"วอร์เนอร์ สถิตย์สัมพันธ์" : เด็กไทยวัย 17 ปี กับเส้นทางสู่นักบาสฯ NBA คนแรกในประวัติศาสตร์
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/sp/0/ud/177/886378/j.jpg"วอร์เนอร์ สถิตย์สัมพันธ์" : เด็กไทยวัย 17 ปี กับเส้นทางสู่นักบาสฯ NBA คนแรกในประวัติศาสตร์

    "วอร์เนอร์ สถิตย์สัมพันธ์" : เด็กไทยวัย 17 ปี กับเส้นทางสู่นักบาสฯ NBA คนแรกในประวัติศาสตร์

    2019-05-16T10:57:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    บาสเกตบอลคือหนึ่งในกีฬายอดนิยมของคนไทย เราพบเจอเด็กรุ่นเยาว์ไปจนถึงคนหนุ่มสูงวัยเล่นบาสอยู่ทุกหนทุกแห่ง ขณะที่ NBA ถือเป็นอีกหนึ่งลีกกีฬา ที่มีแฟนชาวไทยติดตามกันอย่างล้มหลาม

    แต่การจินตนาการภาพที่จะเห็นนักบาสชาวไทย ไปโชว์ลีลาในการแข่งขัน NBA ที่สหรัฐอเมริกา อาจดูเป็นเรื่องที่ไกลเกินจริง แม้เด็กไทยหลายคนที่หลงรักกีฬาชนิดนี้ อาจมองสิ่งนี้เป็นความฝันสูงสุดก็ตาม

    แต่สิ่งที่คนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ อาจกลายเป็นจริงในอนาคตไม่กี่ปีข้างหน้า เพราะมีหนุ่มไทยคนหนึ่ง ที่กำลังไล่ล่าความฝันของตัวเอง คือการเป็นผู้เล่นชาวไทยคนแรก ที่ได้ลงเล่นในลีกบาส ที่โด่งดังที่สุดในโลก

     

    ไท วอร์เนอร์ สถิตย์สัมพันธ์ เด็กหนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน จากจังหวัดอุดรธานี คือชายผู้ที่ขออาสาพาความฝันและความหวังของนักบาสไทยให้เกิดขึ้นจริง ในฐานะนักบาสเลือดสยามที่ต้องการจะไปยืนอยู่ในเวทีเดียวกับนักบาสระดับตำนานทั้ง ไมเคิล จอร์แดน, เมจิก จอห์นสัน, เลบรอน เจมส์ และสตีเฟน เคอร์รี่

    ไปพบกับเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่ติดทีมชาติไทยตั้งแต่อายุแค่ 17 ปี และเป็นแชมป์ระดับรัฐที่ประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยวัยเพียง 15 ปี และเขาจะทำอย่างไรเพื่อพาเกียรติยศของคนไทยเข้าสู่เวที NBA ติดตามเรื่องราวของ ไท วอร์เนอร์ สถิตย์สัมพันธ์ ไปพร้อมกับเรา

    เส้นทางที่เริ่มต้นด้วยขวากหนาม

    ไท วอร์เนอร์ มีคุณพ่อเป็นชาวสหรัฐอเมริกา และมีคุณแม่เป็นชาวไทย หลังทั้งคู่พบรักกันที่เมืองสุดโรแมนติค ซาน ฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย 

    ถึงแม้ พ่อและแม่ของ ไท วอร์เนอร์ จะพบรักกันที่อเมริกา แต่บ้านเกิดของหนุ่มน้อยรายนี้ คือ ดินแดนสยาม ที่จังหวัดอุดรธานี รวมถึงใช้ชีวิตและเติบโตขึ้นมาจากที่นี่

