My Liverpool: หงส์แดงและเปโดร โรดริเกวซ

My Liverpool: หงส์แดงและเปโดร โรดริเกวซ

My Liverpool: หงส์แดงและเปโดร โรดริเกวซ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : เกมสำคัญที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในช่วงสุดสัปดาห์นี้จะมีผลอย่างยิ่งกับความหวังในการลุ้นแชมป์ของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ โดยทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นั้นได้พักมาเต็มๆและไม่ได้มีผู้เล่นตัวสำคัญหรือที่กำลังทำผลงานได้ดีได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมก่อนหน้าเกมในวันอาทิตย์ที่ 16 มี.ค.นี้

ชัยชนะของ เชลซี เหนือ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ เมื่อวันเสาร์ในขณะที่ทีมในกลุ่มตามอย่าง ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ได้มีโปรแกรมลงเล่นในลีกทำให้สถานการณ์นับถึงตรงนี้เป็น เชลซี ที่นำโด่งอยู่ในตารางทิ้ง ลิเวอร์พูล ไป 7 คะแนนเรียบร้อยและแม้จะแข่งน้อยกว่าทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ อยู่หนึ่งเกมแต่ ลิเวอร์พูล แทบจะหมดสิทธิ์พลาดจริงๆกับเกมที่เหลืออยู่หากพวกเขาต้องการจะกลับมาครองแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศให้ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1990

ลิเวอร์พูล เคยเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแล้วในการเจอกันเกมแรกเมื่อตอนต้นฤดูกาล ผลงานของทั้งสองทีมในฤดูกาลนี้ถือว่า ลิเวอร์พูล นั้นดูจะทำได้ดีกว่าที่เห็นได้ชัดเลยก็คือผลงานในลีก โดยนับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2014 เป็นต้นมา ลิเวอร์พูล และ เชลซี เป็นเพียงสองทีมเท่านั้นที่ยังไม่แพ้ใครนอกจากนี้พวกเขายังไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องผู้เล่นบาดเจ็บที่สร้างปัญหาให้กับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เกมรับอาจจะเป็นสิ่งที่ ร็อดเจอร์ส ต้องปรับต้องแก้กันอยู่ตลอดแต่การหายจากอาการบาดเจ็บกลับมาของ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ และ เกล็น จอห์นสัน ทำให้แนวรับของทีมมีทางเลือกในการจัดทีมเพิ่มมากขึ้น

ลิเวอร์พูล

สเตอร์ลิ่ง เร่งทำผลงานเต็มที่เพื่อให้เข้าตา รอย ฮอดจ์สัน กับการจะติดทีมชาติอังกฤษไปฟุตบอลโลก

ชัยชนะเหนือ เซาแธมป์ตัน 3-0 ถึงเซนต์ แมรี่ส์ นอกจากจะเป็นการเก็บคลีนชีตได้หนที่สองกับเกมนอกบ้านในลีกซีซั่นนี้ เรายังได้เห็น ลิเวอร์พูล ที่เกมรุกดุดันอีกครั้งนอกจากการเป็นทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุดในลีกในภาพรวมแล้วพวกเขายังยิงประตูนอกบ้านได้มากที่สุด

เมื่อดูจากสถิติและตัวเลขในฤดูกาลนี้จะเห็นว่าผู้เล่นที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในเกมรุกของ ลิเวอร์พูล มีอยู่ 4 คนด้วยกันประกอบไปด้วยกัปตันทีม สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ดาวซัลโวของลีก หลุยส์ ซัวเรซ, ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

จาก 28 เกมที่ลงเล่นไปแล้วในลีก เจอร์ราร์ด, ซัวเรซ, สเตอร์ริดจ์ และ สเตอร์ลิ่ง ช่วยกันทำประตูรวมไปแล้วกว่า 56 ประตูและยังช่วยกันแอสซิสต์ไปอีก 27 ครั้งโดยหากแยกเป็นสถิติรายบุคคลก็คงจะเห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

หลุยส์ ซัวเรซ ซึ่งฤดูกาลนี้มีโอกาสจะลุ้นทั้งดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกและดาวซัลโวของยุโรป มีสถิติที่โดดเด่นที่สุดเมื่อลงเล่นไป 23 เกม (โดนแบนไป 6 เกมช่วงต้นฤดูกาล) แต่ดาวยิงอุรุกวัยก็ยังสามารถทำไปได้ถึง 24 ประตูในลีกกับอีก 10 แอสซิสต์

ด้าน ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ซึ่งอาจจะต้องได้ดวลกันเองกับ หลุยส์ ซัวเรซ ในรอบแบ่งกลุ่มรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลกกลางปีนี้ ลงเล่นไปทั้งสิ้น 20 เกมทำไปได้ 18 ประตูกับ 5 แอสซิสต์ ตามมาด้วย สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่รับหน้าที่เป็นตัวยิงจุดโทษหลักของทีมด้วย โดยจาก 24 เกมที่ลงเล่นไปในลีกซีซั่นนี้ เจอร์ราร์ด ทำไปแล้ว 8 ประตูกับอีก 9 แอสซิสต์ ปิดท้ายด้วยน้องเล็กอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่กลับมาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอีกครั้งในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาลงเล่นไปทั้งสิ้น 24 เกมทำไปแล้ว 6 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์

ลิเวอร์พูล

แม้จะมีแนวรุกที่ลงตัวมากแล้วแต่ ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวว่าสนใจในตัว เปโดร โรดริเกวซ ของบาร์เซโลน่า 

ข่าวลือเกี่ยวกับผู้เล่นใหม่ๆยังคงมีให้ได้ติดตามกันเรื่อยๆครับเพราะยิ่ง ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้ดีก็ยิ่งทำให้พวกเขาตกเป็นข่าวกับนักเตะดังๆเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ล่าสุดมีข่าวอัพเดตจากทางสเปนว่า บาร์เซโลน่า ทีมดังจากสเปนกำลังเตรียมจะเปิดโต๊ะเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับ เปโดร โรดริเกวซ แนวรุกตัวสำคัญของทีมที่ทำไปแล้วถึง 17 ประตูจากทุกรายการแม้จะไม่ได้ลงเล่นต่อเนื่องจากนโยบายหมุนเวียนผู้เล่นลงสนามของกุนซือคนใหม่อย่าง "เอล ทาทา" เคราร์โด้ มาร์ติโน่

ทั้งนี้สัญญาของดาวเตะทีมชาติสเปนวัย 26 ปียังเหลืออยู่กับ บาร์เซโลน่า อีกถึง 2 ปีแต่ทางทีม "เจ้าบุญทุ่ม" เกรงว่าจะโดนทีมดังทีมอื่นๆจ้องฉกตัวไปโดยนอกจากลิเวอร์พูลที่มีข่าวกับ เปโดร มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วเพราะยังมี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกทีมด้วยที่ต้องการตัวของ เปโดร เช่นกัน

ว่ากันว่าในสัญญาฉบับใหม่ที่ บาร์ซ่า เตรียมยื่นให้กับ เปโดร รับไว้พิจารณานั้น ดาวเตะซึ่งขึ้นชั้นมาเป็นตัวหลักให้กับทีมชุดใหญ่ของสโมสรได้มานับตั้งแต่ปี 2009 จะได้ค่าเหนื่อยที่สูงขึ้นจากเดิมแน่นอนแต่มูลค่าของเงื่อนไขการฉีกสัญญาของเขาจะไม่ปรับเปลี่ยนไปไหนโดยจะยังคงเป็นตัวเลขที่สูงถึง 125 ล้านปอนด์

ที่ผ่านมา เปโดร ประสบความสำเร็จมากมายร่วมกับ บาร์ซ่า และ ทีมชาติสเปน โดยเขาคว้าแชมป์ ลา ลีกา มาแล้ว 4 ครั้งบวกกับแชมป์โคปา เดล เรย์ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกอย่างละ 2 ครั้งรวมเข้ากับการช่วยทีมชาติสเปนคว้าแชมป์ทั้งฟุตบอลโลกในปี 2010 และแชมป์ยุโรปสมัยที่สองติดต่อกันเมื่อปี 2012 ที่ผ่านมา

ปิดท้ายด้วยข่าวที่อาจจะไม่ได้ใหม่มากนักแต่บางท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า ลิเวอร์พูล ได้คลอดโปรแกรมบางส่วนสำหรับช่วงปิดฤดูกาลนี้ออกมาแล้วโดยพวกเขามีกำหนดจะไปร่วมแข่งขันทัวร์นาเมนต์พิเศษในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีชื่อว่า อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ โดยจะมีทีมดังระดับโลก 8 ทีมมาเตะกันตามเมืองต่างๆทั่วสหรัฐอเมริกา

สำหรับการแข่งขันรายการนี้จะแบ่งเตะเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม เอ มี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด, อินเตอร์ มิลาน และ โรม่า ส่วนกลุ่ม บี นั้นนอกจาก ลิเวอร์พูล แล้วอีก 3 ทีมในกลุ่มนี้ก็มี แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เอซี มิลาน และ โอลิมเปียกอส

โดยเกมแรกของ ลิเวอร์พูล ในรายการนี้จะเป็นการเตะกับ โอลิมเปียกอส ในวันที่ 27 ก.ค.ที่ชิคาโก้ ตามด้วยการเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 30 ก.ค.ที่นิวยอร์ก ก่อนจะปิดท้ายด้วยการเจอกับ เอซี มิลาน ที่ นอร์ธ แคโรไลน่า ในวันที่ 2 ส.ค.

มาร์ค สุรเดช

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook