่งกุ้งที่มีราคาแพงมากตอนที่เขาอยูในตารางอีกด้วย

และหากใครจะถามว่าทำไมเขาสบายขนาดนั้น และทำไมจึงใช้ยาเสพติดได้ไม่โดนตรวจฉี่หรือ? คำตอบคือโดนตรวจ แต่ไม่โดนจับ เขาตอบกลับ 1 ประโยคว่า "ผมฉี่ใส่ขวดและบางขวดใบตั้งไว้บนแบงค์ 500$ ก่อนจะเอามันไปไว้ใต้เตียงเป็นเวลาสามวันและนำมันไปให้เธอ จากนั้นเธอจะสวดภาวนาให้ผม" ไมค์ ว่าต่อไปอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เงินทำให้เขาปัสสาวะสะอาดได้อย่างไม่น่าเชื่อ

เรื่องที่ ไทสัน พูดมาทั้งหมดจริงหรือไม่ไม่มีใครรู้ ทว่าเขารับโทษในคุกนั้นเพียงแค่ 3 ปี หรือกึ่งหนึ่งของโทษจำนวนเดิมเท่านั้น โดยสาเหตุที่ลดโทษมาจากการที่เขาเป็นนักโทษที่มี "ความประพฤติดี" ซึ่งดูจากที่เขาเล่ามาดูเหมือนว่ามันจะห่างไกลจากคำนี้ไปพอสมควรเลยทีเดียว

อะไรคือความจริง?

ขึ้นชื่อว่ามนุษย์แล้วไม่มีใครมีความสุขได้ทุกวันหรอก แม้ ไทสัน จะเล่าว่าเขามีชีวิตที่แสนสบายในช่วงการจองจำแค่ไหนแต่ความจริงก็คือความจริง ยิ่งเวลาผ่านไป ยา และ เซ็กส์ ก็ทำให้เขาเบื่อได้เหมือนกัน สภาพจิตใจของเขาย่ำแย่ แถมความฟิตของร่างกายก็แทบหมดเค้านักชกแชมป์โลก เพราะตอนที่เขาเข้ามาในคุก ไทสัน มีน้ำหนักตัว 270 ปอนด์ ทว่าหลังจากอยู่มาได้ 3 ปี เขาเหลือน้ำหนักเพียง 215 ปอนด์เท่านั้นเอง สาเหตุที่เขาน้ำหนักตัวหายไปกว่า 50 ปอนด์ เป็นเพราะว่าเขาปฎิเสธที่จะรับอาหารจากเรือนจำเพราะว่ามันเหม็นเกินไป

 

น่าแปลกที่หลายคนซึ่งใกล้ชิดกับเขามักจะเล่าเรื่องของ ไทสัน ตอนอยู่ในคุกเป็นคนละเรื่องกับที่เจ้าตัวเล่า คามิลล์ เอ็ดวาลด์ แม่บุญธรรมของ ไทสัน ที่เดินทางมาเยี่ยมเขาในคุกเล่าว่าจริงๆ แล้วสิ่งทีเธอเห็นคือความทรมานของลูกชาย ไม่ใช่ความสุขอย่างที่เขาป่าวประกาศแต่อย่างใด

"เรือนจำคือนรกของ ไมค์ เขาแค่พยายามอำพรางความเจ็บปวด เขาอาจจะซ่อนมันไว้แต่ฉันเห็นมันได้จากดวงตาของเขา" คามิลล์ เอ็ดวาลด์ เล่าถึงเด็กผู้ชายที่เธอรู้จักดี นอกจากนี้ยังมี รอรี่ ฮอลโลเวย์ เพื่อนสนิทของเขาก็ให้สัมภาษณ์ไปในทิศทางเดียวกันอีกด้วย

"ไมค์ เล่าให้ผมฟังว่า..." ฮอลโลเวย์ เริ่มเล่าบ้าง "รอรี่ ฉันเหมือนกับสะดุ้งตื่นกลางดึกทุกวัน ฉันคิดว่ามันคือความฝัน แต่เมื่อฉันลืมตาฉันก็ต้องสบถใส่ตัวเองเสมอ "เวรเอ๊ย กูยังติดอยู่ในคุกห่านี่อยู่อีกเหรอวะเนี่ย""  