    ด้วยสภาพแวดล้อมในขณะนั้น ไม่เอื้อให้เขาได้คิดฝันอยากเป็นอาชีพนักกีฬามากนัก ครอบครัวของ ไท วอร์เนอร์ สนับสนุนให้เขามุ่งมั่นกับการเรียนเสียมากกว่า ซึ่งไทก็ทำได้ดี ตามที่ครอบครัวหวังไว้ เพราะเขาสามารถสอบเทียบเข้าเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษา ตั้งแต่อายุเพียง 9 ขวบเท่านั้น

     1

    แต่ทุกสิ่งอย่างเปลี่ยนไป เมื่อเด็กชายไท วอร์เนอร์ อายุ 10 ขวบ เขาต้องย้ายไปใช้ชีวิตที่ประเทศสหรัฐฯ ณ เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน และที่นั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเขากับการเป็นนักกีฬาอย่างเต็มตัว

    “พอย้ายมาที่สหรัฐอเมริกา ทางครอบครัวก็สนับสนุนให้เล่นกีฬาครับ โดยกีฬาชนิดแรกที่ผมเริ่มเล่นคืออเมริกันฟุตบอลครับ ตำแหน่งที่ผมเล่นก็คือรันนิงแบ็ค (Running Back) และไลน์แบ็คเกอร์ (Linebacker)” 

    “แต่ว่าเล่นไปได้ไม่นาน ก็ไม่ได้เล่นต่อครับ เพราะอเมริกันฟุตบอลเป็นกีฬาที่ใช้ร่ายกาย มีการปะทะที่รุนแรง คุณแม่กลัวว่าผมจะได้รับบาดเจ็บเป็นอันตราย อยากให้เปลี่ยนไปเล่นกีฬาอื่นแทน”

    เส้นทางของไท วอร์เนอร์ กับกีฬายอดนิยมของชาวอเมริกา อาจสิ้นสุดเร็วกว่าที่คาดคิด แต่การสิ้นสุดของสิ่งหนึ่ง ได้นำไปสู่จุดเริ่มต้นกับอีกสิ่งหนึ่ง เมื่อ ไท ได้เปลี่ยนไปเล่นกีฬาอีกประเภท ที่ทำให้เขาตกหลุมรักเข้าอย่างจัง 

    “ผมเปลี่ยนไปเล่นบาสเก็ตบอลแทนครับ ซึ่งทันทีที่เริ่มเล่นสำหรับผมมันคือกีฬาที่สนุกมากๆ เพราะได้ใช้ทักษะทางร่างกายและความคิด ผสมผสานกัน”

     2

    “นี่คือสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขครับ เวลาที่ผมได้อยู่กับลูกบาสมันสนุกมาก ผมรู้ตัวเองทันทีเลยครับ ว่าความฝันของตัวเองคืออะไร”

    “เป้าหมายของผมคือการเป็นนักบาส ที่ได้เล่นในลีก NBA” ไท วอร์เนอร์ กล่าว

    เส้นทางสู่ความฝันของไท วอร์เนอร์ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แม้เขาตั้งใจฝึกซ้อม และเมื่ออายุ 13 ปี เขาได้รับโอกาสให้คัดตัวเป็นนักบาสของโรงเรียน แต่เขากลับไม่ผ่านการคัดตัวเป็นนักบาสของโรงเรียน 

    ทั้งที่ในวันนั้นทีมโรงเรียนเปิดรับผู้เล่นถึง 30 คน แต่สุดท้ายกลับเลือกรับเพียง 29 คน ส่วนไท วอร์เนอร์ ถูกตัดชื่อออก โดยที่ยังมีเหลือที่ว่างในทีมด้วยซ้ำ

    10 ชั่วโมง(ต่อวัน)... เพื่อความฝัน

    ถึงจะเริ่มต้นด้วยความผิดหวัง แต่ความล้มเหลวไม่เคยทำให้ ไท วอร์เนอร์ คิดถึงคำว่ายอมแพ้ ในทางกลับกันมันทำให้หนุ่มน้อยรายนี้รู้ตัวว่า สิ่งที่เขาต้องทำอย่างไรที่จะประสบความสำเร็จในเส้นทางนี้

    “ผมเป็นคนที่ชอบการแข่งขัน และอยากเป็นที่หนึ่งมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ ไม่ว่าผมจะทำอะไร ผมจะทำให้เต็มที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน หรือตอนที่เปลี่ยนมาเล่นกีฬา ผมต้องการที่จะเป็นผู้ชนะให้ได้”

    “การไม่ติดทีมโรงเรียนในตอนนั้นเป็นเรื่องที่ดีครับ มันทำให้ผมมีแรงกระตุ้นเยอะมากกับการฝึกซ้อม เพราะความฝันของผมคือการเป็นนักบาส NBA ผมอยากจะไปให้ถึงจุดนั้น ผมต้องการเอาชนะคนอื่น และผมต้องการเอาชนะตัวเอง”

    “ผมรู้ตัวว่าผมไม่คิดจะหยุดเส้นทางการเป็นนักบาส ไว้แค่การไม่ติดทีมโรงเรียน ดังนั้นผมต้องซ้อมให้หนักขึ้น”

    คำว่า “ซ้อมให้หนักขึ้น” ของไท วอร์เนอร์ ไม่ได้เป็นคำพูดสวยหรูเพื่อพูดให้ตัวเองดูดีเท่านั้น แต่เขาฝึกซ้อมอย่างหนักวันละ 10 ชั่วโมง ในช่วงเวลาตั้งแต่ 10.00 น. ไปจนถึง 22.00 น. ในทุกวัน เพื่อทำให้ความฝันของเขาเป็นจริง

     3

    “ผมเริ่มต้นฝึกในแต่ละวัน ด้วยการฝึกชู้ตที่บ้านครับ วันละ 500 ครั้ง หลังจากนั้นจะออกไปเล่นบาสแถวบ้านกับกลุ่มผู้ใหญ่ จะเป็นลีกสมัครเล่นที่แข่งขันกันอยู่”

    “หลังจากนั้นผมจะออกไปฝึกซ้อมร่างกาย ยกเวทอะไรพวกนี้อีกหนึ่งชั่วโมง แล้วช่วงเย็นก็ออกไปเล่นบาสอีกรอบครับ กลับมาตกดึกก็จะปิดท้ายด้วยการยกเวทเฉพาะส่วน เน้นไปที่กล้ามแขนโดยเฉพาะ”

    ความทุ่มเทเพื่อความฝันของไท วอร์เนอร์ ไม่เสียเปล่า จากที่เคยไปติดทีมของโรงเรียนในปีที่แล้ว เขาสามารถกระโดดก้าวขั้นไปเป็นผู้เล่นตัวแทนของรัฐออริกอน ในชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปีในทันที

    นอกจากการฝึกซ้อมอย่างหนักแล้ว การรับชมเกมการแข่งขันบาส ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน กับการหาแรงบันดาลใจ รวมถึงเรียนรู้ทริคการเล่นจากผู้เล่นระดับโลก 

    หากมีโอกาส ไท วอร์เนอร์ มักเข้าไปดูเกมการแข่งขันของทีม พอร์ตแลนด์ เทรล แบลซเซอร์ (Portland Trail Blazers) ทีมบาส NBA ประจำรัฐออริกอนอยู่เสมอ

     4

    “ผมชอบดูนักบาส NBA เพื่อใช้พวกเขาเป็นแรงผลักดันให้ตัวเองครับ ผมไม่ได้มีนักบาสคนไหนเป็นไอดอล ไม่ได้อยากจะเป็นเหมือนผู้เล่นคนนี้หรือคนนั้น สิ่งเดียวที่ผมคิดคือ ผมอยากจะเก่งกว่านักบาสที่ผมเคยนั่งดูพวกเขาเล่น”

