เล่าผ่านแฟนพันธุ์แท้ NBA : จากแชคถึงฮาร์เด้น วิวัฒนาการ "ท่าไม้ตาย" แห่งยุคมิลเลนเนียม

เล่าผ่านแฟนพันธุ์แท้ NBA : จากแชคถึงฮาร์เด้น วิวัฒนาการ "ท่าไม้ตาย" แห่งยุคมิลเลนเนียม

เล่าผ่านแฟนพันธุ์แท้ NBA : จากแชคถึงฮาร์เด้น วิวัฒนาการ "ท่าไม้ตาย" แห่งยุคมิลเลนเนียม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่ได้เคยพูดถึงเรื่องราวของเพลย์ธรรมดาที่ถูกเปลี่ยนเป็นท่าไม้ตายใน NBA ยุค '80 และ '90 มาแล้ว วัชรินทร์​ จัตุชัย แฟนพันธุ์แท้ NBA ประเทศไทย พาคุณไปรู้จักโลกบาสเก็ตบอลในยุค มิลเลเนียม ว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และท่าไม้ตายของใครบ้างที่ทรงประสิทธิภาพที่แม้แต่คู่แข่งก็ต้องยอมรับว่า “หยุดไม่ได้”

จากท่าที่ใช้เพื่อเอาตัวรอด กลายเป็นท่าประจํา และกลายเป็นสัญลักษณ์ของนักบาสคนนั้นหรือเรียกกันสั้นๆ ว่า “ท่าไม้ตาย” จากในยุค 80’ 90’ ของยอดนักบาสหลายต่อหลายคนทั้ง สกายฮุค ของ คารีม อับดุล จาบาร์ , ดับเบิ้ลคลัทช์ และ เฟดอเวย์ ของ ไมเคิล จอร์แดน, ดรีมเชค ของ ฮาคีม โอลาจูวอน รวมถึงคนอื่นๆ อีกมากมาย

 

กาลเวลาหมุนผ่านจนมาถึงยุคมิลเลเนี่ยม หรือยุค 2000 ซึ่งเป็นยุคใหม่ ในยุคนี้การเล่นบาสจะค่อยๆ เปลี่ยนไปจากยุคก่อนที่จะเน้นเกมส์รับ และเน้นการเล่นเซทเพลย์ หรือเล่นในรูปแบบรัดกุม ยุคนี้ วิธีการเล่นจะค่อยๆ เริ่มเน้นเกมรุก เกมเอ็นเตอร์เทนมากขึ้น แต่แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่ยังไม่เปลี่ยนไปคือ ซิกเนเจอร์ของผู้เล่น หรือที่เราเรียกกันว่าท่าไม้ตาย ที่นับวันจะยิ่งฉูดฉาดขึ้นเรื่อยๆ และนี่คือเส้นทางท่าไม้ตายแห่งยุค "นิว สคูล"

บิ๊กแมน

ในช่วงต้นยุคมิลเลเนี่ยม ยังคงเป็นยุคของบิ๊กแมนหรือผู้เล่นตัวใหญ่ และในยุคช่วงต้นนั้นทีมที่ครองความยิ่งใหญ่มากที่สุดก็คือ แอลเอ เลเกอร์ส ที่นําโดย 2 คู่หู แชค-โคบี้ โดยเฉพาะ แชค นั้นการที่จะหยุดชายที่สูง 7 ฟุต 1 นิ้วแถมหนักราวๆ 300 ปอนด์นั้นเป็นเรื่องยากสุดๆ ถ้าบอกว่าดรีมเชคของฮาคีมเป็นท่าไม้ตายที่พริ้ว หรือเฟดอเวย์ของจอร์แดนเป็นท่าที่เนียนตา แต่ท่าไม้ตาย “ดรอปสเต็ป” ของแชคนั้นจะตรงกันข้ามทุกอย่าง เพราะมันเป็นท่าที่รุนแรง พลังทําลายล้างสูง และเป็นท่าไม้ตายที่แม้กระทั่งโค้ชดอน เนลสันบอกว่า “มันไร้พ่าย” 

