เรอัล มาดริด - แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เวลา: 01.45 น.
สนาม: ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว
ผู้ตัดสิน: ดาเมียร์ สโคมิน่า (สโลวีเนีย)
ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 1
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
มาดริด
15 ก.ย. 55 แพ้ เซบีญ่า 0-1 (เยือน) ลา ลีกา
2 ก.ย. 55 ชนะ กรานาด้า 3-0 (เหย้า) ลา ลีกา
29 ส.ค. 55 ชนะ บาร์เซโลน่า 2-1 (เหย้า) ซูเปอร์โคปา
26 ส.ค. 55 แพ้ เกตาเฟ่ 1-2 (เยือน) ลา ลีกา
23 ส.ค. 55 แพ้ บาร์เซโลน่า 2-3 (เยือน) ซูเปอร์โคปา
แมนฯ ซิตี้
15 ก.ย. 55 เสมอ สโต๊ค 1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
1 ก.ย. 55 ชนะ ควีนส์ปาร์ค 3-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
26 ส.ค. 55 เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
19 ส.ค. 55 ชนะ เซาแธมป์ตัน 3-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
12 ส.ค. 55 ชนะ เชลซี 3-2 (กลาง) คอมมูนิตี้ ชิลด์
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
ไม่เคยพบกัน
ความพร้อม-สภาพทีม
เรอัล มาดริด
ราชันชุดขาวพร้อมใช้งานนักเตะชุดฟูลทีมได้ในเกมนี้ และน่าจะมีสองสามตำแหน่งหลักที่ โจเซ่ มูรินโญ่ ต้องตัดสินใจว่าจะส่งใครลงเล่น นอกจากนั้นน่าจะเป็นนักเตะตัวหลักๆ เหมือนเดิม แม้ผลงานในลีกฤดูกาลนี้จะค่อนข้างน่าผิดหวังก็ตาม
ในแนวรับ ฟาบิโอ โคเอนเทรา ต้องรอลุ้นว่าจะเบียดแย่งตำแหน่งมาจากมาร์เซโล่ได้หรือไม่ ส่วนที่เหลือในแผงแบ็กโฟร์คงเป็นหน้าเดิมๆ อย่างอัลบาโร่ อาร์เบลัว, เซร์คิโอ รามอส และเปเป้ ขณะที่ชาบี้ อลอนโซ่กับซามี่ เคดิร่าก็น่าจะจับคู่เป็นมิดฟิลด์ตัวกลางต่อไป
คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ปีกซูเปอร์สตาร์ จะยังเป็นกำลังสำคัญของทีมในการขึ้นเกมรุกทางฝั่งซ้าย แม้เจ้าตัวจะประกาศความไม่แฮปปี้กับทีมอย่างออกนอกหน้า ส่วนอีกตำแหน่งน่าจะเป็นหน้าที่ของเมซุต โอซิล โดยที่ ลูก้า โมดริช เพลย์เมกเกอร์ตัวใหม่ อาจจะได้โอกาสลงแล่นเป็นตัวจริงบ้าง ซึ่งคงจะทำให้ อังเคล ดิ มาเรีย ต้องหลุดไปนั่งสำรอง เช่นเดียวกับกาก้าที่ไม่อยู่ในแผนในปีนี้
ส่วน คาริม เบนเซม่า อาจจะได้กลับมายืนเป็นหัวหอกตัวเป้าบ้าง แม้ว่าปีนี้จะถูกกอนซาโล่ อิกวาอิน เบียดแย่งตำแหน่งไปได้ในเกมลีกนัดที่ผ่านๆ มาก็ตาม
ความพร้อม-สภาพทีม
แมนฯ ซิตี้
เรือใบสีฟ้าใส่ชื่อ เซร์คิโอ อาเกโร่ ดาวยิงตัวเก่ง ไว้ในทีมชุดนี้ด้วย หลังฟิตกลับมาจากปัญหาที่หัวเข่าแล้ว แต่ยังต้องรอการตัดสินใจของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ว่าจะส่งเขาลงเล่นเป็นตัวจริง หรือจะเก็บไว้ใช้เป็นตัวซูเปอร์ซับกันแน่ แต่คาร์ลอส เตเบซ น่าจะเป็นหนึ่งในกองหน้าตัวหลักเช่นเดิม โดยมี มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่กลับมาเล่นเป็นตัวจริงได้ในนัดก่อน และ เอดิน เชโก้ เป็นอีกสองตัวเลือกในแนวรุก
ในแดนกลางก็ได้ แกเร็ธ แบร์รี่ ฟิตกลับมาลงเล่นเป็นตัวสำรองได้ในนัดล่าสุด และเกมนี้ต้องลุ้นว่าจะเบียดแย่งตำแหน่งมาจาก ฆาบี้ การ์เซีย ซึ่งประเดิมสนามด้วยการทำประตูได้ในเกมที่แล้วหรือไม่ โดยมีเจมส์ มิลเนอร์เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะได้ลงเล่นคู่กับยายา ตูเร่ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง ส่วน แจ๊ค ร็อดเวลล์ อาจจะยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อยจากปัญหาที่เข่า
ดาวิด ซิลบา ที่ถูกพักไว้เป็นตัวสำรองในเกมลีก น่าจะได้กลับมาเป็นตัวจริงในแกมนี้อีกครั้ง ส่วนไมคอน แบ็กขวาตัวเก๋าชาวบราซิล คงจะได้ลงเล่นต่ออีกนัด เพราะ ปาโบล ซาบาเลต้า ยังมีปัญหาที่แฮมสตริง ส่วนไมกาห์ ริชาร์ดส์ ก็ยังไม่ฟิตกลับมาจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า
ผู้เล่นบาดเจ็บ: แจ๊ค ร็อดเวลล์, ปาโบล ซาบาเลต้า, ไมกาห์ ริชาร์ดส์
วิเคราะห์รูปเกม
มาดริดออกสตาร์ตฤดูกาลนี้ได้ย่ำแย่เกินคาด โดยแพ้ไปแล้วถึง 2 จาก 4 นัดแรกในลา ลีกา ทำให้คงต้องหวังใช้เกมยุโรปนัดนี้เป็นจุดเปลี่ยนให้กับทีม แต่ก็ดันมาเจอของแข็งอย่างแมนฯ ซิตี้ พอดี แต่ด้วยศักดิ์ศรีและดีกรีที่เหนือกว่า บวกกับการหว่านเงินซื้อซูเปอร์สตาร์มาเสริมทัพไม่น้อยหน้ากัน นัดนี้น่าจะสู้กันสนุกแน่ ทีมเยือนที่กระดูกยังอ่อนในการลงเตะรายการนี้เมื่อปีก่อน น่าจะสั่งสมประสบการณ์ไปได้พอสมควร และปีนี้น่าจะกลับมาอย่างแข็งแกร่งขึ้น แต่มาเล่นในถิ่นซานติอาโก้ เบอร์นาบิว ยังไงก็หินแน่นอน นัดนี้เจ้าบ้านยังน่าจะเฉือนชนะไปได้อย่างสนุก
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:
เรอัล มาดริด (4-2-3-1): อิเคร์ คาซิยาส; อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เซร์คิโอ รามอส, เปเป้, มาร์เซโล่; ชาบี้ อลอนโซ่, ซามี่ เคดิร่า; เมซุต โอซิล, ลูก้า โมดริช, คริสติอาโน่ โรนัลโด้; คาริม เบนเซม่า
โค้ช: โจเซ่ มูรินโญ่
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1): โจ ฮาร์ท; ไมคอน, แว็งซ็องต์ กอมปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, กาเอล กลิชี่; แกเร็ธ แบร์รี่, ยายา ตูเร่; ดาวิด ซิลบา, คาร์ลอส เตเบซ, ซาเมียร์ นาสรี่; เซร์คิโอ อาเกโร่
ผู้จัดการทีม: โรแบร์โต้ มันชินี่
ฮอตสกอร์: เรอัล มาดริดชนะ 3-2