ฟุตบอล : เรื่องราวแย่ๆเกิดขึ้น ความรู้สึกของแต่ละคนไปคนละทิศคนละทาง ผีแดงวันนี้ต้องทำใจ แม้ยังเหลืออีกนัดให้แก้ตัว แต่ถ้าภาพรวมยังเหมือนเดิมก็ตัวใครตัวมัน
โดนไป 2 ประตูกันถ้วนหน้าไม่ว่าจะเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้,อาร์เซนอลหรือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งทั้งเรือใบและปืนโตต้องเจอกับสถานการณ์ที่มีผู้เล่นในสนามน้อยกว่าคู่แข่ง ในขณะที่ผีแดงอยู่กันเต็มชุดตลอด 90 นาที ทางด้านของเชลซีคงรู้ผลกันแล้วว่าเป็นอย่างไร
เดวิด มอยส์...
ผลงานที่เลวร้ายยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องภายใต้การดูแลของ เดวิด มอยส์ สถานการณ์ในพรีเมียร์ ลีก เกาะกินใจแฟนบอลกันถ้วนหน้า ทว่าผลงานที่ผ่านมาในรอบแบ่งกลุ่มของถ้วยใหญ่ยุโรปยังพอปลอบประโลมได้บ้าง
การประกบคู่ในรอบน็อกเอาท์เจอกับโอลิมเปียกอส เชื่อเหลือเกินว่าทุกคนในค่ายนี้กระหยิ่มยิ้มย่องแน่นอน โอกาสผ่านเข้ารอบต่อไปสดใสกว่าเจอกระดูกชิ้นใหญ่อื่นๆแน่นอน
แม้ยังคงมีโอกาสในเลกที่ 2 ทว่สิ่งที่เกิดขึ้น มอยส์ คงปฏิเสธความรับผิดชอบไปไม่ได้ พรีเมียร์ ลีก หมดโอกาสที่จะป้องกันแชมป์ เอฟเอ คัพและแคปิตอล วัน คัพ ร่วงไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นแชมเปี้ยนส์ ลีก คือความหวังเดียวที่เหลืออยู่แม้จะยากเย็นแสนเข็นก็ตาม
จริงๆแล้วฟอร์มแบบนี้กลายเป็นเรื่องเพ้อฝันก็พอจะพูดได้ แต่อดีตที่ผ่านมา ทั้งลิเวอร์พูลในปี 2005 และ เชลซีในปี 2012 เดินหน้าไปถึงแชมป์มาแล้วทั้งที่ฟอร์มและขุมกำลังเป็นรองทีมอื่นๆมากมาย
มอยส์ หยิบยกเอาเรื่องราวเหล่านี้มาเป็นขวัญและกำลังใจ สิ่งที่ได้จากเกมไปเยือนโอลิมเปียกอสก็คือ ฟอร์มที่หมดรูปจนไม่รู้ว่าจะไปคาดหวังจากอะไรเหมือนกัน
ตัวริมเส้น...
เดวิด มอยส์ จัดเต็มในพื้นที่ริมเส้น ใส่ทั้ง อันโตนิโอ วาเลนเซียและแอชลัย์ ยัง ลงมาพร้อมกัน ที่น่าแปลกใจก็คือไม่มีชื่อของ อัดนาน ยานาไซ ให้เห็นแม้แต่ตัวสำรอง ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น
ตัวริมเส้นทั้ง 2 คนที่ มอยส์ จัดลงสนามเล่นในรูปแบบของปีกโบราณคือขึ้นเกมริมเส้นอย่างเดียวจริงๆ ยืนห่างมากเป้าหมายอาจจะถ่างพื้นที่แนวรับของโอลิมเปียกอสให้กว้างก็เป็นได้
แต่สิ่งที่จะเสียหายก็คือ ออปชั่นในการเล่น จินตนาการต่างๆมันจะน้อยลงไป สังเกตได้เลย พวกตัวริมเส้นสมัยใหม่จะไม่ยืนแช่หรือติดหนึบอยู่ริมเส้นอย่างเดียว
อาร์เยน ร็อบเบน ของบาเยิร์น มิวนิค น่าจะเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนได้ การตัดเข้าสู่พื้นที่ด้านใน จะเปิดช่องว่าง เป็นตัวเลือกในพื้นที่ตรงกลางมากยิ่งขึ้นดีกว่าเป็นตัวริมเส้นเพียวๆแน่นอน
แนวรับโอลิมเปียกอสแค่ปิดริมเส้นเอาไว้ บอลที่จะออกจากกองหลังหรือมิดฟิลด์ของผีแดงก็ไม่รู้จะเปิดไปให้ใครได้แต่ส่งบอลกันไปมาในแนวรับตัวเอง
รอย คีน...
อดีตมิดฟิลด์และกัปตันทีมผีแดง ออกมาสับแบบไม่ไว้หน้า ฟอร์มผีแดงไม่ได้เรื่องจริงๆ และ เดวิด มอยส์ ถ้ายังคงอยู่ในตำแหน่ง คงต้องซื้อนักเตะใหม่ 5-6 คนในช่วงปิดฤดูกาล
คีนบอกว่า มอยส์ คาดหวังไว้เยอะเหมือนกันตอนเข้ามารับงาน อย่างน้อยขุนพลผีแดงดีกว่าขุมกำลังของเอฟเวอร์ตันที่เคยทำงานร่วมกันก่อนหน้านั้น
ทว่านาทีนี้ มอยส์ คงรู้แล้วว่าขุมกำลังหลายต่อหลายคนของผีแดงไม่ใช่อย่างที่คิด ไม่รู้จะโทษกุนซือหรือนักเตะดี ในช่วงเวลาที่ย่ำแย่มองไปทางไหนผิดไปหมด
คงต้องเป็นอย่างที่ รอย คีน ว่าเอาไว้ การเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นครั้งใหญ่ของผีแดงรออยู่ และคงต้องใช้งบประมาณกันมหาศาลแน่นอน
แนวรับ...
ไม่เหนียวแน่น ไม่เป็นหนึ่งเดียว เป็นอีกประเด็นสำคัญที่จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงหลังจากปิดฤดูกาล เนมันย่า วีดิช อาจจะได้เครดิตหน่อยที่พยายามบล็อกทุกทิศทางหรือพยายามตัดในจังหวะสุดท้ายให้ได้
แต่ถ้าองค์ประกอบอื่นๆไม่ว่าจะเป็น ริโอ เฟอร์ดินานด์,ปาทริซ เอวร่าและคริส สมอลลิ่ง ไม่ได้ช่วยให้ดูดีขึ้นมา เป็นเรื่องยากเหมือนกันที่แนวป้องกันจะเหนียวแน่น
ยิ่งการป้องกันจากด่านแรกไม่ว่าจะเป็น ไมเคิล คาร์ริค หรือ ทอม เคลฟเวอร์ลีย์ ไม่มีประสิทธิภาพมากพอยิ่งไปกันใหญ่
เวย์น รูนี่ย์...
การเซ็นสัญญาฉบับใหม่พร้อมกับรายได้มหาศาลนั้น ย่อมทำให้ รูนี่ย์ คือความคาดหวังของทีมไปอีกหลายปีข้างหน้า และจะทำหน้าที่ กัปตันของทีมต่อไป
บทบาทของ รูนี่ย์ อาจจะมองภาพกันที่การสร้างสรรค์โอกาสให้กับทีม เมื่อไม่ได้ผลอย่างที่ต้องการสิ่งที่ได้เห็นกันมากหน่อยเห็นจะเป็นอาการฉุนเฉียว หงุดหงิดไปทุกเรื่อง มันไม่ควรจะเป็นภาพของกัปตันทีมของผีแดงในอีกหลายปีข้างหน้าตามที่ต่อสัญญากันเอาไว้
ในขณะเดียวกัน โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ก็โทษองค์ประกอบของทีมไปทั่ว โอกาสยิงเข้ากรอบเพียงครั้งเดียวของผีแดงคงบอกเรื่องราวเกมรุกได้เป็นอย่างดี
เรื่องราวแย่ๆเกิดขึ้น ความรู้สึกของแต่ละคนไปคนละทิศคนละทาง ผีแดงวันนี้ต้องทำใจ แม้ยังเหลืออีกนัดให้แก้ตัว แต่ถ้าภาพรวมยังเหมือนเดิมก็ตัวใครตัวมัน
ดามัน