ไพ่ใบสุดท้าย

ไพ่ใบสุดท้าย

ไพ่ใบสุดท้าย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"เมื่อไร ลิเวอร์พูล จะซื้อกองหน้าระดับโลก?" นี่คือคำถามคาใจสาวก "หงส์แดง" ที่ติดค้างมาสักพัก

ก่อนหน้านี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมพยายามนิ่ง และพูดมากที่สุดแค่ว่า "เราจะซื้อกองหน้าระดับโลก แต่บอกไม่ได้จริงๆ ว่าจะเป็นใคร"

เมื่อคำตอบของคำถามนั้นคือ มาริโอ บาโลเตลลี่ ทำให้เสียง "เดอะ ค็อป" แตกออกเป็น 2 ฝ่าย มีทั้งที่ชอบและไม่ชอบ

โพล - จากเว็บไซต์ LiverpoolOffside.sbnation.com



คำถาม - มาริโอ บาโลเตลลี่ คือคำตอบที่ถูกต้องของ ลิเวอร์พูลหรือไม่

9% - แน่นอน เขาจะเป็นเป้าให้คนอื่นเล่นงานตั้งแต่วันแรก

47% - เป็นไปได้ ถ้าคนที่เค้นฟอร์มที่ดีที่สุดของเขาคือ ร็อดเจอร์ส

34% - อาจจะ มันเสี่ยง แต่มันก็เป็นทางเลือกที่ดีที่พอเหลืออยู่

6% - ไม่น่าจะใช่ โอกาสที่เขาจะมาแล้วทำได้ดีมีน้อยมาก

4% - ไม่เลย ไม่มีทางที่เรื่องนี้จะจบลงด้วยดี


ก่อนจะพูดถึง ลิเวอร์พูล ว่าได้อะไรไปบ้าง อยากให้รู้ว่า เอซี มิลาน เสียอะไรไปบ้าง ถ้ามองเผินๆ แล้ว หลังจาก 2 ฤดูกาลผ่านไป "รอสโซเนรี่" แทบไม่เสียอะไรเลยในมุมมองเรื่องการทำธุรกิจ พวกเขาซื้อบาโลเตลลี่ มาจาก แมนฯ ซิตี้ ในราคา 24 ล้านยูโร (ประมาณ 1,080 ล้านบาท) เงื่อนไข ผ่อน 6 ปี ตอนนี้ผ่านไป 2 ปี ขายต่อได้ 20 ล้านยูโร (ประมาณ 900 ล้านบาท) ก็ถือว่าไม่ขาดทุน

คิดอีกมุมก็ถือว่าแปลก เมื่อ อาเดรียโน่ กัลเลียนี่ ปิศาจด้านการเจรจาปิดดีลแบบหักคอคู่ค้า รีดค่าตัว บาโลเตลลี่ ได้น้อยนิด แต่ก็อย่างว่า พ่อคุณโชว์อินดี้ในแคมป์ทีมชาติอิตาลีช่วงฟุตบอลโลก 2014 มากขนาดนั้น จะขายให้ได้ 50 ล้านยูโร (ประมาณ 2,250 ล้านบาท) ก็แปลกเกิน

เคยโดน โชเซ่ มูรินโญ่ ตัดชื่อออกจากทีมด้วยความเกรียน

ในแง่ของความเป็นทีม มิลาน เสียนักเตะพรสวรรค์ไป 1 คนที่หาใครมาแทนก็ไม่ได้ อย่างหนึ่งที่น่าชื่นชมของ บาโลเตลลี่ คือเขาเป็นแฟน มิลาน ขนานแท้ อยากมาอยู่ ซาน ซิโร่ นานแล้ว ตั้งแต่สมัยค้าแข้งให้ อินเตอร์ มิลาน เขาเคยสวมเสื้อแดงดำออกรายการโทรทัศน์ในอิตาลี แล้วก็บอกว่าจริงๆ เป็นสาวก "ปิศาจแดงดำ" ทำเอาโดน โชเซ่ มูรินโญ่ หั่นพ้นทีมไปเลย

ช่องว่างการขาดไปของ บาโลเตลลี่ เป็นการบ้านให้กับ ฟิลิปโป้ อินซากี้ กุนซือลูกหม้อว่าจะปั้นใครมาแทน ตอนนี้แม้จะมีกองหน้าให้เลือกใช้หลายคน แต่เชื่อเถอะว่าในรายชื่อที่มี ใช้จริงได้แค่ไม่กี่คนเท่านั้นเอง แต่เบื้องลึกในความเป็นจริง ไม่รู้เหมือนกันว่า การหาคนอื่นที่คุมง่าย อาจจะดีกว่าทู่ซี้เอาตัวเกรียนที่พูดอะไรก็ไม่ฟังไว้กับทีม

มาต่อที่ประเด็นด้านเมอร์ซี่ไซด์ ในขณะที่ทุกคนคิดเหมือนกันว่า ลิเวอร์พูล น่าจะต้องการดาวยิงแถวหน้าที่เจ๋งไม่แพ้ หลุยส์ ซัวเรซ ซึ่งเพิ่งย้ายไป บาร์เซโลน่า แต่ในความเป็นจริงแล้ว ดาวยิงเจ๋งๆ ต่างก็อยู่กับสังกัดที่ไม่น้อยหน้าใครในโลกทังนั้น ไม่ว่าจะเป็น คาริม เบนเซม่า ที่เคยมีข่าวด้วย หรือ เอดินสัน คาวานี่ และ ราดาเมล ฟัลเกา 2 รายหลังอยู่ในแดนน้ำหอม หลายคนอาจจะคิดว่า ทำไมไม่มาหาความท้าทายในแดนผู้ดี ลีกอังกฤษมีระดับการแข่งขันที่สูงกว่า น่าตื่นตามากกว่า แต่ต้องไม่ลืมว่า ค่าจ้างที่ได้ ต่างกันมากหรือไม่ "หงส์แดง" จ่ายไหวหรือเปล่า การเรียนภาษาการปรับตัวอีกเท่าไร เพราะปีนี้ทั้ง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และ โมนาโก ได้ไป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เหมือนกัน

อย่างน้อย "เกรียนโอ้" ยังมีพรสวรรค์อยู่ที่หงส์แดง จะได้ "เกรียนกว่า" หรือ "เก่งกว่า"

บาโลเตลลี่ มีพรสวรรค์ มีฝีเท้าชั้นยอด รู้จัก พรีเมียร์ลีก ดีเยี่ยม เคยอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาแล้ว บอกได้คำเดียวว่า ไม่มีอะไรต้องกลัว นอกจากสื่อมวลชนที่ตามติดและหยิบทุกเรื่องนอกสนามของดาวยิงผู้นี้มาเป็นข่าว ได้หมด เทียบแล้ว เขาก็เหมือนเด็กวัยรุ่นจอมซุกซนและเล่นอะไรแผลงๆ คนหนึ่ง แต่บางทีมันอาจจะมากไปสักหน่อย ซึ่งถ้าลดตรงนั้นได้ เขาก็ไม่แตกต่างอะไรกับศูนย์หน้าระดับโลกคนอื่นๆ เขามีทีเด็ดที่สามารถใช้เป็นไพ่ใบสุดท้ายได้ ถ้าวันไหนเกิดอาการตัน คิดอะไรไม่ออก ขอแค่สั่ง บาโลเตลลี่ ว่า ทำอะไรสักอย่างให้เกิดเป็นประตู บางที ร็อดเจอร์ส อาจจะได้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง

อีกข้อสำคัญที่ ร็อดเจอร์ส ต้องทำ และเป็นการบ้านข้อใหญ่คือการเค้นฟอร์มในสนาม และต้อง "บิ๊วอารมณ์" ให้ "ซูเปอร์มาริโอ" เข้าใจว่า นี่คือเกมสำคัญ นี่คือเกมแห่งชีวิต ต้องทุ่มเท 120 เปอร์เซ็นต์ เขาจะเหยาะแหยะไม่ได้ ห้ามพลาด ห้ามทำเรื่องน่าอาย และห้ามได้ใบแดง ถ้าไม่นับเรื่องความทุ่มเทที่มีขึ้นมีลงตามอารมณ์ศิลปิน ทุกอย่าง ซัวเรซ เคยก็ทำมาหมดแล้วล่ะ! แต่มันไม่ได้มาเพราะความเกรียน มันมาเพราะ ซัวเรซ ทุ่มเทเกินเหตุ

เสียจอมกัด ได้จอมเกรียน ลิเวอร์พูล เลยยังต้องมีเรื่องปวดหัวต่อไป

ไม่ว่าจะ บาโลเตลลี่ หรือ ซัวเรซ ทุกคนก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ในเมื่อ ร็อดเจอร์ส และบอร์ดบริหารเคยควบคุม ซัวเรซ ได้ ทำไมพวกเขาจะจัดการกับ บาโลเตลลี่ ไม่ได้ เพียงแต่มาตรการที่ต่างออกไปคือ ลิเวอร์พูล ไม่ต้องเลี้ยงดู บาโลเตลลี่ อย่างซูเปอร์สตาร์เหมือนที่ทำกับ ซัวเรซ ทั้งการยกย่องเชิดชูต่างๆ แค่ดูแล บาโลเตลลี่ ให้เหมือนเป็นลูกชายคนสุดท้องไม่อย่างนั้น ไพใบสุดท้าย อาจจะกลายเป็น โจ๊กเกอร์ ที่ทำให้คนถือไพ่รับความซวยเน้นๆ  


เนซึมิ หอยทะเลคุง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook