ปอนด์ต่อปอนด์! ปืนบู๊หงส์...

ปอนด์ต่อปอนด์! ปืนบู๊หงส์...

ปอนด์ต่อปอนด์! ปืนบู๊หงส์...
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : การพบกันของ 2 ทีมลุ้นแชมป์ในฤดูกาล 2013/14 อย่าง อาร์เซน่อล จ่าฝูงของลีก และ ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 3 ที่มีแต้มตามเพียงแค่ 2 คะแนน โดยจะเล่นกันที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม บ้านของ "เดอะ กันเนอร์ส" ในเที่ยงคืนของวันเสาร์ (2 พ.ย.) ที่จะถึงนี้

และที่ผ่านมาไม่ว่าจะกุนซือ, นักเตะ หรือแฟนๆของแต่ละทีมต่างก็ออกมาเกทับบลัฟแหลก ดังนั้นตอนนี้เลยแจงกันเป็นตำแหน่งต่อตำแหน่งไปว่าแต่ละทีมดุเด็ดเผ็ดมันอย่างไร

วอจ์เชียส เชสนี่ Vs ซิมง มินโญเล่ต์

นับเป็นมวยถูกคู่เมื่อ 2 นายทวารที่หนึบที่สุดของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลปัจจุบันต้องมาดวลกันเอง มินโญเล่ต์ นั้นเคยมีชื่อเป็นนายทวารที่ อาร์เซน่อล นั้นอยากได้มาร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายก็โดน "หงส์แดง" ฉกตัวไปในที่สุด ปัจจุบันทั้งคู่เป็นมือ 1 ของต้นสังกัดตัวเอง ที่ 9 เกมแรกผ่านไป รายของ เชสนี่ เสียไปแล้ว 9 ประตู ส่วน มินโญเล่ต์ เสีย 8 ประตู นับว่าคู่คี่สูสี

ขณะที่สถิติในการเสียประตูให้ อาร์เซน่อล นั้นนายด่านของทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์เสียแล้ว 11 ประตูจาก 10 เกมหลังสุด แต่นั่นคือสมัยที่อยู่กับ ซันเดอร์แลนด์ และในทางกลับกัน เชสนี่ ที่เพิ่งขึ้นมาเป็นตัวจริงให้กับ อาร์เซน่อล ใน 2 ฤดูกาลหลังสุดเสีย 5 ประตูให้ทีมคู่แข่งเช่นกัน ถือว่าคู่นี้ไม่ห่างกันมากเท่าใดนัก

ความแข็งแกร่งแห่งปราการเหล็ก

ทั้ง 2 ทีมต่างยังไม่เสียประตูถึงเลข 2 หลัก แม้ฤดูกาลปัจจุบันจะดำเนินมาได้ 1 ใน 4 ของทั้งหมดแล้ว การันตีได้อย่างชัดเจนว่าแนวรับของทั้ง 2 ทีมต่างแข็งแกร่ง และเหนียวแน่น ยากที่แนวรุกของคู่แข่งจะเจาะเข้าไปทำประตูได้ ฟากเจ้าบ้าน อาร์เซน่อล สร้างแผงแบ็กโฟร์ชุดใหม่แต่หน้าเก่า ประกอบด้วย คีแรน กิ๊บส์ แบ็กซ้าย, บาการี่ ซานญ่า แบ็กขวา และ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ จับคู่กับ โลร็องต์ กอสเซียลนี่ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ

ส่วนทางฝั่ง ลิเวอร์พูล มี มาร์ติน สเคอเทล จับคู่กับ โคโล ตูเร่ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ ส่วนแบ็กซ้าย โฆเซ่ เอ็นริเก้ ยังไม่ฟิตคาดว่า มามาดู ซาโก้ จะได้ยืนแทน และแบ็กขวาเป็นหน้าที่ของ "จีเจ" เกล็น จอห์นสัน ซึ่งก็ต้องบอกว่าแนวรับ "หงส์แดง" มีพัฒนาการที่เห็นได้ชัดเจนกว่า

นับว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เสริมตัวมาได้ถูกที่ถูกเวลา เพราะถ้าไม่เฉียบคมหรือไม่เจ๋งจริงก็ยากจะผ่านไปได้ ส่วน อาร์แซน เวนเกอร์ ค่อนข้างมั่นใจว่าแผงหลังชุดนี้ประสานกันได้อย่างยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตามลูก "เหวอ" ยังพอมีให้เห็นอยู่บ้าง ดังนั้นแผงแนวรับเป็นทีมเยือนที่ดูดีกว่า

ห้ำหั่น ณ แดนกลาง

น่าจะเป็นตำแหน่งที่ชี้วัดความเป็นความตายของทั้ง 2 ทีมได้อย่างแท้จริง ด้วยรูปแบบการเล่นของทั้ง 2 ทีมนั้นต่างเน้นการต่อบอลแบบเท้าต่อเท้า และการขึ้นบอลที่รวดเร็ว ฝั่งทีมเยือนนั้นนำทัพมาโดย "กัปตันจี" ที่จะประสานงานกับ ลูคัส เลว่า กองกลางแซมบ้าที่ล่าสุดถูกเรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่อีกครั้ง และอีกรายคือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่สลัดคำครหาว่าเป็น "มิดฟิลด์ยูทูป" ไปได้สนิทในฤดูกาลนี้ เท่านั้นยังไม่พอข่าวดีล่าสุดคือการได้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กลับมาฟิตสมบูรณ์ น่าจะทำให้เกมบุกแดนกลางของ หงส์แดง ดูดุดันมากขึ้น

ขณะที่ฟาก อาร์แซน เวนเกอร์ส่ง 5 กองกลางลงประชันทั้ง มิเกล อาร์เตต้า ที่พ้นโทษแบนกลับมา อาร่อน แรมซี่ย์ ที่กำลังฟอร์มร้อนแรง เมซุต โอซิล พ่อมดจอมแอสซิสท์ รวมทั้ง แจ็ค วิลเชียร์ และ ซานติ กาซอร์ล่า ก็นับว่าจัดจ้านทั้งสิ้น เนื่องจากเล่นในระบบที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่หากเทียบกันก็ยังมองว่าการเล่นบอลจังหวะเดียวของเจ้าบ้านน่าสนใจกว่า ดังนั้นโซนนี้ "ปืนใหญ่" มีชัยไปเล็กน้อย

เครื่องจักรสังหารประตู

ณ ที่นี่ผมหมายถึงกองหน้าที่เป็นความหวังของทีม ลิเวอร์พูล นั้นโดดเด่นกับคู่หู "SAS" หรือ หลุยส์ ซัวเรซ และ แดเนี่ยล สเตอริดจ์ 2 คนนี้ยิงแล้ว 14 ประตูจาก 17 ประตูที่ต้นสังกัดทำได้ใน 9 เกมลีกแรกของฤดูกาลปัจจุบัน ยิ่ง "น้องริดจ์" นั้นปัจจุบันนำเป็นดาวซัลโวของลีกสูงสุดแดนผู้ดีอยู่นับว่าอันตรายอยู่มากทีเดียว

ขณะที่ อาร์เซน่อล ปลุกชีวิต โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ จากสากกะเบือเดินได้ กลายเป็นหอกจอมเข้าฮ็อทคนเดิมเหมือนสมัยเมื่อครั้งเล่นให้ มงต์เปลลิเย่ร์ ในลีกแดนบ้านเกิด แต่ภาษิตว่า คนเดียวหัวหาย 2 คนเพื่อนตาย ดังนั้นจังหวะการเล่นที่เข้ากันอย่างเป็นธรรมชาติของคู่หอก "เรซ&ริดจ์" ดูจัดจ้านกว่า การเข้าชาร์จและการพักบอลของ ชิรูด์ อยู่พอสมควรครับ ดังนั้นยกนี้จึงให้ ลิเวอร์พูล เฉือนหวิวไป

บีอาร์ ปะทะ ดับบลิวจี

ยกสุดท้าย แต่เป็นยกสำคัญที่สุดคือเรื่องของกึ๋นที่กุนซือของแต่ละทีมนั้นมีอยู่ "บีร็อด" ถูกค่อนขอดมาตลอดฤดูกาลที่ผ่านมาว่าเป็น "คนที่ใช่ ในงานที่ชอบ" จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตามฤดูกาลนี้เขาตอบทุกคำครหาได้อย่างชัดเจนว่าการวางรากฐานของเขาตลอดฤดูกาลที่ผ่านมานั้นได้ผลิดอกออกผลเป็นที่เรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม "เจ๊แหวง" ของเหล่าขุนพลทีมเมืองหลวงคือหนึ่งในกุนซือที่ได้รับการยอมรับจากโลกลูกหนังมากที่สุดรายหนึ่งว่าเป็นขรัวเฒ่าจอมแท็กติก ที่เปี่ยมไปด้วยกลเม็ดเด็ดพรายมากมายในการทำทีม อีกทั้งการเจอกันของทั้งคู่ในนาม อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล ในช่วงที่ผ่านมานั้น ร็อดเจอร์ส ยังไม่พบกับคำว่าชัยชนะเลยแม้แต่เกมเดียว เพราะฉะนั้นยกนี้ยังถือหางข้าง เวนเกอร์ อยู่พอสมควร

พอมานั่งไล่ทีละตำแหน่ง ทีละหน้าที่ของทั้ง 2 ทีมต้องยอมรับนะครับว่าเกมพรีเมียร์ลีกนัดบิ๊กแมทช์ระหว่าง "ปืนใหญ่" กับ "หงส์แดง" นั้นค่อนข้างสูสีคู่คี่จะยากที่จะคาดเดาว่าผลการแข่งขันจะออกมาเช่นไร เพราะถ้านับจากที่วิเคราะห์มานี้โอกาสที่จะจบลงด้วยการเสมอก็มีสูงมาก

และหากผลการแข่งขันเป็นเช่นนั้นทีมที่รอรับส้มอย่าง เชลซี ก็พร้อมจะฉีกยิ้มกว้างๆทันที แต่คอลูกหนังทั้งหลายน่าจะคุ้นเคยกับคำที่ว่า "บอลลูกกลมๆอะไรก็เกิดขึ้นได้" พวกเราคงได้เพียงคอยดูกันว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างในคืนวันเสาร์นี้

อธิคม ภูเก้าล้วน เรียบเรียง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook