เช็กบิลน้ามูหักปีกหงส์...?

ฟุตบอล : แสดงความดีใจกับ หลุยส์ ซัวเรซ ที่สามารถคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีจากสมาคมนักเตะอาชีพ มาครองได้สำเร็จหลังจากสร้างผลงานที่สม่ำเสมอมาตลอดฤดูกาลนี้
หลังจากผ่านพ้นเรื่องราวต่างๆที่สร้างเอาไว้จนโดนโทษแบนกันยาวเหยียด และเกิดอาการงอแงต้องการย้ายออกไปจากถิ่นแอนฟิลด์ ซัวเรซ วางเรื่องราวทั้งหมดไว้เบื้องหลัง
พ้นโทษแบนกลับมาด้วยภาพที่เปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองไปมาก ผนึกกำลังกับ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ผลิตสกอร์ให้กับลิเวอร์พูลมากมาย
นำโด่งเป็นดาวซัลโวของพรีเมียร์ ลีก อยู่ในขณะนี้ โดยคนที่ตามหลังมาก็คือ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ คู่ขาในแดนหน้าในทีมลิเวอร์พูลนั่นเอง
รับรางวัลกันไปเรียบร้อยก็ต้องแสดงความเสียใจกับหงส์แดงที่โยนโอกาสในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ในฤดูกาลนี้กลับไปอยู่ในมือของแมนเชสเตอร์ ซิตี้อีกครั้ง หลังจากเปิดบ้านพ่ายให้เชลซีไป 2 ประตู
ประตูได้เสียอาจจะต้องหยิบยกมาตัดสินแชมป์พรีเมียร์ ลีก อีกครั้ง ดูจากตารางแล้วเรือใบเป็นต่อมากมายถ้าเก็บชัยชนะเกมที่เหลืออยู่ของตัวเองก็เข้าป้ายได้ทันที
โจเซ่ มูรินโญ่...
กุนซือเชลซียังคงเป็นคนที่โดดเด่นและมากฝีมือในเรื่องของการวางแผนให้ลุกทีมเล่นแบบเน้นผลการแข่งขันเป็นหลัก ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่จัดการลิเวอร์พูลคาแอนฟิลด์
เกมรับ...เกมรับ...และเกมรับ...นี่คือปัจจัยที่ มูรินโญ่ ใช้ได้ผลมาตลอด นอกจากฟอร์มที่ไม่ธรรมดาของ โทมัส คาลาส ที่ทำหน้าที่ได้ดีเกินคาด ที่เหลือต้องพูดภาพรวมอย่างเดียวคือเกมรับ
ทั้ง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส และสื่อในอังกฤษชูคีย์เวิร์ดที่สำคัญในหน้าข่าว ที่ผ่านมาถ้าทีมไหนเล่นรับอย่างเดียวก็จะได้ประเด็นของคำพูดที่ว่า นำรถบัสมาจอดขวางหน้าประตู ซึ่งก็คือเล่นเกมรับอย่างเดียวนั่นเอง
ทว่า น้ามู เพิ่งได้คำใหม่ไปหมาดๆ เป็นรถบัส 2 คันจอดเรียงอยู่หน้าประตูตัวเอง เน้นเกมรับกันขนาดไหนคิดเอาเองก็แล้วกัน
ทว่านั่นเป็นเพียงคำพูดหลังเกมเท่านั้น เพราะผลการแข่งขันคือสิ่งที่ตอบสนองความเป็นจริงได้ดีที่สุด เชลซีคือผู้ชนะ เรื่องนี้ต้องยอมรับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
น้ามู ออกตัวไว้ตั้งแต่เกมที่เจอกับแอตฯ มาดริด ว่ามีข้อจำกัดมากมายในเรื่องของการเลือกตัวผู้เล่น เพราะนักเตะเจ็บพร้อมๆกันหลายต่อหลายคน
แม้เป็นชุดผสมไม่ถึงกับเด็กเต็มพรืดไปหมด แต่ได้ยุทธวิธีของกุนซือกลายเป็นของแข็งไปในพริบตา เมื่อรวมกับปัญหาของ ร็อดเจอร์ส ที่มีแผนเดียวในเกมนี้ ไม่มีแผน 2 ไม่มีนักเตะที่เป็นตัวเลือกอื่นให้พลิกเกมหรือเปลี่ยนแผนการเล่น ยิ่งทำให้แนวรับเชลซีทั้ง 10 คนปิดทางได้หมด
สตีเว่น เจอร์ราร์ด...
ถ้าจะมีใครสักคนที่เจ็บปวดรวดร้าวมากที่สุดในเกมที่ลิเวอร์พูลพ่ายคาบ้านตัวเองให้กับเชลซี คงไม่มีใครเกินหน้าเกินตา สตีเว่น เจอร์ราร์ด ไปได้เป็นอันขาด
เจอร์ราร์ด ผ่านช่วงเวลาในอาชีพค้าแข้งมาจนใกล้จะแขวนสตั๊ดอยู่แล้วโดยไม่เคยได้แชมป์พรีเมียร์ ลีก มาประดับบารมีแม้แต่ครั้งเดียว
ฤดูกาลนี้ทุกอย่างเดินทางมาใกล้ความเป็นไปได้มากที่สุด และมีการพูดจากันมากมายกับสิ่งที่ทุกคนต่างรุมเห็นด้วยที่จะได้รับความสำเร็จนี้เสียที
แพ้เชลซีนัดเดียวภาพที่เคยชัดเจนขึ้นเรื่อยๆเลือนรางไปทันตาเห็น และคนสำคัญที่ทำให้ภาพนั้นเปลี่ยนไปก็คือตัว สตีเว่น เจอร์ราร์ด เอง
ความผิดพลาดที่นำไปสู่การเสียประตูแรกให้เชลซีของกัปตันทีมลิเวอร์พูล อาจจะต้องชดใช้กันด้วยแชมป์พรีเมียร์ ลีก เลยทีเดียว
บทสรุปนาทีนี้ของหงส์แดงก็คือการใช้เครื่องช่วยหายใจ นอกจากจะต้องชนะในเกมของตัวเองแล้ว ยังต้องหวังให้เรือใบพลาดอีกด้วย
ทีมที่ลิเวอร์พูลคาดหวังว่าจะสามารถช่วยได้เป็นอย่างดีไม่ใช่ใครที่ไหน เอฟเวอร์ตัน ทีมคู่แข่งร่วมเมืองที่มีคิวเปิดบ้านกูดิสัน ปาร์ค เจอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ วันเสาร์หน้านั่นเอง
สำหรับ มานูเอล เปเยกรีนี่ และลูกทีมเรือใบ นี่คือโอกาสที่สำคัญอย่างยิ่ง เมื่อแชมป์พรีเมียร์ ลีกกลับมาอยู่ในกำมืออีกครั้งคงเน้นเป็นพิเศษไม่ปล่อยผ่าน ไม่ปล่อยให้หลุดมืออีกแล้วแม้ว่าแต่ละนัดมีโอกาสพลาดกันทุกทีมก็ตาม
จะปิดฉากกันอยู่แล้ว ปล่อยให้โอกาสเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา มันไม่มีเกมให้กลับตัวกลับใจกันอีกต่อไป ในขณะที่อันดับท้ายตารางหลังจากเกมวันอาทิตย์จบสิ้นลงไปเรียงกันตามลำดับไหล่เรียบร้อย
โอกาสที่ทั้ง 3 ทีมในตอนนี้คือนอริช,ฟูแล่มและคาร์ดิฟฟ์ จะร่วงลงสู่เดอะแชมเปี้ยนส์ ชิพชัดเจนอย่างยิ่งเมื่อดูจากโปรแกรมที่เหลืออยู่
ซันเดอร์แลนด์ถีบตัวเองขึ้นไปด้วยโมเมนตั้มที่ดีก็ไม่น่าจะพลาดและโอกาสที่จะสะสมแต้มได้อีกหน่อยยังมีอยู่แม้ว่านัดต่อไปจะต้องเยือนผีแดงก็ตาม