แนวรุกชิลียิงใส่อดีตต้นสังกัดพาปีศาจแดงบุกคว้าชัยทัพปืนโต ซึ่งสุดโชคร้ายต้องเสียคู่หูเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักไปพร้อมกันในเกมเดียว

ฟุตบอลถ้วยเก่าแก่ของอังกฤษ “เอฟเอคัพ 2019” เป็นคู่บิ๊กแมตช์ประจำรอบ 4 ระหว่าง อาร์เซนอล เปิดรังเหย้า เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

อูไน เอเมรี กุนซือเจ้าบ้าน เปลี่ยนนักเตะจากพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ชนะเชลซี 2-0 ทั้งสิ้น 3 ราย ได้แก่ ปีเตอร์ เช็ค, เอนส์ลีย์ เมตแลนด์-ไนล์ส และ อเล็กซ์ อิโวบี้ ซึ่งได้ลงตัวจริงแทน แบร์นด์ เลโน, เอคตอร์ เบเยริน และ มัตเตโอ เกนดูซี

ด้านทีมเยือนของ โอเล กุนนาร์ โซลชา นำทัพโดย อเล็กซิส ซานเซช ซึ่งได้กลับมาเยือนถิ่นเก่าเป็นครั้งแรก โดยจะประสานงานในแนวรุกร่วมกับ เจสซี ลินการ์ด และ โรเมลู ลูกากู ขณะที่ เซร์คิโอ โรเมโร ได้เฝ้าเสาแทนมือหนึ่งอย่าง ดาบิด เด เคอา ซึ่งได้พักไม่มีชื่อแม้แต่ตัวสำรอง

เริ่มเกมมาได้ 21 นาที อาร์เซนอลกลับต้องใช้โควตาเปลี่ยนตัวคนแรกเสียแล้ว เมื่อเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักอย่าง โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส มีปัญหาบาดเจ็บข้อเท้าจนฝืนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ต้องส่ง ชโคดราน มุสตาฟี ลงมาแทน

การเสีย โซคราติส ไปนั้น ส่งผลต่อเกมรับของไอ้ปืนใหญ่อย่างชัดเจน เมื่อในนาทีที่ 31 ยูไนเต็ดมาจัดการพังประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ ลูกากู จ่ายทะลุช่อง อเล็กซิส วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้าโฉบมาแตะบอลหลบ เช็ค ก่อนจะยิงใส่ทีมเก่าด้วยขวาตุงตาข่าย ส่งให้ปีศาจแดงในชุดเยือนสีกรมท่าบุกนำ 1-0

ถัดมาเพียงแค่นาทีที่ 33 ทีมเยือนมาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ ลูกากู ไหลบอลทางกราบขวาเข้ากลางให้ ลินการ์ด จับแล้วแปเรียดเน้นๆด้วยขวาอย่างเด็ดขาด ช่วยให้อาคันตุกะจากแมนเชสเตอร์หนีห่างเป็น 2-0

แต่เจ้าบ้านยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เมื่อมาตามตีไข่แตกได้ในช่วงท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 43 จากจังหวะที่ อารอน แรมซีย์ ไหลบอลทางกราบซ้ายเข้ากลางให้ อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ แหย่เท้าจะพยายามจิ้มลูก แม้จะโดนเหลี่ยมไม่ดี แต่กลายเป็นไปเข้าทาง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ได้แปด้วยซ้ายระผะเผาขนไม่เหลือ ทำให้ทัพปืนโตไล่มาเป็น 1-2 ก่อนจะจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังอาร์เซนอลยังต้องมาเสียเซ็นเตอร์ฮาล์ฟจากอาการบาดเจ็บไปอีก เมื่อกัปตันทีมอย่าง โลรองต์ กอสเซียลนี ไปพลาดโดนเท้าของ ลูกากู เสยเข้าไปที่ใบหน้า จนไม่สามารถเล่นต่อไหวได้ ทำให้ เอเมรี ต้องตัดสินใจเปลี่ยนตัวอีก 2 คนจนครบโควตาไปทีเดียว ด้วยการถอด อิโวบี้ ออกไปอีกราย พร้อมกับส่ง เกนดูซี และ เมซุต โอซิล ลงมาแทน ในนาทีที่ 64

ก่อนขาดคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักไปพร้อมกัน ทำให้เกมรับของไอ้ปืนใหญ่เข้าขั้นอ่อนยวบ จนปีศาจแดงมายิงประตูที่สามฉีกหนีไป ในนาทีที่ 82 จากจังหวะที่ ป็อกบา ลากบอลมาถึงหน้าเขตโทษก่อนยิงด้วยขวาไปติดเซฟ เช็ค ปัดมาเข้าทาง อ็องโตนี มาร์กซิยาล ซึ่งลงมาเป็นสำรองแทน อเล็กซิส ก่อนหน้านี้ 10 นาที วิ่งมาตามซ้ำดาบสองไม่พลาด ช่วยให้ทีมเยือนนำห่าง 3-1

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีกแต่อย่างใด ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบุกมาชนะไป 3-1 กรุยทางผ่านเข้าสู่รอบ 5 ได้สำเร็จ รวมถึงส่งผลให้ โอเล กุนนาร์ โซลชา พาทีมคว้าชัยติดต่อกันเป็นนัดที่ 8 เข้าไปแล้ว

ซิวชัย 8 นัดติด! แมนฯ ยูไนเต็ด บุกอัด อาร์เซน่อล 3-1 ลิ่วเอฟเอคัพ (คลิป)

ซิวชัย 8 นัดติด! แมนฯ ยูไนเต็ด บุกอัด อาร์เซน่อล 3-1 ลิ่วเอฟเอคัพ (คลิป)6 / 13