สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับ บริษัท ไทยลีก จำกัด และ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ส ประเทศไทย จำกัด จัดงานแถลงข่าวความพร้อมก่อนการแข่งขัน "มีต เดอะ วอร์ริเออร์" เกมโตโยต้า ไทยลีก นัดที่ 23 ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ทีมอันดับ 10 เปิดบ้านรับการมาเยือนของชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 7
ราชันมังกรฟอร์มเริ่มสะดุดหลังแพ้มาสองเกมติด และหกนัดหลังสุดยังเก็บชัยชนะได้เพียงเกมเดียวเท่านั้น ขณะที่ ฉลามชลคืนฟอร์มเกมล่าสุดหลังพลิกกลับมาชนะ โปลิศ เทโร เอฟซี ไปได้ 3-1 ส่วนเกมแรกที่ทั้งสองทีมพบกัน เป็นชลบุรี ที่ชนะไป 2-1
โดยทาง โรเบิร์ต โปรคูเรอร์ ผู้จัดการทีม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี กล่าวว่า "เปรียบเทียบกับอาทิตย์ที่แล้ว ที่เราไปเจอกับ บางกอกกล๊าส เราเล่น 120 นาที ในวันเสาร์ที่ผ่านมาเราก็เจอกับ นครราชสีมา ทั้ง 2 เกมเป็นเกมที่หนัก รวมถึงผู้เล่นของเราก็เล่นได้ไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกในเกมที่พบกับ ชลบุรี"
"ตอนนี้ในทีมมีเพียงคัง ซู อิล คนเดียวที่ไม่สามรถลงเล่นได้ ที่เหลือลงได้ครบทุกคน เมื่อวานเราไม่มีโปรแกรมแข่งขัน ซึ่งตรงนี้อาจะเป็นข้อได้เปรียบของเรา นักเตะได้พักเต็มที่ ซึ่งก็จะประมาทไม่ได้เพราะด้านของชลบุรี ฟอร์มของเขากำลังมา แต่ถึงแม้เราจะเล่นไม่ดีที่ผ่านมา แต่เราก็ยังต้องการ 3 แต้มเหมือนกัน สภาพในทีมตอนนี้ทุกคนไม่มีปัญหาอะไร สามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี เราต้องการอีก 23 แต้ม เพื่อพ้นโซนอันตราย"
"แน่นอว่า ซิโร่ อัลเวส มีฟอร์มที่ดี แต่เราจะต้องโฟกัสทั้งทีม เเละเตรียมรับมือกับเขาทั้งทีม การเล่นในบ้านจะทำให้เรามีความมั่นใจที่มากขึ้น เพื่อคว้า 3 แต้ม"
"เป็นเรื่องทีดี สำหรับการใช้ VAR ในการช่วยในเรื่องของการตัดสิน เพราะผู้ตัดสินไม่สามารถมองเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเกมการแข่งขันได้ ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ดีที่จะเข้ามาช่วยให้เกมเข้มข้นมากขึ้น”
ด้าน จีระศักดิ์ โจมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อ ชลบุรี เอฟซี กล่าวว่า “อย่างที่คุณโรเบิร์ตบอก เมื่อวานเราผ่านเกมที่หนักมาเรามีเกมกับเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เราใช้ผู้เล่นชุดที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ ลงทำการแข่งขัน ทำให้นักเตะเราล้าพอสมควร การที่จะต้องไปเยือนราชบุรีในวันเสาร์นี้ ถือว่าเป็นงานหนักมากๆ ยังดีที่เราไม่มีผู้เล่นที่ติดโทษแบน แต่มีตัวเจ็บเก่าๆอยู่ อย่าง นัสตพล มาลาพันธ์ ยังเล่นไม่ได้ ธีรพงษ์ ดีหามแห ยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ และที่สำคัญอีกหนึ่งคนคือ ผู้รักษาประตูของเรา ชนินทร์ แซ่เอียะ ยังไม่ได้ลงเล่นเลย เพราะหลังจากที่เขามีอาการบาดเจ็บไป เพิ่งกลับเข้ามาซ้อมร่วมกับทีมได้ 3 วัน เราต้องรอเช็คความฟิตว่าวันเสาร์นี้เขาจะสามารถลงได้หรือไม่ ต้องรอดูอาการและรีโคฟเวอรี่ ให้นักเตะเราได้ฟื้นฟูสภาพร่างกายเร็วที่สุด”
สำหรับมาเธอุส อัลเวส ได้เริ่มปรับตัวเข้ากับทีมได้ ในช่วงที่มาใหม่ๆเขาพยายามจับจังหวะฟุตบอลอยู่ ซึ่งตอนนี้เขาเริ่มจับจังหวะฟุตบอลและประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมได้ดีมากยิ่งขึ้น เราคงยังไม่ประเมินเขาว่าเราจะขอซื้อหรือจะขอยืดสัญญาเขาไป ก็คงต้องดูผลงานของเขา ประเมินผลงานของอีกสักกระยะ ผมเชื่อว่าถ้าเขาดีจริง บอร์ดบริหารก็มีความสนใจ แต่ต้องยอมรับตามตรงว่า ค่าเหนื่อยเขาค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นชลบุรี เราไม่ได้มีเงินมากนัก เราไม่ใช่ทีมใหญ่ การใช้เงินแต่ละบาท เราต้องคิดค่อนข้างเยอะ ก็คงต้องพิจารณาในปัจจัยหลายๆด้าน เพราะแค่ยืมก็ค่อนข้างสูงแล้ว เป็นเพราะปีนี้มีการตกชั้น 5 ทีม ชลบุรีจึงต้องกลั้นใจนำนักเตะต่างชาติอย่าง มาเธอุส เข้ามา”
“ในเลกแรกเรามีปัญหาเรื่องการทำประตู รูปเกม ความสัมพันธ์ในทีม การครองบอล ชลบุรีทำได้ตามมาตรฐาน แต่เรายิงประตูไม่ได้ ดังนั้นฝ่ายเทคนิคเราจึงทำการปรับปรุงแก้ไข ว่าเราจะอย่างไรให้ดีขึ้น เราจึงตัดสินใจเปลี่ยนหน้า 2 ตัวต่างชาติ ทั้งบายรัม เนบิฮีและมาเธอุส อัลเวส เข้ามา ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี”
“สำหรับ VAR แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ดี ถ้าเป็นไปได้อยากให้สมาคมฯใช้ VAR ในทุกๆเกมจะได้ ไม่ต้องมาคิดว่าเกมเล็กเกมใหญ่ ทีมเล็กทีมใหญ่ จะได้มีความยุติธรรมในทุกๆเกม ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้เกมมีความขาวสะอาดและดูสนุกมากยิ่งขึ้น”
โปรแกรมการแข่งขัน และ การถ่ายทอด ฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2018 นัดที่ 23 มีดังนี้
วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม 2561
17.45 ชัยนาท ฮอร์นบิล พบกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่สนาม เขาพลอง สเตเดียม ถ่ายทอดสด ทาง ทรูสปอร์ต 2
18.00 สุโขทัย เอฟซี พบกับ ราชนาวี ที่สนาม ทุ่งทะเลหลวง ถ่ายทอดสด ทาง True4U
19.00 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ที่ สนาม ช้าง อารีนา ถ่ายทอดสด ทาง ทรูสปอร์ตเอชดี 2
19.00 ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พบกับ ชลบุรี เอฟซี ที่ สนาม มิตรผล สเตเดียม ถ่ายทอดสด ทาง ทรูสปอร์ต 6
20.00 ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบกับ พีที ประจวบ เอฟซี ที่สนาม ทรู สเตเดียม ถ่ายทอดสด ทาง ทรูสปอร์ต 2 และ ทรูสปอร์ต เอชดี 2
วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2561
18.00 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่สนาม เอสซีจี สเตเดียม สเตเดียม ถ่ายทอดสด ทาง True4U
18.00 โปลิศ เทโร เอฟซี พบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่สนาม บุญยะจินดา ถ่ายทอดสดทาง ทรูสปอร์ต 6
19.00 แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี พบกับ การท่าเรือ เอฟซี ที่สนาม ธูปเตมีย์ ถ่ายทอดสด ทาง ทรูสปอร์ต เอชดี 2
19.00 พัทยา ยูไนเต็ด พบกับ บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่สนาม เทศบาลเมืองหนองปรือ ถ่ายทอดสดทาง ทรูสปอร์ต 2