5 เรื่องต้องรู้ "เรือใบ" ถล่ม "ปืน" แตก เกมคาราบาวคัพ นัดชิงฯ
ทำได้สำเร็จจนได้สำหรับเป๊ป กวาร์ดิโอลาและถ้วยใบแรกของเขากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยฟอร์มเกมรุกอันยอดเยี่ยมที่บุกใส่แนวรับของอาร์เซนอลจนหายใจไม่ทัน
ไหนจะความเหนียวเแน่นของ แว็งซ็องต์ ก็อมปานี และ นิโคลาส โอตาเมนดี กล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าพวกเขาเหมาะสมแล้วที่จะได้ชูถ้วยใบนี้
แต่นอกจากการคว้าถ้วยมาครองของแมนเชสเตอร์ ซิตี้แล้ว มันยังมีประเด็นอื่น ๆ ที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน และในวันนี้ผมได้รวบรวมมาให้คุณผู้อ่าน 5 ข้อด้วยกันครับ จะเป็นอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันต่อได้เลย
5. กรุยทางสู่ถ้วยยุโรป
อย่างที่ได้เกริ่นไปแล้วว่านี่คือถ้วยใบแรกของเป๊ป กวาร์ดิโอลาบนผืนแผ่นดินอังกฤษ
ลูกทีมของกวาร์ดิโอลาไม่ทำให้ผู้เป็นโค้ชต้องผิดหวัง หลังไล่อัดอาร์เซนอลได้ถึง 3 ประตูด้วยกัน พวกเขาเริ่มเกมอย่างช้า ๆ ก่อน ดูทรงบอลอาร์เซนอลไปเรื่อย ๆ และเมื่อเห็นช่อง พวกเขาจึงรีบประเคนใส่ทันที
ลูกแรกที่พวกเขาได้มาจากการสาดยาวของเคลาดิโอ บราโบจากหน้าประตู ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นของมุสตาฟี เขาไม่ควรหยุดเล่นไปอย่างนั้น แต่การยิงของอเกวโรก็เหนือชั้นสุด ๆ ไปเลยเช่นกัน และมันก็สมแล้วที่ชายคนนี้จะเป็นผู้ยิงประตูคนแรกของนัดชิงฯ
แมนฯ ซิตี้ ทำได้ดีกว่ามากในครึ่งหลัง 2 ประตูต่อจากนั้นเป็นการต่อบอลที่แม่นยำของพวกเขา ในขณะที่ผู้เล่นอาร์เซนอลมองบอลยังไม่ทันด้วยซ้ำ ฟอร์มการเล่นแบบนี้แหละคือสิ่งที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้และเป๊ป กวาร์ดิโอลาต้องการ หากคิดจะเป็นใหญ่ต่อไปในถ้วยยุโรป
4. ของแสลงของเวนเกอร์ ถ้วยลีกคัพคงไม่ใช่ของคู่กันกับอาร์เซน เวนเกอร์
เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่อาร์เซนอลภายใต้การคุมทีมของเขาต้องแพ้ให้กับคู่แข่งในนัดชิงฯ ต้องเดินคอตกออกมาจากเวมบลีย์
ถ้วยนี้ยังเป็นถ้วยในประเทศเพียงใบเดียวที่เวนเกอร์ยังคว้ามาไม่ได้ และเมื่อพิจารณาจากโอกาสที่อาร์เซนอลจะไม่ได้ถ้วยอะไรติดมือกลับบ้านในปีนี้ซักถ้วยแล้ว แถมพวกเขาน่าจบด้วยอันดับต่ำกว่า 4 แน่ ๆ เวนเกอร์น่าจะทำโอกาสสุดท้ายที่เขาจะคว้าถ้วยใบนี้กับอาร์เซนอลหลุดมือไปซะแล้ว
3. ก็อมปานีคือผู้นำในอุดมคติ ก็อมปานีอาจจะเริ่มแก่แล้ว และสังขารเขาก็เริ่มจะไม่อำนวย แต่ความสามารถและศักยภาพของเขาคือทุกสิ่งที่กัปตันทีมควรมี และเป็นสิ่งที่เพื่อนร่วมทีมทุกคนต้องการ
เป๊ปเฝ้าระวังอาการบาดเจ็บของแว็งซ็องต์อย่างใกล้ชิด เขาไม่รีบร้อนเอาแว็งซ็องต์ลงสนาม รอให้เขาหายจากอาการบาดเจ็บจนเต็ม 100 เสียก่อน ยอมถึงขั้นเสียเงินไปเป็นหลักร้อยล้านกับการหาตำแหน่งกองหลังมาถมที่ของเขา
และเมื่อก็อมปานีหายดีกลับมา เขาก็ทำให้ทุกคนได้เห็นว่ากองหลังกัปตันทีมคนนี้คุ้มค่าแก่การให้รอเป็นที่สุด
การชนโอบาเมยองในเขตโทษเป็นอะไรที่อาจจะเลวร้ายกว่านี้หากเป็นสโตนส์หรือลาปอร์เต และการขึ้นเติมเกมรุกนั่นอีก ประตูที่ 2 ของเกมก็มาจากก็อมปานีคนนี้นี่แหละ
2. อาร์เซนอลกับราคาที่ต้องจ่าย
อาร์เซนอลจ่ายค่าตัว 35 ล้านปอนด์ ให้บาเลนเซียตอนที่คว้าตัวชโคดราน มุสตาฟีมา เช่นเดียวกันกับกรณีของกรานิต ชาคาที่อาร์เซนอลต้างจ่าย 35 ล้านปอนด์ ให้โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค
แต่นั่นยังเทียบไม่ได้เลยกับความผิดพลาดของทั้ง 2 คนในเกมนี้
มุสตาฟีน่ะเดาได้ไม่ยากเลย เขาควรทำได้ดีกว่านี้ในการรับมือกับลูกเปิดโด่งของเคลาดิโอ บราโบ และการเสียตำแหน่งของเขาทำให้ทีมต้องเสียประตูขึ้นนำ
ส่วนในกรณีของชาคา เขาปล่อยให้แผงกลางซิตี้มีพื้นที่เล่นมากเกินไป วิ่งทำให้ทีมเสียประตูเพิ่มในครึ่งหลัง ถึงแม้จะช่วยทีมได้บ้างในเรื่องการจ่าย แต่มันก็ยังไม่ดีพอ
ทั้ง 2 คนยังต้องพิสูจน์ตัวเองมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นก็อาจจะถูกแย่งตำแหน่งในซัมเมอร์หน้าก็เป็นได้ โดยเฉพาะเมื่อเวนเกอร์ไม่อยู่แล้วน่ะนะ
1. ใครไม่เชียร์ วิลเชียร์ แทบจะเป็นปกติไปแล้วสำหรับอาร์เซนอล เมื่อพวกเขารู้ตัวว่าแพ้แน่ ๆ พวกเขาจะถอดใจเสมอ คุณจะเริ่มเห็นเออซิลเดินเอื่อย ๆ ชาคาเริ่มยิ่งไกลแบบบ้าบอ หรือการส่งบอลแบบสะเปะสะปะ หาที่มาที่ไปไม่ได้
แต่มันไม่ใช่กับแจ็ค วิลเชียร์
ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกขนานนามว่าอนาคตของทีมชาติอังกฤษ จนปัจจุบันเขาถูกเรียกใหม่ว่าเป็นของไม่จริง แต่ไม่มีแมตช์ในฤดูกาลนี้ที่วิลเชียร์แสดงให้เห็นถึงความท้อแท้ เขาบุกใส่คู่ต่อสู้ด้วยแรงเต็มร้อย เขาวิ่งห้อไม่มีหยุดไม่ว่าจะรุกหรือรับ และในขณะทีมกำลังตามหลัง เขาเกือบจะเรียกใบเหลือที่ 2 ให้แฟร์นันดินโญได้ด้วยซ้ำ
ในวันที่อาร์เซนอลเล่นไม่ได้เรื่อง เขานี่แหละที่ยังทำให้แฟนบอลยังเชียร์ทีมต่อไปจนหมด 90 นาที