    “การได้ดูนักบาสเก่งๆใน NBA เป็นเรื่องดีสำหรับผม ทุกครั้งที่เห็นพวกเขาเล่น ผมอยากจะเก่งมากกว่านักบาสเหล่านั้นให้ได้ มันทำให้ผมอยากไปซ้อม เพื่อที่สักวันผมจะก้าวข้ามผู้เล่นเหล่านี้ให้ได้”

    ด้วยการฝึกฝนทั้งสภาพร่างกายและทัศนคติที่ยอดเยี่ยม ทำให้เส้นทางการเป็นนักบาสของไท วอร์เนอร์ ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง เขาก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นของทีมโรงเรียนเจฟเฟอร์สัน (Jefferson High School) ในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน 

    โดยเฉลี่ยผู้เล่นคนอื่นๆในทีม อายุอยู่ที่ 17-18 ปี แต่ไท วอร์เนอร์ กลับติดทีม ด้วยวัยแค่ 15 ปีเท่านั้น ซึ่งเจ้าหนุ่มลูกครึ่งไทยผู้นี้แสดงให้เห็นว่า อายุไม่ใช่สิ่งที่จะมาวัดความสามารถในตัวเขา เพราะไท วอร์เนอร์ ทำแต้มเฉลี่ยต่อเกมได้มาถึง 30 คะแนน ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ประจำรัฐออริกอน ได้ตั้งแต่ปีแรกที่ร่วมทีม

    “ผมรู้สึกภูมิใจกับตัวเองมากครับ แค่ตอนแรกที่ติดทีมไฮสคูลรุ่นอายุ 18 ปี ตอนอายุ 15 ก็ถือว่าภูมิใจมากแล้วครับ พอได้แชมป์ของรัฐผมยิ่งดีใจมากขึ้นไปอีก”

    นอกจากนี้ ไท วอร์เนอร์ ยังได้รับการคัดเลือกจากรัฐออริกอน ให้เป็นตัวแทนของรัฐ เล่นทีมออลสตาร์ รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ซึ่งจับมือกับรัฐวอชิงตัน ในการสร้างทีมบาสทีมนี้ขึ้นมา โดยจะมีเด็กเพียงแค่ 10 คนจากสองรัฐเท่านั้น ที่ได้รับเลือกให้ติดทีม และหนึ่งในนั้นคือหนุ่งลูกครึ่งแฮมเบอร์เกอร์พันธ์ุข้าวเหนียวรายนี้

     5

    ทีมชาติชุดใหญ่ ในวัย 17

    ด้วยแค่ 17 ปี การประสบความสำเร็จเป็นทั้งแชมป์ประจำรัฐ และเป็นตัวแทนของรัฐในการแข่งขันระดับประเทศ ถือว่าประสบความสำเร็จมากแล้ว สำหรับชีวิตนักบาสสายเลือดไทยคนหนึ่ง 

    แต่ความสำเร็จที่อาจเรียกได้ว่าเป็นความฝันของนักกีฬาหลายคน ได้เกิดขึ้นกับเด็กหนุ่มวัย 17 ปี โดยไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อเขาถูกเรียกให้ติดทีมชาติไทย ในฐานะนักบาสเกตบอลของทีมชุดใหญ่ ทั้งที่อายุยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยด้วยซ้ำ

    “ปกติคุณแม่จะอัพโหลดคลิปการแข่งขันของผมลงทางโซเชียล เน็ตเวิร์ค ครับ แล้วบังเอิญว่า พี่บอย ปิยพงศ์ พิรุณ โค้ชทีมชาติไทย ได้เห็นคลิปของผม เขาก็สนใจอยากให้ผมมาเล่นทีมชาติไทย พี่เขาเลยติดต่อมาว่าผมอยากเล่นให้กับทีมชาติไทยไหม?”

    “แน่นอนครับ ผมไม่มีทางปฏิเสธ การเป็นนักบาสให้ทีมชาติไทย เป็นหนึ่งในความฝันของผมมาโดยตลอด ผมรู้สึกยินดีเสมอ ที่ได้ลงเล่นในนามทีมชาติไทย จริงๆผมรู้สึกดีใจและภูมิใจมาก ถือเป็นเกียรติที่ได้กลับมาประเทศไทยอีกครั้ง ได้กลับมารับใช้ชาติ ในฐานะนักบาสของทีมชาติไทย” 

     6

    ทัวร์นาเมนต์แรกที่ ไท วอร์เนอร์ ได้ลงประเดิมให้กับทีมชาติไทย คือการแข่งขัน ฟีบา เอเชียน คัพ (FIBA Asian Cup) รอบคัดเลือกโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อคัดเลือกหา 16 ทีมสุดท้ายที่จะเข้าไปชิงชัยในรายการบาสระดับชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย

    ด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปี ทำให้หลายคนอาจตั้งข้อสงสัยในความสามารถของไท วอร์เนอร์ แต่เพียงแค่เกมแรกในนามทีมชาติไทย หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน สามารถระเบิดฟอร์ม ทำแต้มได้ถึง 25 แต้ม ในเกมที่ทีมชาติไทยชนะทีมชาติบรูไน เป็นผู้เล่นที่ทำแต้มได้มากที่สุดในเกมนั้น

    แม้ไท วอร์เนอร์ จะเป็นหนึ่งในกำลังหลักของทัพบาสทีมชาติไทย แต่ความพ่ายแพ้ต่อทีมชาติอินโดนีเซีย เพียงหนึ่งคะแนน ก็ส่งผลให้ ทีมชาติไทย จบการแข่งขันด้วยตำแหน่งรองแชมป์กลุ่ม สร้างความปวดใจให้หนุ่มน้อยผู้นี้ไม่น้อย เพราะเขาต้องการจะพิสูจน์ให้เห็นว่า ทีมชาติไทย คือหนึ่งชาติที่เก่งกาจในกีฬาบาสเกตบอล

    “ผมไม่ชอบความพ่ายแพ้ครับ จะบอกว่าผมเกลียดมันก็ได้ ที่สำคัญผมเชื่อว่านักบาสไทยสามารถเก่งได้ไม่แพ้ชาติใดในโลกครับ”

    “ผมเชื่อว่าโดยพื้นฐานแล้ว นักบาสไทยไม่ได้เป็นรองประเทศอื่นเลย ถ้านักบาสไทยได้รับการฝึกฝนที่ดี เหมือนที่ผมได้รับตอนอยู่ที่อเมริกา ทีมบาสไทยสู้ได้ทุกประเทศแน่นอน”

     7

    “ในความคิดผม ผมอยากให้นักบาสไทยพัฒนาเรื่องทักษะเฉพาะตัวมากกว่านี้ครับ รวมถึงเรื่องการเสริมสร้างร่างกาย เพื่อให้แข็งแกร่งกับการปะทะ ผมเองก็จะพยายามเรียนรู้และพัฒนาตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อนำสิ่งที่ผมมีมาช่วยพัฒนาทีมบาสไทยในอนาคตครับ”

    สู้เพื่อดินแดนบ้านเกิด

    การเป็นทั้งแชมป์และผู้เล่นทีมชาติด้วยวัยแค่ 17 ปี ของไท วอร์เนอร์ สถิตย์สัมพันธ์ ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยหรือพรสวรรค์แต่อย่างใด แต่มาจากการฝึกซ้อมอย่างหนักตลอด 5 ปีที่ผ่านมา 

    พร้อมกับทัศนคติในการพัฒนาตัวเองที่ยอดเยี่ยม อันเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ เพื่อจะเป็นนักบาสชั้นนำของวงการ

    “ผมพยายามเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด เวลาเจอคนเก่งๆ ผมจะเข้าไปคุยกับเขา เพื่อขอเคล็ดลับมาพัฒนาตัวเอง สิ่งหนึ่งที่ผมมองว่าตัวเองเก่งขึ้นได้เร็วขนาดนี้ เพราะผมกล้าที่จะพูด กล้าที่จะออกความเห็น แลกเปลี่ยนกับโค้ช และผู้เล่นคนอื่น เอาจริงเอาจังตลอดการฝึกซ้อม จุดนี้ช่วยได้มากครับ”

     8

    “ที่สำคัญผมไม่เคยท้อใจเวลาตัวเองแพ้ เพราะการแพ้คือเรื่องธรรมชาติของนักกีฬา คุณต้องเอาความพ่ายแพ้ตรงนั้นมาพัฒนาตัวเองต่อไป”

    “ผมสนุกกับการเล่นบาสในทุกครั้ง แม้ในวันที่แพ้ผมก็ยังสนุก ผมคิดว่าที่ผมมาถึงวันนี้ได้ เพราะผมสนุกกับมัน ถ้าไม่สนุก ผมก็ไม่รู้ว่าจะเล่นบาสไปเพื่ออะไร”

    อาจจะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว แต่ไท วอร์เนอร์ ไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาตัวเอง หลายครั้งที่เขาต้องเจ็บปวดจากการฝึกซ้อมที่หนักหน่วง โดยเฉพาะการสร้างความแข็งแกร่งทางร่างกาย เพราะเจ้าตัวถูกหลายคนมองว่าเป็นจุดอ่อน เนื่องจากมีความสูงเพียง 183 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าตัวเล็กในวงการบาสอเมริกา

    วอร์เนอร์ ยึดมั่นในคติที่ว่า No Pain No Gain (ไม่เจ็บปวด ไม่เรียนรู้) เขายอมเจ็บปวดกับการฝึกหนัก หากมันช่วยให้เขาสามารถพัฒนาตัวเองกลายเป็นนักบาสที่ยอดเยี่ยมขึ้น เพราะความฝันของเขาคือการไปอยู่บนจุดยอดสุดของวงการบาสเกตบอล ในฐานะนักบาสของ NBA

    “เป้าหมายต่อไปของผมคือการเข้าไปเป็นผู้เล่นของมหาวิทยาลัย เพื่อเข้าสู่ลีก NCAA ลีกกีฬาระดับมหาวิทยาลัยของบาสเกตบอลให้ได้ เพื่อก้าวไปสู่การเป็นผู้เล่น NBA ต่อไป”

    อาจเป็นเรื่องที่เร็วเกินไป หากจะตัดสินว่าหนุ่มลูกครึ่งรายนี้ จะสามารถก้าวขึ้นเป็นนักบาสในลีกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการนี้ได้หรือไม่?

     9

    แต่สิ่งที่ไท วอร์เนอร์ สามารถให้คำตอบกับเราได้ คือ ทุกอย่างที่เขาทำอย่างเต็มที่ เขาไม่ได้ทำเพื่อความฝันของตัวเองเพียงคนเดียว แต่เขาทำเพื่อคนกว่าอีก 60 ล้านคน ที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินบ้านเกิดของเขา แม้จะอยู่ห่างกันคนละซีกโลก

    “ผมต้องการเข้าไปเล่นใน NBA ในฐานะคนไทยคนแรก ผมต้องการแสดงให้ทั่วโลกได้เห็นว่า คนไทยก็เล่นบาสได้เก่งไม่แพ้ประเทศอื่น”

    “ผมอยากจะเป็นเเรงบันดาลใจ ให้เด็กหรือคนรุ่นถัดไป หากเรื่องราวของผม สามารถทำให้คนไทยอยากประสบความสำเร็จ หรือเล่นบาสให้เก่งเหมือนผม ผมก็จะรู้สึกภูมิใจมากๆครับ”

    อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

    อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ "วอร์เนอร์ สถิตย์สัมพันธ์" : เด็กไทยวัย 17 ปี กับเส้นทางสู่นักบาสฯ NBA คนแรกในประวัติศาสตร์