วิเคราะห์บอล : เชลซี - แมนฯ ยูไนเต็ด
เวลา : 02.45 น.
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน
ถ่ายทอดสด : ช่อง 9
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
เชลซี
28 ต.ค. 55 แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-3 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
23 ต.ค. 55 แพ้ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ 1-2 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ลีก
20 ต.ค. 55 ชนะ สเปอร์ส 4-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
6 ต.ค. 55 ชนะ นอริช 4-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
2 ต.ค. 55 ชนะ นอร์ดเยลลันด์ 4-0 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ลีก
แมนฯ ยูไนเต็ด
28 ต.ค. 55 ชนะ เชลซี 3-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
23 ต.ค. 55 ชนะ บราก้า 3-2 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ลีก
20 ต.ค. 55 ชนะ สโต๊ค 4-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
7 ต.ค. 55 ชนะ นิวคาสเซิล 3-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
2 ต.ค. 55 ชนะ คลูจ์ 2-1 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ลีก
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
28 ต.ค. 55 พรีเมียร์ลีก เชลซี 2-3 แมนฯ ยูไนเต็ด
5 มี.ค. 55 พรีเมียร์ลีก เชลซี 3-3 แมนฯ ยูไนเต็ด
18 ก.ย. 54 พรีเมียร์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 เชลซี
8 พ.ค. 54 พรีเมียร์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด 2 - 1 เชลซี
12 เม.ย. 54 แชมเปี้ยนส์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด 2 - 1 เชลซี
6 เม.ย. 54 แชมเปี้ยนส์ลีก เชลซี 0 - 1 แมนฯ ยูไนเต็ด
ความพร้อม-สภาพทีม
เชลซี
จอห์น เทอร์รี่ ยังคงอยู่ระหว่างการใช้โทษแบน ส่วน บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ก็โดนพักแข้งไปอีกคนจากใบแดงในเกมล่าสุด ทำให้ แกรี่ เคฮิลล์ กับ ดาวิด หลุยซ์ จะจับคู่กันในตำแหน่งปราการหลังตัวกลางเช่นเดิม โดยมี เซซาร์ อัซปิลิกูเอต้า ได้ลงมายืนแบ็กขวาบ้าง ส่วนแบ็กซ้ายน่าจะโรเตชั่นเอา ไรอัน เบอร์ทรานด์ ลงมา และให้ แอชลี่ย์ โคล ได้พัก
โอริโอล โรเมอู คงจะได้ลงมาเล่นในแดนกลางบ้าง แต่ แฟรงค์ แลมพาร์ด ยังต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บที่น่องต่อไป โดยเกมนี้นักเตะสำรองอย่าง วิคเตอร์ โมเซส และ มาร์โก มาริน น่าจะได้ลงมาเป็นตัวขึ้นเกมริมเส้นบ้าง โดย ลูคัส เปียซอน อาจจะมีลุ้นได้ลงมาทำเกมอีกคน ขณะที่ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ คงจะได้ลงยืนเป็นหัวหอกตัวเป้าบ้าง เพราะ เฟร์นานโด ตอร์เรส เป็นอีกคนที่ติดโทษแบนในเกมนี้
ส่วนตำแหน่งปราการด่านสุดท้ายก็จะเป็นหน้าที่ของ รอสส์ เทิร์นบูลล์ นายประตูมือสอง เพื่อให้ ปีเตอร์ เช็ก ได้พักบ้าง
ผู้เล่นบาดเจ็บ : แฟรงค์ แลมพาร์ด
ผู้เล่นโดนแบน : จอห์น เทอร์รี่, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, เฟร์นานโด ตอร์เรส
ความพร้อม-สภาพทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด
ผีแดงอาจจะปรับแนวรับแบบยกแผงในเกมนี้ โดยส่งดาวรุ่งและสำรองลงเล่นในแผงแบ็กโฟร์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น มาร์นิค เวอร์มิล, ไมเคิล คีน, สก็อตต์ วู้ตตัน และ อเล็กซานเดอร์ บุตต์เนอร์ ส่วน อันเดอร์ส ลินเดการ์ด ก็น่าจะได้ลงมาเฝ้าเสาแทน ดาวิด เด เกอา ด้วย
ขณะที่แดนกลางมีนักเตะในทีมชุดใหญ่ที่รอลงสนามอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น อันเดอร์สัน, ไรอัน กิ๊กส์, พอล สโคลส์ และ นิค พาวล์ ส่วนตัวริมเส้นก็มี นานี่ ที่หวังได้โอกาสลงลากเลื้อยบ้าง หลังหลุดไปนั่งสำรองมาตลอดหลายนัดหลัง
ส่วนแนวรุกคงจะพักตัวหลักอย่าง เวย์น รูนี่ย์ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เอาไว้ ทำให้ แดนนี่ เวลเบ็ค และ ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ น่าจะมีลุ้นได้ลงเล่นเป็นตัวจริงบ้าง โดยมี อันเจโล เฮนริเกซ และ กิโก้ มาเคด้า รอโอกาสอยู่เช่นกัน
ผู้เล่นบาดเจ็บ : ชินจิ คางาวะ, คริส สมอลลิ่ง, ฟิล โจนส์, เนมานย่า วีดิช
วิเคราะห์รูปเกม
ศึกล้างตาของสองคู่ปรับที่เพิ่งดวลแข้งกันมาอย่างสุดดราม่าในเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์มาถึงอย่างรวดเร็ว แต่คงจะเป็นการมอบหมายหน้าที่ให้กับทีมชุดสองลงไปห้ำหั่นกันในครั้งนี้ เชลซีในฐานะเจ้าบ้านน่าจะมีโอกาสทำเกมบุกได้มากกว่า และสร้างปัญหาให้แนวรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ไม่น้อย แม้แดนกลางผีแดงน่าจะมีตัวเก๋าลงประคองเยอะ แต่ก็คงต้องหนักใจในการเจอกับตัวจี๊ดๆ ของสิงห์บลูส์ เกมนี้ทั้งสองทีมคงลงเตะแบบกดดันทั้งคู่ แต่เจ้าถิ่นน่าจะมีฮึดกว่าและน่าจะล้างตาได้สำเร็จ
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม :
เชลซี (4-3-3) : รอสส์ เทิร์นบูลล์; เซซาร์ อัซปิลิกูเอต้า, แกรี่ เคฮิลล์, ดาวิด หลุยซ์, ไรอัน เบอร์ทรานด์; โอริโอล โรเมอู, รามิเรส; วิคเตอร์ โมเซส, ลูคัส เปียซอน, มาร์โก มาริน; แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
ผู้จัดการทีม : โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-4-2) : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด; มาร์นิค เวอร์มิล, ไมเคิล คีน, สก็อตต์ วู้ตตัน, อเล็กซ์ บุตต์เนอร์; นานี่, อันเดอร์สัน, นิค พาวล์, ไรอัน กิ๊กส์; แดนนี่ เวลเบ็ค, ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ
ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ฮอตสกอร์ : เชลซีชนะ 2-1