“ดรอปสเต็ป” และ "โพสต์มูฟ" ของ แชคคิล โอนีล ยักษ์ใหญ่แห่งเลเกอร์สนั้น เป็นท่าที่แชคจะโพสเพลย์ห่างจากห่วงไม่มากนักในบริเวณมุมประมาณ 45 องศา และเมื่อเขารับบอลจากการ์ดในทีม สิ่งที่แชคจะทําก็คือ เขาก็จะดันๆ เข็นๆ เข้ามาจนได้ระยะ แล้วก็จะพลิก โดยเทนํ้าหนักและอาศัยรูปร่างที่ใหญ่ และก็จะเข้าทําคะแนนโดยการดังค์ วางบอลทับ แม้กระทั่งฮุคใส่เซนเตอร์ที่เข้ามากัน และหากเข้าจังหวะนี้ได้เมื่อไหร่ก็ได้เรื่องเมื่อนั้น

 1

ถึงกับมีคํากล่าวที่ว่า ถ้าแชคได้บอลในระยะนี้แล้วกรรมการสนามไม่กดแต้มให้แชค ก็จะกดแต้มให้ลูกโทษที่แชคได้ฟาล์ว ด้วย "ดรอปสเต็ป" ท่านี้ทําให้แชคนั้นแทบจะเป็นเซนเตอร์ไร้พ่ายในยุคสมัยของเขาเลยที่เดียว เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะท่านี้ต้องอาศัยความไวและความแข็งแกร่งมากๆ และแชคก็เป็นเซนเตอร์คนเดียวในยุคนั้นที่สามารถทําแบบนี้ได้

“เราประสบปัญหาอย่างมากในการกันเขา (แชค) บริเวณใต้แป้น ในทุกครั้งที่เขาได้บอลมาอยู่ในมือแล้ว ทางเดียวที่เราจะปิดเขาได้คือฟาล์ว ทําฟาล์วเขาเท่านั้น” ฟิล แจ็คสัน กล่าวในสมัยที่เขายังคุม ชิคาโก้ บูลส์ “และนั่นทําให้ผมต้องหาบิ๊กแมน 2-3 คนสับมาประกบเขาโดยเฉพาะในรอบเพลย์ออฟ” ฟิลกล่าวถึงการเอาผู้เล่นตัวใหญ่สับกันมาประกบ เพื่อหาทางหยุดแชคในรอบเพลย์ออฟที่ ชิคาโก้ บูลส์ เจอกับ เลเกอร์ส ปี 1996 แต่แม้แชคจะเริ่มใช้งาน ดรอปสเต็ปในปลายยุค 90’ แต่ท่าไม้ตายนี้มาทรงพลังและพีคที่สุดในยุค 2000 ซึ่งคนที่ได้ประโยชน์จากมันที่สุดก็คือ ฟิล แจ็คสัน ที่ในตอนนั้นย้ายมาคุมเลเกอร์สแล้วนั่นเอง

ด้วยท่าดรอปสเต็ปที่และการเคลื่อนไหวของแชคนั้น ทําให้เซนเตอร์ที่ประกบเขาในยุค 2000 ต่างไม่สามารถหาวิธียันมันไว้ได้เลย และนั่นทําให้ ดอน เนลสัน โค้ชของ ดัลลัส แมฟเวอริกส์ นั้นต้องคิดแทคติคขึ้นมาหยุดแชคนั่นคือ “แฮค อะ แชค” ซึ่งจะเป็นการจงใจฟาล์วแชคในสนาม โดยให้ผู้เล่นที่อยู่ใกล้แชคนั้นตีฟาล์ว ทําให้เขาต้องมายิงลูกโทษ ซึ่งแน่นอนว่า การยิงลูกโทษของแชคนั้นห่วยมาก เมื่อเทียบกับเปอร์เซนต์การยิงธรรมดา เปอร์เซนต์การยิงโทษของแชคมันเพียงแค่ 50% เท่านั้น และกลายเป็นยุทธวิธีที่หลายทีมใช้เล่นงานผู้เล่นที่มีลักษณะการเล่นคล้ายกับแชคจนถึงทุกวันนี้ “ถ้าเขาโพสได้เมื่อไรคุณเตรียมกดคะแนนไว้ได้เลย วิธีนี้มันเป็นวิธีเดียวที่จะหยุดเขาได้” เนลสันกล่าว 

 2

เรจจี้ มิลเลอร์ จอมแม่นของ อินเดียน่า เพเซอร์ส ก็ได้กล่าวถึงความทรงจําฝันร้ายของเขาในปี 2000 ซึ่งทีมของเขาต้องเจอแชคในรอบชิงชนะเลิศ NBA และในหลายครั้งเขาต้องเป็นคนตีฟาล์วแชคก็ได้บอกว่า “อย่างที่เขาบอกกันแหละ เราเอาเขาไม่อยู่ ทางเดียวที่จะทําได้คือฟาล์ว และลุ้นให้เขาชู๊ตลูกโทษไม่ลง” ผลก็คือในเกมส์นั้นเพเซอร์สต้องหยุดแชคด้วยการทําฟาล์วเท่านั้น และแชคได้ชู๊ตลูกโทษไปถึง 39 ลูก

และเมื่อแชคที่เป็นบิ๊กแมนหันมาเล่นลูกเล่นที่ตัวเขาถนัด จนทําให้มันเป็นท่าหากินได้ ไม่แปลกที่บิ๊กแมนคนอื่นๆ นั้นจะหันมาทําตามในช่วงถัดมา และ ทิม ดันแคน หรือ "Big Fundamental" ก็เป็นหนึ่งในนั้น

ดันแคนเป็นนักบาสที่ทำทุกๆ อย่างให้มันดูง่าย สไตล์เขาไม่หวือหวา แต่เน้นประสิทธิภาพและเน้นความชัวร์ของการทําคะแนน มันเลยเป็นที่มาของท่าไม้ตายของดันแคนคือ “ลูกเช็ดแป้น”หรือ “Bank Shot”

 3

อันที่จริง ดันแคนมีทักษะที่น่าทึ่งหลายอย่าง ในทุกกีฬาที่เล่น เขามักจะหาวิธีที่ทําให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดเสมอ เขาเคยเป็นนักว่ายนํ้าและเก่งกาจจนถึงระดับเป็นนักว่ายนํ้าแนวหน้าของบ้านเกิด รวมทั้งเมื่อมาเล่นบาสเกตบอล ดันแคนก็มีไอคิวบาสที่ดีมีการรีบาวน์ที่เยี่ยมและการป้องกันที่สุดยอด แต่สําหรับท่าไม้ตายของดันแคนที่เป็นท่าง่ายๆ ที่เรียกว่า “ท่าเช็ดแป้น” ซึ่งเป็นท่าพื้นฐานที่เหล่าเด็กๆ มักเล่นกันในอเมริกา แต่ในความธรรมดานั้นมันไม่ธรรมดาเมื่อมาอยู่กับคนอย่างดันแคน เขาสามารถทำของง่ายแต่ใช้มันได้อย่างมีประสิทธิภาพเหลือเชื่อ

แม้ว่ามันจะทําคะแนนให้ดันแคนได้อย่างดี แต่โค้ช เกร็ก โปโปวิช ของ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส กลับไม่ชอบท่ายิงนี้เท่าไหร่ เหตุผลง่ายๆ คือมันยังไม่เท่พอนั่นเอง

“ผมว่ามันไม่เจ๋งเท่าไรนะ ลูกเช็ดแป้นนี่มันเป็นของโบราณ คนมักจะฝึกยิง 3 คะแนนหรือสเต็ปแบ็คกันมากกว่า เช็ดแป้นมันไม่ใช่เรื่องยากนะ มันง่าย แต่ก็นะผมว่ามันไม่เท่” แม้ว่าโค้ชป๊อปที่เป็นโค้ชคู่ใจของ ดันแคน จะกล่าวแบบนั้น แต่ทุกครั้งที่มีการเซ็ทแผนการเล่นให้ทิมมี่โพสต์บริเวณ 45 องศา แล้วรับบอล โค้ชป๊อปก็มักบอกเสมอว่า ถ้ามีโอกาสก็ใช้ท่าไม้ตายนี้เลย นี่คือนิยามของว่า "ไม่หล่อแต่เก็บเรียบ"

สําหรับลูกเช็ดแป้นนั้น อดีตตํานานของ NBA หลายคนต่างก็เคยใช้ทั้ง จอร์จ เกอร์วิน, จอห์น ฮาวลิเซค, แลร์รี่ เบิร์ด หรือแม้แต่ สก๊อตตี้ พิพเพ่น ของบูลส์ แต่สุดยอดที่สุดย่อมมีแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น ...

สำนักข่าวอย่าง ESPN ยกให้การเช็ดแป้นของดันแคนว่าเป็น “Master of Bank Shot” ซึ่งเรื่องนี้ เจ คราวเดอร์ ที่ปัจจุบันเล่นให้กับยูทาห์แจ๊สก็ได้บอกว่า “คุณอาจเห็นสิ่งที่ทิมทํามันดูง่ายเอามากๆ แต่มันไม่ได้เจอบ่อยมากในยุคนี้นะ ท่านี้มันมีประสิทธิภาพมาก แต่หลายคนไม่ค่อยใช้ลูกเช็ดแป้นแบบนี้เท่าไร มันอาจเพราะคนไม่ค่อยชอบมัน แต่มันมีประสิทธิภาพมากจริงๆ นะ มันสามารถทําคะแนนได้ง่ายๆ และทิมทํามันได้ทุกครั้ง แถมยังทํามันได้อย่างยอดเยี่ยม” คราวเดอร์กล่าวถึงดันแคนที่จะใช้ลูกเช็ดแป้นเอาคะแนนแบบชัวร์ๆ ทุกครั้งที่ต้องการ

 4

แต่สําหรับโค้ชป๊อปแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ชอบลูกเช็ดแป้นนี้เท่าไหร่ แต่ก็ได้บอกว่า “มันให้ผลที่ดีมาก ทําคะแนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จริงๆ คนอื่นในลีกควรใช้มันนะ แต่ทิมนั้นฉลาดเลือกมาก และเขาทํามันได้ดีเลย” การทําคะแนนของทิมมี่หลายครั้งก็ทําให้ตัวประกบเขานั้นรู้ว่าทิมจะเช็ดแป้นแต่ก็กันไม่ได้

และจะมีใครรู้ดีมากไปกว่าคนที่ดวลกันมาเป็นสิบๆ ปีอย่าง เดิร์ก โนวิตสกี้ มือ 3 แต้มของ แมฟเวอริกส์ ที่ต้องประกบกับ ทิม ดันแคน ทุกครั้งที่ต้องเจอกัน และท่าเช็ดแป้นคือสิ่งที่เขาอดไม่ได้จนถึงขั้นต้องเอ่ยปากชมเลยทีเดียว 

“ดันแคนทําให้ลูกเช็ดแป้นนี้เป็นอาวุธ เขาทํามันได้ดีมาก มันเป็นการยิงที่มีประสิทธิภาพนะ ผมเคยจะทํา แต่มันต้องอยู่ในมุม 45 องศา แต่ผมทํามันไม่ได้ดีเท่าไร ผมจึงเลือกใช้เฟดอเวย์มากกว่า ลูกแบบนี้มันต้องฝึกอย่างหนักเลย” เดิร์กกล่าวถึงดันแคนในการใช้ลูกไม้ตายนี้ “ผมต้องกะระยะ อยู่ห่างห่วงสัก 10-15 ฟุตและมุมต้องได้ ผมถึงจะใช้มัน” ดันแคนกล่าวถึงลูกยิงไม้ตายของตนเอง และมันได้ผลมากในแง่ประสิทธิภาพ แม้ว่าหลายคนอาจมองว่ามันไม่ได้สวยงามสักเท่าไร

ถ้าไม่ใช่บิ๊กแมนล่ะ?

บิ๊กแมนในยุคมิลเลเนี่ยมนั้นต่างมีท่าประจํา แต่สําหรับการ์ดตัวเล็กหลายคนในยุคนั้น การจะสู้กับผู้เล่นตัวใหญ่ได้ต้องใช้องค์ประกอบหลายอย่างมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการคอนโทรลบอล การยิงบอลที่แม่นยำ หรือการเข้าทําคะแนนที่รวดเร็ว และมันทําให้การ์ดร่างเล็กที่สูง 6 ฟุตอย่าง อัลเลน ไอเวอร์สัน นั้นต้องหาทางเอาตัวรอดในยุคที่มีแต่เหล่ายักษ์อัดแน่นเต็มสนามให้ได้ และสิ่งที่ไอเวอร์สันทําก็คือ “ครอสโอเวอร์” หรือการเลี้ยงหลอกโดยการคอนโทรลบอลเปลี่ยนทางอย่างรวดเร็ว

 5

ถ้านับในยุค 90’ ทิม ฮาร์ดอเวย์ แห่ง โกลเด้นสเตท วอริเออร์ส อาจได้ฉายาว่า “คิลเลอร์ครอสโอเวอร์” แต่ก็อีกนั่นแหละ หลายสิ่งเปลี่ยนไป ยิ่งผลัดยุคเรื่องของร่างกายนักกีฬาก็มีประสิทธิภาพมากขึ้น และ ไอเวอร์สัน ถูก ESPN โหวตว่าเป็นครอสโอเวอร์ที่รวดเร็ว และเป็น Ankle Breaker หรือที่เรียกกันว่า "ครอสของไอเวอร์สัน" ซึ่งท่านี้นั้นอาจทำให้คนตามประกบหัวทิ่มหัวตำจนข้อเท้าหักได้เสียเองเลยทีเดียว

ภาพไฮไลท์ที่คนจดจํา "ครอสของไอเวอร์สัน" ได้ดีมากที่สุดคือช็อตหลอกตํานานอย่างไมเคิล จอร์แดนในเกมส์แรกที่ ไอเวอร์สัน ได้โอกาสลงเล่นในระดับเล่นอาชีพ ไอเวอร์สัน ในวัยหนุ่มใช้ ครอสโอเวอร์ เล่นงาน จอร์แดน จนหน้าแทบคะมํา โดยในเกมส์นั้นเป็นการเจอกันในสนามครั้งแรกของเอไอและจอร์แดนฮีโร่ที่เขาชื่นชอบมาตลอดชีวิต แม้เจ้าตัวดีใจแต่ก็ไม่แสดงอาการตื่นเต้นมาก และบอกเพียงว่า “ผมไม่ต้องการที่จะเป็น (ไมเคิล) จอร์แดน ผมไม่ต้องการที่จะเป็นแมจิค (จอห์นสัน) ผมไม่ต้องการที่จะเป็น (แลร์รี่) เบิร์ด ผมไม่ต้องการที่จะเป็นคนเหล่านั้น เมื่ออาชีพของผมจบผมต้องการมองกระจกและพูดว่า ผมทํามันตามทางของผม” และในเกมส์นั้น การครอสโอเวอร์ใส่จอร์แดนเป็นจุดเริ่มต้นที่ทําให้หลายคน หลายสํานักยกย่องว่า เอไอคือสุดยอดแห่งการครอสโอเวอร์ และกลายมาเป็นท่าไม้ตายใช้กับคู่ต่อสู้ในทุกครั้งที่เจอกันในสนาม

 6

“เขาจะโยกหลอกคุณไปอีกทางด้วยความไว แล้วคอนโทรลบอลมาอีกทาง แล้วกลับไปทางเดิมอย่างรวดเร็ว เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วมันจะทําให้เราตามประกบเขาไม่ทัน” โคบี้ ไบรอันท์ กล่าวถึง ไอเวอร์สัน ที่ใช้ท่าไม้ตายการครอสโอเวอร์ลูกนั้นใส่ ไทรอน ลู ในรอบไฟนอลปี 2001 ที่ ซิกเซอร์ส เจอกับ เลเกอร์ส ในเกมส์แรกจนกลายเป็นภาพไฮไลท์ที่ทุกคนยังจําถึงทุกวันนี้ได้ 

“คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเขาจะไปซ้ายหรือขวา เขาจะเข้าไปข้างในหรือจะหลอกคุณแล้วยิงข้างนอก มันไวมาก เสมือนบอลคือส่วนหนึ่งของตัวเขาเลย” ดีเร็ค ฟิชเชอร์ กล่าวหลังเกมส์ที่โดน ไอเวอร์สัน ครอสโอเวอร์ใส่จนล้มกลิ้งก้นจํ้าบํ้าลงไปกับพื้น ว่ากันว่าด้วยท่าไม้ตายนี้มันทําให้การ์ดหรือคนที่ประกบเขาหลายคนต่างปวดหัว และสิ่งที่ทําได้คือรอให้เขาพลาดด้วยการยิงเอง

“เขาไวเหลือเชื่อมาก มันเหมือนว่าทุกๆ คนช้ากว่าเขา ทั้งๆ ที่คนรอบๆ ตัวเขานั้นปกติ เมื่อเราเห็นการครอสโอเวอร์ของอัลเลนมันทําให้เราได้แต่ร้อง ว้าว !! ทุกครั้ง” แพท โครเช่ อดีตประธานของสโมสรซิกเซอร์สกล่าวถึงลูกทีมของตนเอง 

อิมพอร์ทจากต่างแดน

การเอาตัวรอดของนักบาสร่างเล็กอาจคือการเลี้ยง แต่หลายคนอาจใช้ทริคเข้ามาช่วย อาจใช้สเต็ปที่คล่องแคล่วเข้ามาเสริม ในยุคมิลเลเนียมนี้ก็เช่นกัน จากการเลย์อัพธรรมดา แต่ มานู จิโนบิลี่ ยอดนักบาสชาวอาร์เจนตินาของสเปอร์สนั้นทําให้สิ่งที่ธรรมดากลายเป็นไม่ธรรมดา และทําให้มันกลายเป็นท่าไม้ตายที่เรียกได้ว่านักบาสยุคปัจจุบันต้องนํามาใช้กัน นั่นคือ “ยูโรสเต็ป” ซึ่งมันคือท่าหากินของมานูเลยก็ว่าได้ เขาเริ่มฝึกและเริ่มใช้มันตั้งแต่เล่นอาชีพในอิตาลี ซึ่งยูโรสเต็ปของมานูนั้นมันไม่ใช่การใช้ความไว หรือใช้ทริคที่ยากเย็น แต่มันคือการเลย์อัพดึงจังหวะ และใช้ชั้นเชิงในการหลอกอีกทางเข้าไปเสริม 

 7

“ในยุโรปมันเป็นท่าหากินเลยก็ว่าได้ ผู้เล่นหลายคนใช้กันบ่อย นักบาสในยุโรปไม่ได้กระโดดสูงแบบนักบาสอเมริกา แต่จะใช้จังหวะและทริคเข้ามาช่วย” มานูกล่าวถึงการใช้ท่าไม้ตายยูโรสเต็ป มานูนั้นได้กล่าวเพิ่มอีกด้วยว่า “สิ่งที่จะทําให้ท่านี้มันใช้ได้ทรงประสิทธิภาพก็คือ คุณต้องหลุดตัวประกบให้ได้ คอนโทรลบอลให้ดี และดึงจังหวะเข้าไปวางบอลให้ได้” ด้วยท่าไม้ตายยูโรสเต็ปของมานูนั้น มันใช้ได้ผลจน "โค้ชป๊อป" นั้นถึงกับบอกว่า ทุกๆ ครั้งที่มานู พิกแอนโรลล์ (Pick & Roll) และใช้ท่านี้ มันทําให้เขามั่นใจว่าทีมจะต้องได้แต้มเลยทีเดียว

ด้วยท่าไม้ตายของมานูที่เขาฝึกฝนมาตั้งแต่เริ่มเล่นอาชีพที่ยุโรป และนํามันมาใช้ใน NBA จนเป็นท่าประจําของเจ้าตัว มันยังทําให้นักบาสในยุคนี้นั้นนํามาใช้และเป็นท่าประจําตัวของยอดนักบาสหลายคนในยุคนี้ด้วย อาทิ ดเวย์น เหวด หรือ รัสเซล เวสบรูค ที่นําท่านี้มาใช้ “ผมเห็นมานูทําตั้งแต่สมัยที่ผมเรียนอยู่แล้ว และเมื่อผมเข้ามาใน NBA ผมเลยลองนํามันมาใช้ดู มันเป็นท่าง่ายๆ แต่ทรงประสิทธิภาพมาก แค่คุณต้องรู้ทริคในการทํามันเท่านั้น” เวดกล่าวถึงท่ายูโรสเต็ปที่เขาใช้บ่อยๆ ในช่วงต้นอาชีพกับ ไมอามี่ ฮีต

ยุคของ "สเต็ปแบ็ค" 

ไม่เพียงแต่ยูโรสเต็ปที่เป็นท่าเอาตัวรอดของนักบาสในตําแหน่งการ์ด มันยังมีอีกหลายท่ามากมายทั้งเทียร์ดรอป สปินมูฟของ โทนี่ พาร์คเกอร์ , "ลองทรี" การส่องสามแต้มได้จากทุกระยะของ สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ และ "บีไฮน์ครอสโอเวอร์" ของ จามาล ครอวฟอร์ด แต่ท่าไม้ตายที่ว่ากันว่าในขณะนี้นั้นคือเบอร์ 1 และถูกพูดถึงมากนั่นคือ “สเต็ปแบ็ค” ของ เจมส์ ฮาร์เด้น ซึ่งท่านี้เป็นลักษณะการโยกไปข้างหน้าแล้วถอยหลังมาสเต็ปนึงแล้วค่อยชู๊ตบอล ซึ่งแน่นอนว่านักบาสหลายคนในลีกเจอท่านี้ก็ไปไม่เป็นหลายคนเลย 

 8

แม้องค์ประกอบมันอาจฟังดูยาก แต่เจมส์ ฮาร์เด้นนั้นทําให้มันง่าย และง่ายจนเป็นท่าไม้ตายที่เขาใช้หากินในทุกวันนี้ และแน่นอนว่ามันทําให้ตัวประกบของเขานั้นหลายคนที่ป้องกันไม่ได้ถึงกับหัวเสียเอาเลยทีเดียว

“นี่มันอาจเป็นท่าที่ป้องกันยากที่สุดในโลกนี้เลย” เจฟฟ์ กรีน กล่าวถึงช่วงเวลาที่เขาถูก ไทรอน ลู อดีตโค้ช คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส สั่งให้มาจับฮาร์เด้นในตอนเจอกันและก็โดนลูกนี้เข้าไป 

“บางครั้งผมได้ยินเสียงบนม้านั่งสํารองของฝั่งตรงข้ามนะว่าอย่าปล่อยให้ผมยิง เขากําลังใช้สเต็ปแบ็คใส่คุณ” ฮาร์เด้นกล่าวถึงไม้ตายของตัวเองด้วยความภาคภูมิใจ ซึ่งแน่นอนว่าผู้เล่นหลายคนในยุคปัจจุบันที่ประกบฮาร์เด้นต่างก็โดนท่านี้ไป และมันลงท้ายด้วยคะแนนของฮาร์เด้น ซึ่งเรื่องความน่ากลัวของท่าไม้ตายนี้แม้แต่โค้ช ไมค์ มาโลน ของ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ก็ยังกลัวและถึงกับเอ่ยปากว่า “ถ้าคุณต้องส่งคนไปประกบฮาร์เด้น และเฝ้าตามเขาตลอด คุณต้องอยู่ให้ติดเขาอย่าห่างเกินสองฟุต ไม่อย่างงั้นคุณตายแน่ๆ เขาจะทําสกอร์ใส่คุณ ผมมักบอกให้ลูกทีมนั้นระวังเสมอ และขอให้เขาพลาดเอง เมื่อเขาถอยไปข้างหลังตรงเส้น 3 คะแนนนั่นแหละเขาจะทําแต้มใส่คุณ แต่ปัญหาคือ คุณจะตามเขาไม่ทัน” ไมค์ มาโลน ปิดท้าย ...

ที่สุดแล้วแม้ว่า มาโลน จะบอกถึงความยอดเยี่ยมและวิธีการป้องกันท่านี้ แต่ผู้เล่นหลายคนก็ปิดท้ายด้วยการสังเวยคะแนนให้กับสเต็ปแบ็คของ ฮาร์เด้น ทุกคนไป

ด้วยท่าไม้ตายที่ร้ายกาจนี้ทําให้ฮาร์เด้นนั้นถูกยกย่องในฤดูกาลนี้ว่าเป็นผู้เล่นที่ไอโซเลชั่น (Isolation - ดวลตัวต่อตัว) ดีที่สุดใน NBA ซึ่งสกอร์จากการดวลตัวต่อตัวของ ฮาร์เด้น นั้นเฉลี่ยเกมส์ละประมาณ 11 แต้มต่อเกมเลยทีเดียว และเมื่อของเขาดีก็ย่อมมีคนที่พยายามนำไปใช้และขลัดเกลาให้เขากับตัวเอง ซึ่งนั่นก็คือ ลูก้า ดอนซิค รุกกี้ที่เป็นที่พูดถึงมากที่สุดในฤดูกาลนี้

 9

“คุณรู้ไหมผมก็เลียนแบบท่าของฮาร์เด้นนะ" ลูก้า ยกย่อง ฮาร์เด้น และกล้าพูดอย่างเต็มปากว่า สเต็ปแบ็คของ พี่เครา มีอิทธิพลกับการเล่นของเขาไม่น้อย

"ผมอาศัยดูคลิปวีดีโอ ดูเทปการแข่งขันของเขาแล้วทําตาม มันเป็นท่าที่ยอดเยี่ยม และมีประสิทธิภาพมาก จนเมื่อผมได้มีโอกาสแข่งกับเขา แล้วได้เห็นกับตา มันยอดเยี่ยมกว่าที่เห็นในคลิปจริงๆ" การ์ดรุกกี้ของดัลลัส แมฟเวอริกส์ กล่าว ซึ่งรุ่นพี่ในทีมอย่าง เดิร์ก โนวิตสกี้ ก็ยอมรับโดยสนิทใจว่า "สเต็ปแบ็ค" คือท่าไม้ตายที่ทำให้ เจมส์ ฮาร์เด้น คือผู้เล่นเกมรุกที่ดีที่สุดในยุคปัจจุบัน 

ท่าไม้ตาย คือท่าที่ใช้เพื่อเอาตัวรอด ใช้เพื่อให้ทีมได้คะแนน และได้รับชัยชนะ ซึ่งมันแตกต่างกันในแต่ละยุคแต่ละสมัย สิ่งเหล่านี้ประยุกต์ปรับเปลี่ยนกันไปตามกาลเวลา แต่แน่นอนว่าจุดกำเนิดของทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นจากสิ่งที่ "เรียบง่ายที่สุด" และเมื่อฝึกฝนจนชำนาญ สิ่งง่ายๆ เหล่านี้จะกลายเป็นสิ่งที่ยากและซับซ้อนสำหรับใครก็ตามที่คิดจะหยุดมัน

“มันต้องเป็นท่าที่มีประสิทธิภาพ และทําได้ง่ายๆ แต่ทําให้คู่ต่อสู้นั้นป้องกันคุณไม่ได้” ไมเคิล จอร์แดน ให้คำจำกัดความของคำว่า “ท่าไม้ตาย” ได้อย่างรวบรัดและเห็นภาพอย่างที่สุด ...

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ เล่าผ่านแฟนพันธุ์แท้ NBA : จากแชคถึงฮาร์เด้น วิวัฒนาการ "ท่าไม้ตาย" แห่งยุคมิลเลนเนียม