กกท. เร่งเดินหน้า จัดแข่งขัน “วิ่งสร้างคน คนสร้างบ้าน ชุมชนสวนยางเปิดบ้านชวน วิ่งท่อง ล่องสวนยาง” สร้างกระแสรักการออกกำลังกาย และหนุนกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬา พร้อมพัฒนาชุมชนเกษตรกรรมสวนยาง เสริมรายได้จากท่องเที่ยวเชิงกีฬาอย่างยั่งยืน
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย จัดโครงการส่งเสริมกิจกรรมกีฬาภายในจังหวัด “วิ่งสร้างคน คนสร้างบ้าน ชุมชนสวนยางเปิดบ้านชวน วิ่งท่อง ล่องสวนยาง” กีฬาวิ่งแนวใหม่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โดยเริ่มที่ จังหวัดระยอง และ จังหวัดอุบลราชธานี นำร่อง เพื่อสร้างกระแสรักสุขภาพและออกกำลังกาย พร้อมทั้งพัฒนาพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านในชุมชน ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงกีฬาอย่างยั่งยืน โดยกิจกรรมนี้จะเป็นการสำรวจและสร้างเส้นทางการวิ่งแนวใหม่ในชุมชนของเกษตรกรชาวสวนยางพารา ในพื้นที่จังหวัดเมืองรอง ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงกีฬาแห่งใหม่ ที่จะสร้างขึ้นจากความร่วมมือของชุมชนเกษตรกรชาวยางพารา
โดยมีอาสาสมัครจากในพื้นที่ชุมชน เข้ามาเรียนรู้เกี่ยวการวิ่งรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “ครอสคันทรี่” (Cross Country) การจัดการด้านความปลอดภัยในการจัดการเส้นทางการวิ่งการช่วยเหลือฉุกเฉินเบื้องต้น และความรู้ด้านการปฐมพยาบาลที่จำเป็นในการ นำไปใช้พัฒนาการจัดการแข่งขัน ด้วยความร่วมมือของคนในชุมชนเองได้อย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนให้ชาวบ้านในชุมชนเป็นเจ้าภาพที่ดี ในการรองรับนักกีฬาและท่องเที่ยว ที่จะเข้ามาทำการแข่งขันหรือมาวิ่งเพื่อสุขภาพ
พันโท รุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ การกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวถึงนโยบายการส่งเสริมการกีฬาของประเทศไทย โดยมองว่า “การกีฬาเป็นส่วนสำคัญของวิถีชีวิตประชาชนทุกภาคส่วน และเป็นกลไกสำคัญในการสร้างคุณค่าทางสังคมและส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบกับแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืนและสร้างสรรค์ ซึ่งประเทศไทยมีการเพาะปลูกยางพารา ตามข้อมูลปี 2558 เนื้อที่ปลูกรวม 928,425 ไร่ เนื้อที่ให้ผลผลิต 713,960 ไร่
โดยสถานการณ์ราคายางพาราในประเทศไทยที่ผ่านมามีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่เดือนเมษายน 2561 อยู่ในช่วงปิดกรีด ซึ่งการยางแห่งประเทศไทย คาดการณ์แนวโน้มราคายางครึ่งหลังของเดือนเมษายน 2561 คาดว่าราคายางมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น จากปริมาณยางออกสู่ตลาดน้อย ทั้งนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนเกษตรกรชาวสวนยางพารา ให้มีโอกาสสร้างรายได้จากช่องทางอื่นๆ โดยอาศัยอัตตลักษณ์ และความร่วมมือของชุมชนตนเอง
การกีฬาแห่งประเทศไทย จึงเล็งเห็นโอกาสในการสนับสนุนกิจกรรมกีฬาในจังหวัด และสร้างแหล่งท่องเที่ยงทางกีฬาที่มีความยั่งยืน ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจให้กับชุมชนและประชาชน ให้มีส่วนร่วมในการสร้างและพัฒนาการจัดกิจกรรมกีฬา ที่เน้นความสะดวก สะอาด ปลอดภัย ได้เอกลักษณ์ และยั่งยืนในอนาคต ซึ่งจากการลงพื้นที่สำรวจข้อมูลพบว่า จังหวัดระยองและจังหวัดอุบลราชธานี ยังมีพื้นที่ทางการเกษตรที่สามารถเปิดเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเมืองรองที่น่าสนใจ และยังคงรักษาไว้ซึ่งวิถีชีวิตชุมชน และไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะใช้เป็นจังหวัดนำร่อง ในการสร้างต้นแบบและสร้างแรงบันดาลใจให้กับจังหวัดอื่น ๆ ชุมชนอื่น ๆ ที่มีศักยภาพในการพัฒนาชุมชนให้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาภายในจังหวัดและแหล่งท่องเที่ยงเชิงกีฬาอย่างยั่งยืนต่อไป”
พันโท รุจ แสงอุดม กล่าวต่อว่า “การเจริญเติบโตของกิจกรรมกีฬากลางแจ้ง ในปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวและนักกีฬากว่า 19% สนใจกีฬาปีนภูเขา, 29% สนใจกีฬาปั่นจักรยาน และอีก 52% ให้ความสนใจกีฬาวิ่งทุกประเภท และในขณะนี้ประชาชนในประเทศกว่า 18 ล้านคน เริ่มหันมาสนใจกิจกรรมดังกล่าวและเริ่มทดลองเข้าร่วมแข่งขันด้วยตนเองมากกว่าการชมผ่านหน้าจอโทรทัศน์ จึงทำให้เกิดกระแสการดูแลสุขภา และรักการออกกำลังกายอย่างแพร่หลายมากขึ้นทั้งในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน อาทิเช่น มาเลเซีย, ฮ่องกง, สิงค์โปร ฯลฯ ก็ปรากฏสถิตินี้เช่นเดียวกัน”
“ปัจจุบัน เรามีนโยบายด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (sports tourism) ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ที่นิยมการออกกำลังกายพร้อม ๆ ไปกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ มากขึ้น ประกอบกับความร่มรื่นของธรรมชาติในชุมชนเกษตรกรชาวสวนยางพารา และวิถีธรรมชาติดั้งเดิมของคนในชุมชน เป็นเสน่ห์ที่สามารถดึงดูดให้เกิดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาและการท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชน ในจังหวัดได้อีกด้วย โครงการส่งเสริมกิจกรรมกีฬาภายในจังหวัด “วิ่งสร้างคน คนสร้างบ้าน ชุมชนสวนยางเปิดบ้านชวน วิ่งท่อง ล่องสวนยาง” จึงได้เริ่มขึ้น และเป็นโครงการที่จะเป็นต้นแบบในการส่งเสริมการออกกำลังกาย และพัฒนาพื้นที่ในชุมชมให้เป็น แหล่งท่องเที่ยวเชิงกีฬาอย่างยั่งยืนของจังหวัด ได้ต่อไป”
นาย ประชุม บุญเทียม ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาภูมิภาค กล่าวว่า “การกีฬาแห่งประเทศไทยพันธกิจหลักในการสนับสนุนให้ประชาชนหันมาออกกำลังกาย โดยให้ความรู้ในเรื่องสุขภาพหรือการเล่นกีฬาพื้นฐาน ส่งเสริมให้ประชาชนทุกคน มีความตระหนักถึงประโยชน์ของกีฬาและการออกกำลังกาย ตลอดจนสนับสนุนให้ชุมชนในท้องถิ่น สร้างความร่วมมือ ในการรณรงค์ให้ประชาชนในชุมชนหันมาออกกำลังกายร่วมกัน และเริ่มพัฒนาให้ชุมชนสามารถจัดกิจกรรมกีฬาที่น่าสนใจโดยชักชวนให้ประชาชนจากพื้นที่อื่นมาร่วม เพื่อพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงกีฬาระดับชุมชนต่อไป นับเป็นการสร้างความยั่งยืนให้เศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นของประเทศอีกทางหนึ่ง”
นาย ประชุม บุญเทียม กล่าวต่อว่า “ในโอกาสการเปิดสนามกิจกรรมการแข่งขันการวิ่งแนวใหม่ ที่เรียกว่า การวิ่งแบบ ครอสคันทรี ซึ่งเป็นกิจกรรมการแข่งขันกีฬาในภูมิภาค การกีฬาแห่งประเทศไทยจะเปิดรับสมัครประชาชน นักวิ่ง และนักท่องเที่ยวที่รักการวิ่ง จำนวน 800 - 1,000 คน ไม่จำกัดเพศ อายุ และเชื้อชาติ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในแต่ละสนามได้ โดยจะเริ่มที่ 2 จังหวัดแรกก่อน ดังนี้
จังหวัดระยอง จะจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 19-20 พฤษภาคม 2561 ณ โรงเรียนบ้านเขายายชุม ผ่านชุมชนบ้านเพ หมู่ที่ 1 และ7 ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง ระยะทาง โดยประมาณ 7,15,24 กม. โดยตลอดเส้นทางวิ่งผ่านชุมชน สวนยางพารา สวนผลไม้ สลับกับแนวเขายายดา ที่ร่วมรื่น สวยงาม พร้อมลิ้มลองอาหารพื้นเมือง ร่วมซื้อสินค้าจากชุมชนในท้องถิ่น มากมายและได้ร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อสังคม ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน อีกด้วย
จังหวัดอุบลราชธานี จะจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 2-3 มิถุนายน 2561 ณ ลานกิจกรรม วัดทุ่งศรีวิไล อบต.ชีทวน และอบต.ป่าหัวดอน จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นสุดยอดเส้นทาง ครอส คันทรี่ ที่สวยและน่าประทับใจที่จะนำพาผู้ร่วมกิจกรรมผ่านวิถีชุมชน 4 หมู่บ้าน 2 ตำบล ชมวิถีชุมชน ร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อสังคม ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน และถ่ายรูปการเข้าเส้นชัยกับ ขัวน้อย สะพานที่สร้างจากแรงศรัทธาของคนในชุมชน พร้อมลิ้มลองอาหารพื้นเมือง ร่วมซื้อสินค้าจากชุมชนในท้องถิ่นมากมาย” นายประชุม บุญเทียม กล่าว
นาย ทัตพงศ์ สิทธิโชค ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาจังหวัดระยอง กล่าวว่า “ในนามของจังหวัดระยอง ยินดีต้อนรับนักวิ่งและนักท่องเที่ยวทุกท่าน ทางจังหวัดได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมของเส้นทางการวิ่งที่ท้าทายความสามารถของนักวิ่งทุกท่านไว้พร้อมแล้ว จึงขอเชิญชวนนักวิ่งทุกท่านเข้าร่วมการแข่งขัน นอกจากนี้ยังได้จัดพื้นที่สำหรับจัดจำหน่ายผลไม้ที่ขึ้นชื่อของจังหวัด เช่น ทุเรียน เงาะ รวมทั้งสินค้าพื้นเมืองคุณภาพระดับ OTOP ของจังหวัด ไว้รอให้นักวิ่งและนักท่องเที่ยวทุกท่าน ร่วมจับจ่ายซื้อหาอย่างเต็มที่แล้ว”
ทางด้าน ว่าที่ร้อยตรีหญิง กาญจนา วาสนสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาจังหวัด อุบลราชธานี กล่าวว่า “จังหวัดอุบลราชธานี ในฐานะเจ้าบ้านที่จะจัดการแข่งขันในสนามที่ 2 ในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ กำลังดำเนินการเตรียมความพร้อมของเส้นทางการแข่งขันที่มีความท้าทาย และเน้นให้นักวิ่งได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตของชาวชุมชนใน จ. อุบลราชธานี โดยขณะนี้ส่วนราชการต่างๆ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และมั่นใจว่าการแข่งขัน ที่ จ.อุบลราชธานี จะมีความตื่นเต้นน่าประทับใจไม่แพ้กัน จึงขอให้นักวิ่งทุกท่านที่พลาดการแข่งขันที่จังหวัดระยองสามารถไปเข้าร่วมแข่งขันในสนามที่ จ.อุบลราชธานี ได้
ซึ่งนอกจากการแข่งขันวิ่งแล้ว จังหวัดยังได้เตรียมกิจกรรมต่าง ๆ และสินค้า OTOP ระดับจังหวัดไว้รอต้อนรับนักวิ่งและนักท่องเที่ยวทุกคน ในฐานะตัวแทนของเจ้าบ้าน ขอยืนยันว่ามีความพร้อมของสนามแข่งขันอย่างเต็มที่ และขอเชิญนักวิ่งทุกท่านเข้าร่วมการแข่งขันที่จังหวัดระยองด้วยเช่นกัน
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page : วิ่งท่อง ล่องสวนยาง