ทุกอย่างดูสวนทางกันเข้าไปใหญ่เมื่อ วอชิงตัน โพสต์ ยืนยันว่า ไทสัน ไม่ได้ใช้ชีวิตสบายอย่างที่เขาว่า แต่ก็ไม่ได้ลำบากเทียบเท่ากับนักโทษคนอื่นๆ อย่างน้อยๆเรื่องของ อาหาร ไมค์ ไทสัน ยังพอได้กินของดีๆ อย่าง ชีสเบอร์เกอร์, ทูน่าสเปรด, อาหารเม็กซิกันอย่าง นาโช่ และของว่างอื่นๆ อยู่บ้าง เพราเขาใช้คนที่อยู่ข้างนอกโอนเงินไปให้กับผู้คุมบางคนเพื่อแลกกับอาหารมื้อพิเศษ

 

ส่วนกิจวัตรของ ไทสัน ยังอยู่ในกรอบในระเบียบโดยเฉพาะการตื่นตี 5 เหมือนกับคนอื่นๆ และตัวของ ไทสัน นั้นมีหน้าที่ทำความสะอาดสนามบาสเก็ตบอลของเรือนจำ นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยกิจวัตรประจำวันในคุกของเขาดังนี้

5 a.m. : ตื่นเช้า (ผู้คุมปลุก)

5:30 a.m. : มื้อเช้า

8 a.m. : ไทสัน จะเริ่มเข้ายิมตอน 7 โมงครึ่ง และเริ่มออกกำลังกายตัวเองรวมถึงทำความสะอาดสนามบาสเก็ตบอลและอุปกรณ์ต่างๆ

8:30 a.m. : พบคนญาติที่มาเยี่ยมเป็นเวลา 2 ชั่วโมง

11 a.m. อาหารกลางวัน

1 p.m. เข้าห้องสมุด เรียน อ่านหนังสือ (วันจันทร์ถึงวันศุกร์)

4 p.m. มื้อเย็น เข้าโรงยิมและเล่นกีฬาอย่าง บาสเก็ตบอล, โต๊ะพูล (โรงยิมเปิดตลอดทั้งวันในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์)

6 p.m. ชั่วโมงญาติเยี่ยมรอบค่ำ มีเวลา 2 ชั่วโมง

7:15 p.m. ดูหนังในห้องอาหารกลางวัน บางครั้งก็มีการเปิดรายการโชว์ทางโทรทัศน์ให้ดู

7:30 p.m. กิจกรรมทางศาสนา

11:30 p.m.  ปิดไฟห้องขังและเข้านอน... อย่างไรก็ตามกรณีของ ไทสัน ได้รับอนุญาตให้ออกมาดูโทรทัศน์หรืออ่านหนังสือในห้องอาหารกลางวันได้จนถึงตี 4 ครึ่ง

ดูไม่เลวร้ายมากนัก แต่มันก็เหมือนนรกกับสวรรค์หากเทียบกับตอนที่เขายังเป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทที่เคยทำเงินได้จากการชกในคืนเดียวเป็นเงินถึง 19 ล้านดอลลาร์ ... แน่นอน ขึ้นชื่อว่าคุกเเล้ว ต่อให้รวยค้ำฟ้า ทรงอิทธิพล หรือเคยผ่านอะไรแย่ๆ มาจากไหน ก็คงไม่มีใครมีความสุขกับมันนักหรอก ไทสัน เองก็เช่นกัน อย่างน้อยๆ ในวันที่เขาถูกปล่อยออกมาจากคุก สีหน้าของเขาก็บอกอะไรได้หลายอย่าง

สูญเสีย…

26 มีนาคม ปี 1995  ไทสัน พ้นโทษหลังจากรับโทษเพียงแค่ 3 ปีเพราะประพฤติตัวดี มันอาจจะเป็นไปได้ความลำบากในคุกทำให้เขาเลิกซ่าไปสักพัก ณ ช่วงบั้นปลายของชีวิตในคุกเขาได้เข้ากับศาสนาอิสลาม

 

"ผมได้เข้ารับอิสลามด้วยหัวใจ ที่ยอมรับอย่างแท้จริง ก่อนหน้านี้ ผมมีความลังเลใจที่จะนับถือศาสนานี้ จนกระทั่งได้ศึกษาอัลกุรอาน ทำให้พบว่า อัลกุรอานสามารถให้คำตอบต่อทุกคำถาม ที่เกี่ยวกับการมีชีวิตและหลังจากที่ตายไปแล้ว"

"ผมถูกคุมขังผ่านไป 3 ปี ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของการถูกลงโทษจำคุกในจำนวน 6 ปี ที่เรือนจำรัฐอินเดียน่า โดยที่ช่วงเวลาว่างในคุก ได้เปิดโอกาสให้ผมได้คิดทบทวนช่วงชีวิตของตนเอง บนสังเวียนและนอกสังเวียน ผมได้ตัดสินใจศึกษาอิสลามอย่างจริงจัง หลังจากที่มั่นใจในตนเองว่า ศาสนานี้จะช่วยให้ผมได้ก้าวผ่านปัญหาต่างๆ ในชีวิต" เขาเล่าถึงเหตุผลที่เข้ากับศาสนาอิสลามในอีกหลายปีต่อมา ...

การรับศาสนาอิสลามเหมือนเป็นการแสดงให้เห็นว่า ไทสัน ต้องการที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเป็นอย่างมากในช่วงเวลาที่ชีวิตยากลำบาก ดูเหมือนสิ่งที่ วอชิงตัน โพสต์ พูดถึงชีวิตของเขาในคุกนั้นดูจะน่าเชื่อถือขึ้นมาบ้างจากเรื่องนี้  

ทันทีที่เท้าก้าวออกจากคุก ไทสัน ยิ้มอย่างมีความสุขเขาบอกว่าดีใจที่จะได้กลับบ้านเสียที "ขอให้อัลเลาะห์อวยพร ไมค์ ไทสัน ด้วย" เขากล่าวแค่นี้และรีบบึ่งกลับบ้านในทันที

ไทสันอาจจะค้นพบชีวิตใหม่ที่มีความสุขหลังจากการก้าวพ้นตาราง แต่ความจริงคือเขาสูญเสียอะไรไปมากยิ่งกว่านั้นเยอะ วิชาหมัดมวยของเขาไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไป "Iron Mike" กลายเป็นแค่ตำนานที่ครั้งหนึ่งเคยมี  แม้ว่าเขาจะรีบกลับมาฟิตร่างกายและขึ้นเวทีอีกครั้ง แต่ก็โดนทั้ง อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ และ เลนน็อกซ์ ลูอิส สอยร่วงแบบสู้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เรียกว่าสิ้นภาพเลยก็ว่าได้

 

จากนั้นชีวิตไทสันก็มีแต่ขาลงไปเรื่อย เขายังติดคุกอีกครั้งในคดียาเสพติดเมื่อปี 2000 อีกทั้งยังมีข่าวทำร้ายร่างกาย, โดนฟ้องล้มละลาย อะไรอื่นๆ อีกเยอะเเยะโรมรันพันตูกันไปหมด ... และสุดท้ายจากการที่เขาจะกลายเป็นโคตรมวยเบอร์ 1 ตลอดกาลแบบ มูฮัมหมัด อาลี ที่ไม่ว่าใครๆ ก็มองด้วยความชื่นชมและเป็นดั่งวีรบุรุษของอเมริกา ไทสัน กลับทำลายตัวเองจนกลายไปเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น เขาต้องขึ้นโชว์ในเวกัส ต้องไปรับบทห่วยๆ โดยใช้ชื่อเสียงเก่าๆ แลกมา ดังนั้นเเล้วสรุปกันตรงนี้ได้เลยว่าชีวิตของ ไมค์ ไทสัน จมลงเพราะการติดคุกในปี 1992 อย่างแท้จริง

น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่แค่กับตัวเขาเท่านั้นแต่ยังเป็นเรื่องน่าเสียดายของวงการมวยโลกด้วย… เพราะด้วยพรสวรรค์ที่เขามี หากเขาเดินทางเป็นเส้นตรงไม่ว่อกแว่ก ไม่แน่ ไมค์ ไทสัน อาจจะเป็นนักชกที่ยิ่งใหญ่เกินกว่า อาลี ก็เป็นได้