ยังยิ้มได้ ...ในชัยชนะที่ไม่ประทับใจแฟนผี

ยังยิ้มได้ ...ในชัยชนะที่ไม่ประทับใจแฟนผี

ยังยิ้มได้ ...ในชัยชนะที่ไม่ประทับใจแฟนผี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในเมื่อเหรียญยังมี 2 ด้าน สะพานยังมี 2 ฝั่ง ความรักยังมีสมหวัง ผิดหวัง ...แล้วนับประสาอะไรกับฟุตบอลลูกกลมๆ มีลมอยู่ข้างใน อะไรก็เกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน

เกิดขึ้นในที่นี้ หมายถึงเกิดการกระชากอารมณ์ความรู้สึก ทั้งสุข เซ็ง เฮฮา ร่าเริง ปะปนกันไปทั่วท้องฟ้าเหนือหลังคา "โรงละครแห่งความฝัน" ในเกมที่ทัพ "ปีศาจแดง" ทำได้เพียงแค่เฉือนหวิวคู่แข่งที่กำลังนับถอยหลังพลังชีวิตในพรีเมียร์ลีก อย่าง เร้ดดิ้ง

แม้ว่าประตูชัยจากลูกยิงของ เวย์น รูนี่ย์ "หมูป่าสลาตัน" จะได้มาพร้อม 3 แต้มสุดล้ำค่า พร้อมเดินหน้าเข้าสู่ตำแหน่งแชมป์ลีกสมัยที่ 20 แต่หากพูดถึงรูปเกม บอกได้คำเดียวว่า "ห่วย" นะฮะ
 
การแข่งขันระหว่าง แมนฯ ยูฯ - เร้ดดิ้ง ถูกรันโปรแกรมให้ตะบันกันเป็นคู่สุดท้ายของค่ำคืนวันเสาร์ที่ 16 มี.ค. พร้อมกับความคาดหวังของแฟนบอลทั่วประเทศ (ไทย) ที่จะได้เห็นฟอร์มการโขยกประตูคู่แข่งแบบไม่ยั้ง ในเมื่อฟรีทีวีเค้าส่งตรงไปถึงบ้าน


 
อีกทั้งก่อนลงสนาม สาวก "เร้ด อาร์มี่" กระโดดดีใจเหยงๆ ย่ำไปบนความทุกข์ของทีมคู่แข่ง หลังเห็นโคตรมหาเศรษฐีระแวกบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง แมนฯ ซิตี้ พลาดท่าเสียตัว เอ้ย!! เสียทีให้กับ เอฟเวอร์ตัน ที่โชว์ไม้เด็ดจมเรือทั้งลำด้วยกำลังพลที่น้อยกว่าไปด้วยสกอร์ 2-0
 
หนำซ้ำทีม "นักบุญแดนใต้" ไม้เบื่อไม้เมาตั้งแต่ยุคตั้งไข่พรีเมียร์ลีก ยังจัดการเด็ดปีก "หงส์" ที่บินสูงติดลมบนมาซักระยะหนึ่งให้ได้รู้ว่านั่นแค่ภาพลวงตา พร้อมกับทิ่มสกอร์ 3-1 ไว้ให้เพื่อจดจำและไว้ดูต่างหน้า
 
"อิอิ" เป็นคำที่บรรยายความรู้สึกของเหล่าแฟนผีได้เป็นอย่างดี ณ ห้วงเวลานั้น และอีกข้อความอื่นๆ จะตามมาหลังจากเกมกับ เร้ดดิ้ง
 
โดยเมื่อบรรดาสาวกได้เห็นการจัดทัพชนิดกะยิงเอาตายของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แล้ว ทำให้ความมั่นอกมั่นใจยิ่งพรั่งพรูล้นปรี่ออกมาทางทวารทั้ง 9 อันได้แก่ ตา หู จมูก ปาก ทวารหนัก และอวัยวะเพศ ฮ่าๆ


 
จะไม่ให้รู้สึกออกนอกหน้าได้อย่างไรล่ะครับ ในเมื่อ "ป๋า" แกจัดกองหน้าลงพร้อมกันถึง 3 ราย ทั้ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เวย์น รูนี่ย์ และ แดนนี่ เวลเบ็ค ที่ถูกขยับออกด้านข้าง ไหนจะปีกความเร็วสูงอย่าง แอชลี่ย์ ยัง ที่พร้อมป่วนแนวรับคู่ต่อสู่ได้ทุกเมื่อ
 
ที่สำคัญไม่มีมิดฟิลด์ตัวรับธรรมชาติ หรือตัวทำลายเกมคู่แข่งลงสนามแม้แต่รายเดียว โดยท่านเซอร์เลือกที่จะใช้งาน อันแดร์สัน ในสภาพอ้วนตุ้ยนุ้ย ยืนคุมแดนกลางร่วมกับ ไรอัน กิ๊กส์ ปีกพ่อมด ทนทายาด หนังเหนียว เคี้ยวไม่เข้า ฟันไม่ออก ยิงไม่ตาย
 
แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว "ผีแดง" ชุดนี้ เล่นกันได้อย่างคำท้ายๆ ที่อยู่ในย่อหน้าที่ 3 นั่นแหละคับคุณผู้อ่าน และคิดว่าหลายคนคงคิดเช่นนั้น การต่อบอลทำเกมดูจะผิดพลาดกันง่ายๆ ในหลายๆ จังหวะ เล่นไม่เป็นธรรมชาติ เกร็งกันยังกับว่าเล่นกับยอดทีมอย่าง บาร์ซ่า
 
ยังดีที่ได้ความเก๋าระดับกองหลังเวิลด์คลาสของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่ไม่เห็นผู้เล่นในแนวรุกสร้างความปั่นให้แนวรับ เร้ดดิ้ง ได้แม้แต่น้อย เลยจัดการกระชากบอลตั้งแต่กลางสนาม เลื้อยผ่านผู้เล่นทีมเยือนยังกับเพลย์เมกเกอร์ ก่อนจ่ายให้ เวย์น รูนี่ย์ แต่งบอลสังหารประตูโทน และเป็นประตูชัยดังกล่าวเข้าไป ในนาที 21
 
และที่เหลือนอกจากนั้น แมนฯ ยูฯ แทบไม่ได้สร้างความระคายเคืองให้กับอาคันตุกะได้เลย นอกเสียจากลูกยิงไกล ทั้งเข้ากรอบบ้าง ออกหลังบ้าง แม้จะมีขุมกำลังที่เหนือกว่ามากโข


 
เครดิตในส่วนนี้ยกให้กับ เอมอนด์ โดแลน กุนซือรักษาการณ์ ที่เข้ามาทำงานแทน ไบรอัน แม็คเดอร์ม็อตต์ ที่โดนปลดไปก่อนหน้านี้ สามารถที่จะวางแผนมาได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งปิดพื้นที่ขึ้นเกมของ แมนฯ ยูฯ รวมถึงดึงขีดความสามารถผู้เล่น เร้ดดิ้ง ออกมาต่อกรกับเจ้าของสนามได้ไม่แพ้ทีมหัวตารางบางทีม
 
แต่ใช่ว่าจะเป็นแค่ทีมที่ โดแลน ยืนคุมข้างสนามซะเมื่อไหร่ เมื่อขุนพล "เดอะ รอยัลส์" ในยุคของ แม็คเดอร์ม็อตต์ กุนซือหัวเหม่งคนเก่า ก็เคยสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับเหล่าแข้ง "อสูร" มาแล้ว 2 เกมด้วยกัน
 
เริ่มจากเกมแรกที่พบกันที่ มาเดจสกี้ สเตเดี้ยม ในช่วงต้นเดือนสุดด้ายของปี 2012 เกมที่เต็มไปด้วยตื่นตาตื่นใจ บวกกับความยอดเยี่ยมของผู้เล่นแนวรุกของทั้งสองทีม และเช่นกันคือหายนะของกองหลังเลยก็ว่าได้ เมื่อมีถึง 7 ประตูด้วยกันในเวลาแค่ 34 นาทีของเกม
 
ต้องใช้คำว่ากระเสือกกระสนอยู่พอสมควร กว่าที่อดีตแชมป์ 19 สมัย จะสามารถหอบ 3 แต้มกลับเมือนแมนเชสเตอร์ จากชัยชนะหวุดหวิด 4-3


 
จากนั้นอีกเกมเมื่อไม่นานผ่านมาในเดือนแห่งความรัก ทั้งสองทีมมีคิวมาดวลแข้งกันอีกครั้งโดยมิได้นัดหมาย เมื่อผลการจับสลากประกบคู่ เอฟเอ คัพ ในรอบที่ 5 เป็นใจให้เราสองได้มาเจอกันอีกครั้งหนึ่ง ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
 
แน่นอนว่า แมนฯ ยูฯ เป็นทีมที่ได้ไปต่อ โดยกว่าที่จะได้ประตูขึ้นนำ ต้องรอนานถึงช่วง 20 นาทีสุดท้ายของเกมที่เต็มไปด้วยความอึดอัดอีกครั้ง ในชัยชนะเฉือนๆ ด้วยสกอร์ 2-1
 
น่าจะเป็นที่พอเข้าใจกันบ้างแล้วนะครับ ว่าทำไม 3 แต้มที่ได้มาจากเกมล่าสุดที่ดูจะไม่ประทับใจคุณผู้ชมเท่าที่ควรนั้น มันที่ประวัติศาสตร์ และที่ไปที่มา จากอดีตกาลเมื่อไม่นานมานี้ ว่า เร้ดดิ้ง สามารถต่อกรกับยอดทีมของลีกได้ไม่อายใคร
 
แม้ว่าจะทำได้เพียงแค่เฉือนหวิวกับทีมที่ดิ้นรนหนีการตกชั้นสุดขีดอย่าง เร้ดดิ้ง แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ 3 แต้มอย่างที่ได้กล่าวมา พร้อมกับความอ่อนกำลังลงทีละน้อย ทีละน้อย ของคู่แข่งแย่งแชมป์
 
ซึ่ง ณ ตอนนี้ แมนฯ ยูฯ หนีห่าง แมนฯ ซิตี้ ไปแล้ว 15 คะแนน กับอีก 9 เกมที่เหลือ เหล่าสาวก "ปีศาจแดง" เตรียมตัดชุดฉลองแชมป์ไว้ได้เลย

 
- จ่าตุ๊ -
(tuta_giggs11@hotmail.com)

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook