ผ่าตัดโอลิมปิคไทย

ผ่าตัดโอลิมปิคไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
''บิ๊กจา''ยังหนุน''บิ๊กอ๊อด''ให้เป็นประธานสมัยที่ 3

บิ๊กอ๊อดพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยถึงการที่ คณะกรรมการโอลิมปิคฯ จะมีการประชุมสมัชชาใหญ่สามัญ ประจำปี 2551 ครั้งที่ 1/2552 ในวันที่ 30 มี.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมเรดิสัน โดยมีวาระสำคัญ คือ การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารฯ และประธานโอลิม ปิคฯ คนใหม่ว่า การเลือกตั้งกรรมการบริหารฯ ประจำปี 2552-2556 จะมีผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียง 46 คน ประกอบด้วย สมาคมกีฬา 33 สมาคม, ผู้ทรงคุณวุฒิ 10 คน ไอโอซีเมมเบอร์ 1 (ดร.ณัฐ อินทรปาณ) และผู้แทนชมรมอดีตนักกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2 คน (เกษราภรณ์ สุตา, สมจิตร จงจอหอ)

สำหรับวิธีการเลือกตั้งนั้น จะให้ผู้มีสิทธิ 46 คน เสนอชื่อกรรมการบริหาร 23 คน รวมกับไอโอซีเมมเบอร์ 1 คน และชมรมอดีตนักกีฬาโอลิมปิก 1 คน รวมเป็น 25 คน ก่อนที่คณะกรรมการบริหารฯ ทั้ง 25 คน จะมาประชุมเพื่อเลือกประธานโอลิมปิคฯ, รองประธาน 6 คน, เลขาธิการฯ และเหรัญญิก อีกครั้ง หากไม่มีอะไรติดขัดจะมีการเลือกผู้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ในวันที่ 30 มี.ค. ทันที ซึ่งหลังจากเลือกกรรมการบริหารแล้ว ยังจะมีวาระเลือกตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ หรือบุคค้มีประสบการณ์ด้านกีฬา 10 คน เป็นสมาชิกสามัญสมัชชาใหญ่ คณะกรรมการ โอลิมปิคฯ อีกด้วย

พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวต่อว่า หากได้รับความไว้วางใจให้เป็นประธานอีกครั้งก็จะถือเป็นสมัยสุดท้ายเพราะถือว่าทำหน้าที่มาพอสมควรแล้ว พร้อมกันนี้ก็ได้เตรียมนโยบายใหม่ ๆ ที่จะนำเข้ามาปรับปรุงการทำงานไว้คร่าว ๆ แล้ว ได้แก่ การปรับปรุงการมอบหมายงานของโอลิม ปิคฯ ในกรรมาธิการฝ่ายต่าง ๆ ในรูปแบบใหม่ โดยงานในส่วนไหนที่ดำเนินไปด้วยดีมีประสิทธิภาพก็จะต้องทำต่อไป แต่ส่วนใดที่ไม่ดีก็จะยุบ ซึ่งกรรมการบริหารทุกท่านจะต้องมีหน้าที่ในกรรมาธิการชุดต่าง ๆ และจะต้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วย ประการต่อมาจะมีการปรับปรุงกฎ ธรรมนูญ ข้อบังคับของคณะกรรมการโอลิม ปิคฯ บางส่วนให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ของโลก และประการสำคัญก็คือกรรมการบริหารทุกท่านที่ได้รับเลือกเข้ามาจะต้องมีส่วนในการนำเสนอนโยบายให้กับคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ชุดใหม่ด้วย

ทางด้าน บิ๊กจา พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการ โอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีอะไรน่าหนักใจ ทุกอย่างจะดำเนินไปตามระเบียบ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสมาชิกว่าจะออกเสียงเลือกใคร แต่ตอนนี้ไม่มีข่าวว่ามีกลุ่มใดลงสมัครแข่งขัน แต่ส่วนตัวขอยืนยันว่าจะสนับสนุน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เป็นประธานสมัยที่ 3 ส่วนตัวหากได้รับหน้าที่อีกครั้งก็จะทำงานเป็นครั้งสุดท้าย หลังทุ่มเทกับงานกีฬามากว่า 40 ปี สำหรับเงินของโอลิมปิคไทย หลังปิดบัญชีล่าสุดมี 160 ล้านบาท นั้น เงินทั้งหมดจะเก็บไว้ใช้จ่ายในกิจกรรมของโอลิมปิคฯ โดยเฉพาะการสนับสนุนกีฬาความหวังคว้าเหรียญรางวัลในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งหลังจากเลือกตั้งเสร็จสิ้นจะทำรายละเอียดพร้อมรายชื่อคณะกรรมการชุดใหม่ ให้กับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) รับทราบตามระเบียบภายใน 7 วัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้รับแจ้งจากไอโอซี ว่าจะส่งสักขีพยานมาในวันเลือกตั้งหรือไม่.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook