"โรดทูเคียฟ" ของแฟนหงส์ : คอลัมน์สนุกมือ

"โรดทูเคียฟ" ของแฟนหงส์ : คอลัมน์สนุกมือ

"โรดทูเคียฟ" ของแฟนหงส์ : คอลัมน์สนุกมือ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจาก อังเดร เชฟเชนโก้ อดีตดาวยิงเอซี มิลาน บรรจงหยิบลูกบอลเสี่ยงทายให้ เรอัล มาดริด “แชมป์เก่า” พบกับบาเยิร์น มิวนิค ส่วน ลิเวอร์พูล เจอโรม่า คู่ต่อสู้ในรอบชิงฯของพวกเขาเมื่อปี 1984 นับว่าสร้างความหวังให้กับเหล่า “แฟนหงส์” เป็นอย่างมากเพราะเลี่ยงไม่ต้องเจอทั้ง “ราชันชุดขาว” และ “เสือใต้” สองยักษ์ใหญ่

หากย้อนไปเหตุการณ์ที่ 4 สโมสรจากลีกใหญ่ทั้ง พรีเมียร์ลีก, ลาลีกา, กัลโช่ เซเรียอา และบุนเดสลีกา โคจรเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้ทั้งหมดนั้นเคยเกิดขึ้นเมื่อ ค.ศ.1981 เพียงแต่ปีนั้นเป็น อินเตอร์ มิลาน ที่พบกับมาดริด ส่วนลิเวอร์พูลเจอบาเยิร์น

ทีมจากสเปนเข้าชิงด้วยผลการแข่งขันเลกแรกชนะ 2-0 เลกที่สองแพ้ 0-1 ส่วน “หงส์แดง” ปีนั้นอยู่ในสภาพบักโกรกเพราะตัวเจ็บเพียบ ถึงขนาดต้องเข็นดาวรุ่งอย่าง โคลิน เออร์วิน เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ และกองหน้าผิวสีอย่าง ฮาเวิร์ด เกย์ล ลงสนาม เสมอทั้งสองนัด 1-1 กับ 0-0 แต่เข้าชิงได้เพราะอเวย์โกลของ เรย์ เคนเนดี้

lfff22
เหตุการณ์นี้อาจจะทำให้ “เดอะ ค็อป” อดคิดไปไม่ได้ว่า นี่จะเป็นเดจาวู เหมือนเมื่อ 37 ปีที่แล้ว เมื่อครั้งนั้น ลิเวอร์พูล ได้เข้าชิงและโค่น เรอัล มาดริด ไปได้ 1-0 จากการบุกขึ้นไปกดของ อลัน เคนเนดี้ แบ็คซ้าย คว้าถ้วยบิ๊กของยุโรปไปครองเป็นสมัยที่ 3

เที่ยวนี้จะมีโอกาสเกิดรีแมทช์ไฟนัล ลิเวอร์พูล-เรอัล มาดริด อีกครั้งหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ บริษัทรับพนันอย่างถูกกฎหมายในต่างประเทศได้วางทีมเต็งเป็นอย่างนี้ 1 เรอัล มาดริด 2 ลิเวอร์พูล 3 บาเยิร์น มิวนิค 4 โรม่า แสดงนัยว่าพวกเขาก็มองว่า “หงส์แดง” นั้นเจองานง่ายกว่า “เสือใต้” เลยหยิบยกขึ้นมาให้เป็นเต็งสองรองจาก “ชุดขาว”

ถึงขณะนี้เชื่อว่าแฟนหงส์กำลังฝันไกลไปถึงแชมป์สมัยที่ 6 ในยามที่แนวรุกของทีมอย่าง ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ฟอร์มจัดจ้านขนาดนี้ คงไม่มีทีมไหนอยากเจอพวกเขาอย่างแน่นอน

lfff33
อย่างไรก็ดีอย่าลืมว่าก่อนไปถึงนัดชิงชนะเลิศ “หงส์แดง” จำเป็นต้องผ่านโรม่า ให้ได้เสียก่อน และแน่นอนมันย่อมไม่ใช่งานง่าย เพราะทีมของ ยูเซบิโอ ดิ ฟรานเชสโก้ มีรูปแบบที่ยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนแทคติคการเล่นได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น 4-3-3, 4-3-1-2 หรือแม้กระทั่ง 3-5-2

โดยนัดที่ถล่ม บาร์เซโลน่า 3-0 นั้นพวกเขาเล่นโดยจัดกองหลังเป็น 3 คน มีวิงแบ็คโจมตีทั้งสองข้าง  แถมแดนหน้ามีสองศูนย์หน้าร่างใหญ่อย่าง แพตทริค ชิค และ เอดิน เชโก้ คอยกวนประสาทกองหลังบาร์ซ่าตลอดทั้งเกม

พูดถึง เอดิน เชโก้ แล้วก็หวาดเสียวแทนแนวรับ ลิเวอร์พูล ที่จะมัวบุกเพลินไม่ได้เป็นอันขาด ต้องเอาให้อยู่เหมือนกัน พลาดไปนี่อาจจะฝันค้างจบเส้นทางแค่รอบรองฯก็เป็นได้

ส่วนรอบชิงชนะเลิศถ้าไปถึงเคียฟจริงๆแล้ว ถึงตรงนั้นจะได้รีแมทช์ไฟนัลปี1981 หรือจะต้องเจอกับ บาเยิร์น มิวนิค ก็ไม่เห็นต้องแคร์อะไรอีก

คิดได้เลยว่า..ที่เหลือคือกำไรเพราะมาไกลเกินฝันแล้ว

ธีรพัฒน์ อัครเศรณี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook