บอลลีกอาชีพฉลุย กกท.เทงบ 70 ล้าน

ให้การสนับสนุนทั้งระบบ จ.ปัตตานี ปลื้มได้แข่ง ด.2

บังยีนายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยบิ๊กเปี๊ยกนายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฯ เข้าประชุมร่วมกับ บิ๊กหนุ่ม นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่ กกท. หัวหมาก เพื่อหารือเรื่องการจัดฟุตบอลลีก อาชีพ ของไทย ซึ่งการประชุมใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็เรียบร้อย โดย บังยี เปิดเผยว่า ทาง กกท. ได้จัดงบประมาณ 70,000,000 บาท เพื่อสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลอาชีพในปี 2552 เรียบร้อยแล้ว และมีการจัดงบประมาณในแต่ละส่วนไว้อย่างชัดเจน แบ่งเป็น ฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก และ ดิวิชั่น 1 ได้งบประมาณ 55,000,000 บาท ที่เหลือจะแบ่งไว้ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลลีก ภูมิภาค ดิวิชั่น 2, ฟุตซอลลีก (ชาย-หญิง) และฟุตบอลไทยวีเมน พรีเมียร์ลีก ซึ่งสมาคมฟุตบอลฯ และ กกท. จะมีการเซ็นบันทึกช่วยจำ (MOU) ในวันที่ 19 ก.พ. เวลา 13.30 น.

นายกสมาคมลูกหนังไทย กล่าวต่อไปว่า เงินรางวัลในการแข่งขันฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก จะมี 10,000,000 บาท และ ดิวิชั่น 1 รับเงิน 700,000 บาท โดย กกท.ได้ตกลงกับ สมาคมฟุตบอลฯ ว่า จะให้การสนับสนุนเรื่องงบประมาณ, เงินรางวัล และเงินบำรุงทีม ไปอีก 3-4 ปี จากนั้นจะเลิกให้การสนับสนุน เพราะถือว่าฟุตบอลอาชีพของไทยยืนด้วยตัวเองได้แล้ว ซึ่งเท่าที่มีการประเมินสถานการณ์ตอนนี้ ต้อง บอกว่า เสียงตอบรับจากสโมสรต่าง ๆ, ผู้ชม และคนในต่างจังหวัด รวมทั้งสปอนเซอร์ให้ความสนใจฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก, ดิวิชั่น 1 และลีก ภูมิภาค ดิวิชั่น 2 กันมาก เชื่อว่าการแข่งขันต่อจากนี้จะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน เพราะนี่คือการรวมลีกฟุตบอลอาชีพอย่างแท้จริง มีการจัดการที่เป็นระบบตามมาตรฐานสากลอย่างที่ทุกคนต้องการ ส่วนเรื่องที่ กกท. อยากจะให้นำ ผอ.ศูนย์ กกท. แต่ละจังหวัดมาเป็นคนประสานงานในการส่งทีมเข้าแข่งขันนั้น ก็ไม่มีปัญหา สมาคมฯ เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ซึ่งรายชื่อของคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก-ดิวิชั่น 1 และฟุตบอลลีก ภูมิภาค ดิวิชั่น 2 จะมีการนำชื่อคนของ กกท. เข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย

ผมสบายใจมากที่ทุกฝ่ายให้การสนับสนุนฟุตบอลอาชีพของไทยอย่างเต็มที่ นี่ถือเป็น นิตหมายที่ดี ที่ฟุตบอลอาชีพของไทยจะถูกจัดให้เป็นระบบ ไม่มีการจัดลีกครั้งไหน จะสมบูรณ์เท่ากับครั้งนี้อีกแล้ว อย่างฟุตบอลลีก ภูมิภาค ดิวิชั่น 2 แต่ละทีมก็ได้เงินสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเริ่มที่จะวางรากฐานให้เป็นระบบสากล มีการจดทะเบียนสโมสรแบบที่ เอเอฟซี กำหนด ส่วน ไทยพรีเมียร์ลีก และดิวิชั่น 1 ก็เป็นระบบอาชีพแบบเต็มตัว ผมประเมินดูแล้ว ฟุตบอลอาชีพของไทยกำลังจะไปได้สวย อีก 3-4 ปีข้างหน้า จะได้เห็นการพัฒนาที่มากขึ้นแน่ และถึงตอนนั้นอาจจะไม่ต้องพึ่งเงินของรัฐก็เป็นได้ เพราะผมมั่นใจว่าแต่ละสโมสรจะค่อย ๆ สร้างทีมจนเลี้ยงตัวเองได้ โดยให้รัฐไปช่วยเหลือในด้านอื่น ๆ จะเหมาะสมกว่า นายวรวีร์ กล่าว ปัตตานี ปลื้มใจได้แข่งบอลอาชีพ

นางเสาวลักษณ์ แหละบัง ประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่ศาลากลางจังหวัดปัตตานี นายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมในการที่จังหวัดปัตตานีส่งทีมฟุตบอลเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ฤดูกาล 2552 โดยมีผู้บริหารทั้งของจังหวัดปัตตานี และจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เข้าร่วม อาทิ นายพิศาล ทองเลิศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี, นายวิมล กาญจนะ อุปนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย, นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี, นายประทีป พุทธกูล ผอ.ศูนย์ กกท. จังหวัดปัตตานี และที่เกี่ยวข้อง

สำหรับสาระสำคัญการประชุม นายวิมล กล่าวต่อที่ประชุมว่า สมาคมฟุตบอลฯ โดย นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคม ได้กำหนดยุทธศาสตร์ใช้กีฬาฟุตบอลอาชีพลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 เป็นสื่อในการสร้างสันติสุขให้แก่พี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยจะต้องมีการประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ประชาชนได้ทราบ เพราะฟุตบอลรายการนี้คือบันไดก้าวไปสู่ระดับอาชีพอย่างเต็มตัว

นางเสาวลักษณ์ กล่าวต่อไปว่า จังหวัดปัตตานีมีความพร้อมจัดกีฬาใหญ่ ๆ มานานแล้ว วันนี้ต้องขอขอบคุณท่านนายกสมาคมฟุตบอล คุณวรวีร์ และ คุณวิมล ที่เปิดโอกาสให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีโอกาสเข้าแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะฟุตบอลรายการนี้จะช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่คนในจังหวัดอีกมาก เป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่สำคัญทำให้เยาวชนใน 3 จังหวัดหันมาสนใจกีฬา แทนที่จะไปหมกมุ่นในเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่ดี นอกจากนั้นยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ โดยปัตตานีจะร่วมกับ นราธิวาส และ ยะลา ทำประชาสัมพันธ์ให้เพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย, อินโดนีเซีย และโลกมุสลิม หรือ อิสลาม เวิลด์ ได้ทราบว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความปลอดภัยที่จะจัดกีฬาใหญ่ ๆ ได้ ต่อไปอาจจะเชิญทีมฟุตบอลเยาวชนมาเลเซีย หรืออินโดนีเซีย มาแข่งขันกับทีมเยาวชน 3 จังหวัด ถือเป็นการทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งเป็น 1 ในแผนการประชาสัมพันธ์สร้างความมั่นใจให้คนมาเที่ยวปัตตานีกันเยอะ ๆ มาเยือนวัฒนธรรมของเรา ที่มีทั้ง ไทยมุสลิม-ไทยพุทธ-ไทยเชื้อสายจีน อยู่ร่วมกัน เพราะในปี 2552 นี้ เป็นการครบรอบการก่อตั้งจังหวัดปัตตานีด้วย

ดิฉันมีแผนจะทำประชาสัมพันธ์ให้ยิ่งใหญ่ โดยปัตตานีจะร่วมกับ นราธิวาส และยะลา ว่า 3 จังหวัดมีความพร้อมเต็มที่ โดยเราเตรียมทำหนังสือเสนอถึงรัฐบาลให้ร่วมสนับสนุนในการใช้กีฬาสร้างสันติสุข เนื่องจากเยาวชนทั้ง 3 จังหวัดชอบกีฬามาก เวลาจัดแข่งขันมีคนเข้ามาชมเยอะเต็มสนามทุกครั้ง และทุกครั้งที่ปัตตานีจัดกีฬาก็ไม่เคยเกิดเหตุรุนแรง ขอให้ประชาชน 3 จังหวัดให้ความร่วมมือด้วย ในส่วนของปัตตานี มีความพร้อมทั้งเรื่องทีม สนาม ที่ได้รับการสนับสนุนจาก อบจ. และการรักษาความปลอดภัยทั้งจากทหารและตำรวจ พวกเราดีใจที่สมาคมฟุตบอลฯ จากส่วนกลางเห็นความสำคัญในการส่งเสริมกีฬา ดิฉันมั่นใจว่าฟุตบอลรายการนี้ประสบความสำเร็จแน่ นางเสาวลักษณ์กล่าว.