ต้นเกม ทีมชาติไทยยังสามารถต้านเกมบุกของ อาซูลกราน่า ได้ดี แต่จนกระทั่ง น.12 ทัพต่างดาว ก็มาได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะต่อบอลขึ้นมาขึงหน้าเขตโทษ เชส ฟาเบรกาส ได้บอลทางฝั่งซ้ายก่อนตบเข้ากลางให้ เนย์มาร์ จิ้มเข้าประตูไป ถัดมาสองนาที เมสซี่ โดน อาทิตย์ ดาวสว่าง กระแทกล้มในเขตโทษ ชัยยะ มหาปราบชี้เป็นจุดโทษทันที และเป็นสตาร์อาร์เจนไตน์ที่ลุกขึ้นมาสังหารเองไม่พลาด บาร์ซ่านำ 2-0 สกอร์ไหล 3-0 ใน น.19 เนย์มาร์ พาบอลขึ้นทางฝั่งขวาก่อนจ่ายให้ เมสซี่ แตะต่อถึง เปโดร กดด้วยขวาบอลพุ่งเสียบเสาแรกเข้าไป น.26 เมสซี่ ก็มายิงลูกที่สองของตนเองจากการถวายพานของ อาเดรียโน และเป็นประตู 4-0 ของผู้มาเยือน แชมป์ลาลีกา ยังเดินเกมรุกต่อเนื่องก่อนมาได้ประตู 5-0 ในน.35 จากการลากบอลจี้ทางฝั่งซ้ายของ เนย์มาร์ ก่อนปาดเข้ากลางถึงเสาสองให้ เปโดร ยิงโล่งๆ น.43 ทีมชาติไทย มาได้จุดโทษบ้าง หลัง “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ลากบอลจี้เข้าเขตโทษแล้วโดนสกัดล้มลง และเป็นดาวยิง เอสซีจี เมืองทองฯ ที่รับอาสายิงเองเข้าไป เจ้าบ้านตีไข่แตก 1-5 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว
ครึ่งหลัง บาร์เซโลนา ส่ง ชาบี เฮร์นานเดซ, อันเดรส อิเนียสตา, อเล็กซิส ซานเชซ, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, เซร์จิโอ บุสเกตส์ และ ฆอร์ดี อัลบา ลงสนาม บาร์ซ่า ยังครองเกมบุกตามสไตล์ และได้ประตู 6-1 จากจังหวะที่ ฟาเบรกาส วางบอลยาวให้ เปโดร เอื้อมขาซ้ายแตะบอลข้ามหัวผู้รักษาประตูเข้าไป เป็นแฮตทริกของตัวเอง ถัดมานาทีเดียวจากการต่อบอลอย่างสุดสวย ฟาเบรกัส ส่งให้ อิเนียสตา ก่อนจบที่ อเล็กซิส ยิงโล่งๆและส่งให้ทัพจากแดนกระทิงดุนำ 7-1 จากนั้น บาร์ซ่า มีโอกาสได้ประตูเพิ่มแต่ก็ทำไม่ได้ จบเกม บาร์เซโลนา เอาชนะทีมชาติไทยไป 7-1
สำหรับทีมบาร์เซโลนา มีกำหนดการเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 8 ส.ค. ออกจากสนามบินดอนเมือง ด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำ เวลา 10.00 น.