อยู่หัวตารางแท้ๆ แต่ ‘กดดัน'

อยู่หัวตารางแท้ๆ แต่ ‘กดดัน'

อยู่หัวตารางแท้ๆ แต่ ‘กดดัน'
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : ระหว่างกำลังนั่งมึนๆ เพราะวันศุกร์ที่ผ่านมาผมเจอคิวจัดรายการให้ "ฮอตสกอร์ ทีวี" ถึง 3 รายการ: ทันเกมส์@TNN24 ตอนตี 5 - ตี 5 ครึ่ง และบ่ายโมงครึ่ง - บ่ายสอง ก่อนจะไปจบที่ Sports Insight ทาง T Sports เวลา 2 - 3 ทุ่ม แล้วมานั่งปั่นงานชิ้นนี้

ระหว่างวัน ผมนึกถึงประเด็นที่อยากเขียนไปด้วยพร้อมๆ กันก่อนคิดว่า 1.ความกดดันของกุนซือหัวตารางอันดับ 2, 3 และ 5 มีมากแบบเหลือเชื่อ และ 2.การชิงชัยอันดับ "ท็อปโฟร์" ไปเตะ UCL ก็ดูเหมือนจะเข้มข้นขึ้นไม่แพ้กันในเวลาที่เหลืออีก 12 แมตช์เท่านั้น น่าจะเป็น "ประเด็น" วันนี้ของผม

ประเด็นแรก เหมือนเรื่อง "ตลก" นะครับที่ โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือแมนฯซิตี้ที่รั้งอันดับ 2 ตามหลังจ่าฝูง แมนฯยูฯ 12 แต้มแถมยังเป็น "แชมป์เก่า" ต้องมาเคลียร์ตัวเองจากเก้าอี้ร้อนๆ

เช่นกัน ราฟาเอล เบนิเตซ คงได้แต่ "ตบไหล่" ขอบคุณ เอด็อง อาซาร์ ที่ช่วยยิงประตูตีเสมอ สปาร์ต้า ปราก ท้ายเกม และทำให้เกม ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้ายไม่ต้องยืดเยื้อ หรือมีเซอร์ไพรส์ๆ ในบ้านตัวเอง

มากกว่านั้น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็ยังคงสมญานาม "นรกเจ้าบ้าน" หาใช่ "นรกทีมเยือน" เพราะป้ายสดุดี โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ และสรรเสริญบุพการี ราฟา ก็ยังคงมีอยู่ต่อไปชนิดไม่รู้สึกเจ็บปวดก็คงไม่ได้

ดังนั้น แมตช์ "ซูเปอร์ซันเดย์" คู่เอกพรีเมียร์ลีก สุดสัปดาห์นี้จึงไม่น่าเป็น "ของแสลง" เกินไปสำหรับ ราฟาเอล เบนิเตซ ที่จะต้องพาทีมบุกเอติฮัด สเตเดี้ยม เพราะใน "บางมุม" ยังไงๆ ก็ดีกว่าถูกสาปแช่งในบ้าน

ติ๊ต่างว่า แมนฯยูไนเต็ด บุกไปชนะคิวพีอาร์ถึงลอนดอน ลอฟตัส โรด ได้ตามเป้า แต้มของพวกเค้าจะหนีห่างแมนฯซิตี้ไปก่อน 15 แต้ม

เมื่อนั้น เกมกับเชลซีจะยิ่ง "น่าเสียว" สำหรับสถานการณ์ไม่สู้ดีอยู่แล้วของ มันชินี่ ขณะที่หากแมนฯยูฯ ไม่ชนะ กุนซืออิตาเลียนก็คงกดดันอยู่ดีไม่แพ้ ราฟาเอล เบนิเตซ

เช่นกันครับ อาร์เซนอลได้เตะใน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม หลังตกรอบ UCL รอบ 16 ทีมสุดท้ายแล้วเกินครึ่งตัวในช่วงเวลาที่ อาร์แซน เวนเกอร์ เองก็ถูกกดดันอย่างหนัก และเป็นข่าวไม่เว้นแต่ละวัน

ล่าสุด ทีมปืนใหญ่มีแต้มตาม สเปอร์ส ในอันดับ 4 อยู่ 4 คะแนน และเวนเกอร์ก็เพิ่งประกาศไปว่า ไม่ต้องมาถามเรื่องอนาคตอีก เพราะเค้าจะอยู่ครบเทอมอีก 18 เดือนตามสัญญาที่ยังเหลืออยู่แน่นอน

ขณะที่ วิลล่า ซึ่งชนะเกมเยือนในซีซั่นนี้แค่ 2 แมตช์ (1 ในนั้น คือ ลิเวอร์พูล) ก็ประมาทไม่ได้ เพราะลูกทีมวัยรุ่นของ พอล แลมเบิร์ต เล่นดี แต่ขาดแค่ "ความนิ่ง" ท้ายเกม ทว่ากำลังใจมาเพราะเพิ่งชนะเวสต์แฮมมาได้ในเกมที่ผ่านมา 2-1

ดังนั้น หลังจากผลงานใน UCL ที่ไม่ดี และตกรอบ เอฟเอ คัพ แบบพลิกความคาดหมาย กุนซือเวนเกอร์ต้องทำทุกวิถีทางให้ลูกทีมจบ "ท็อปโฟร์" และไปเตะฟุตบอลถ้วยยุโรปลีกสูงสุดให้ได้

ทั้งนี้ ตลอด 15 ซีซั่นที่ผ่านมา อาร์เซนอลไม่เคยพลาดการแข่งขันรายการ UCL และก็เป็นเวนเกอร์เองที่แสดงความเห็นได้ "ขัดแย้ง" กับแฟนๆ ด้วยการบอกว่า จบ "ท็อปโฟร์" สำคัญกว่าชนะ "บอลถ้วย"

ที่ผ่านมา แฟนๆ ปืนโต ยอมกล้ำกลืนไม่ค่อยได้ไปเวมบลีย์อย่างที่ควรจะเป็น แต่ก็ยังมีลุ้นบ้างในส่วน "ท็อปโฟร์" ฉะนั้นหากปีนี้ "แห้วหมด"

ซีซั่นหน้า หรือปีสุดท้ายของ เวนเกอร์กับทีมจะยิ่งเป็นปีที่น่าติดตาม

โดยนอกเหนือจาก ปืน และไก่แล้ว ทอฟฟี่ และหงส์ ก็อยู่ในเส้นทางการลุ้น "ท็อปโฟร์" กับเค้าด้วยเหมือนกัน และคงลุ้นกันมันหยดในสัปดาห์ที่หงส์แดงไม่มีโปรแกรม ขณะที่เอฟเวอร์ตัน จะบุกเยือนนอริช

ความสำคัญของ "ท็อปโฟร์" นอกจากเงินเน็ตๆ อย่างต่ำ 25 ล้านปอนด์แล้ว การไม่ได้เข้าร่วมยังมีเอฟเฟกต์ตามมามากมาย เช่น ที่หลุยส์ ซัวเรซ กำลังถูกเล็งจากทั้งบาเยิร์น มิวนิค และแมนฯซิตี้

โทษฐานที่หงส์แดงแต้มห่างจากสเปอร์ส 9 แต้มเข้าไปแล้ว และทำท่าจะหมดลุ้นหลังจากตกรอบฟุตบอลถ้วยทุกรายการตั้งแต่ยังไม่จบเดือน ก.พ.

ครับ ประเด็นฟุตบอลสัปดาห์นี้มีเยอะ และยังมีส่วนลุ้นหนีตายอีก แต่สำหรับผมแล้ว 2 พอยต์ที่คัดมาวันนี้ คิดว่า "โดนสุด" แล้วล่ะครับ...

เรื่องโดย "Kai Muk Dum"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook