จรรยาบรรณสื่อ..

จรรยาบรรณสื่อ..

จรรยาบรรณสื่อ..
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้จับคู่กับ "พี่มาร์ค" สุรเดช สันติเลิศประภพ นักพากย์อันดับต้นๆ ของเมืองไทยอีกครั้งในรอบเกือบ 2 ปี ในการทำหน้าที่บรรยายเกมฟุตบอลฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ 2013 คู่ระหว่าง อิตาลี พบกับ เม็กซิโก

ถือเป็นเกมที่สนุกมาก และส่วนตัวผมก็มีความสุขจริงๆ ที่ได้กลับไปทำหน้าที่และบทบาทที่ตัวเองรัก ต้องขอบคุณทางบริษัทอดามัส เวิลด์ ผู้ได้รับลิขสิทธิ์หนึ่งเดียวในประเทศไทย, ทีสปอร์ต แชนแนล ทีวีกีฬาคุณภาพ และที่สำคัญ "พี่หมอเมา" บอสใหญ่ของ ฮอตสกอร์ เป็นอย่างยิ่งที่หยิบยื่นโอกาสให้อีกครั้ง

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในวงการฟุตบอลไทย ไม่ว่าจะเป็นขุนพลทีม "ช้างศึก" ภายใต้การคุมทีมโดย "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่สร้างรอยยิ้มและความภาคภูมิใจด้วยการบุกไปถล่มจีน ถึงถิ่น 5-1

ผมลองไปตามอ่านคอมเม้นต์ของชาวต่างชาติโดยเฉพาะเพื่อนบ้านอาเซียนอย่าง อินโดนีเซีย, สิงคโปร์ และ มาเลเซีย ต่างยินดีกับชัยชนะของทีมชาติไทย ที่เหมือนกับเป็นตัวแทนภูมิภาคที่ช่วยพิสูจน์ให้เห็นว่าทีมจากละแวกนี้มีมือมีเท้า ไม่ใช่หมูในอวยที่ใครจะมาถล่มชนะเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว

ส่วนคอมเม้นต์ของชาวจีนในโลกไซเบอร์ ส่วนใหญ่ก็ออกมาตำหนิการวางแผนของ โฆเซ่ อันโตนิโอ กามาโช่ เฮดโค้ชชาวสเปน รวมถึงนักเตะที่เล่นกันเหยาะแหยะ

บางคนถึงกับแนะนำให้ซื้อนักเตะไทยไปเล่นในลีกจีน โดยเฉพาะ ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายตัวเก่งของไทยที่เล่นได้โดดเด่นมาตั้งแต่ศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ในสีเสื้อทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ชัยชนะแมตช์นี้ถือเป็นการเรียกศรัทธาแฟนบอลไทยกลับมา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันเดียวกันที่บริเวณหน้าศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ หนองจอก ในวันที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยประกาศยกเลิกการประชุม

เพราะมีคำสั่งศาลไม่ให้นำเรื่องการลงมติธรรมนูญฟีฟ่ามาเป็นวาระ ผมเองในฐานะแฟนบอลไทยคนหนึ่ง รู้สึกหดหู่และผิดหวังกับการที่สื่อบางสำนัก กล่าวหาว่าแฟนบอลที่มาร่วมสังเกตการณ์ ไม่ได้มาด้วยใจบริสุทธิ์ บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าให้มาชุมนุมทำไม

และที่หนักที่สุดคือ บอกว่ามีการจ่ายเงินให้ทุกคนที่มาร่วมชุมนุมคนละ 400 บาทอีกด้วย ซึ่งข้อกล่าวหานี้เป็นการดูถูกแฟนบอลมากๆ

จ้าง 400 บาท ประท้วงเลย

แฟนบอลกลุ่มนั้นที่มีทั้งเด็ก, ผู้หญิง และคนสูงอายุ ที่ถูกถ่ายภาพพร้อมกับตราหน้าพวกเขาว่าเป็นกองเชียร์จัดจ้าง ล่าสุดพวกเขาเริ่มออกมาแสดงตัวตนแล้ว และยืนยันว่าพวกเขาคือแฟนบอลตัวจริงที่คอยเดินทางตามไปเชียร์ทีมรักอย่างพิจิตร เอฟซี อยู่ทุกสัปดาห์ โดยลงภาพเป็นหลักฐานไว้ในเว็บไซต์สังคมออนไลน์ชื่อดังอย่าง pantip.com และ thailandsusu.com

ที่สำคัญผมมีโอกาสได้คุยกับคุณพินิจ งามพริ้ง อดีตประธานกลุ่มเชียร์ไทยพาวเวอร์ ที่เป็นแกนนำในการเชิญชวนแฟนบอลมาร่วมชุมนุมหลายต่อครั้งในอดีตที่ผ่านมา ซึ่ง "พี่ป้อ" ก็ยืนยันชัดเจนว่า การจ้างคนมาร่วมชุมนุมไม่ใช่แนวทางของกลุ่มเชียร์ไทย อีกอย่างพวกเขาไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น

หลักฐานยืนยันว่ามีตัวตนไม่ได้จ้างมา โผล่ใน facebook,เว็บบอร์ด,pantip เพียบ

ผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า เด็กและคนแก่ที่พวกคุณกล่าวหาว่ารับเงินนี่แหละ คือกลุ่มคนที่สนับสนุนบอลไทยตัวจริง คือคนที่เสียตังค์ซื้อตั๋วเข้าสนามไปเชียร์บอล ทำให้บอลลีกของไทยมีวันนี้ได้ ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนใดๆ ทั้งสิ้น และไม่เคยทวงบุญคุณแม้แต่ครั้งเดียวว่าตนเองคือผู้ทำให้ลีกไทยบูม

สื่อเป็นเครื่องมือสำคัญที่มีอิทธิพลอย่างมากในการชี้นำประชาชน แต่ที่เห็นอยู่นี้มันเหมือนกับการใช้สื่อเป็นอาวุธทำสงครามที่เราเห็นบ่อยครั้งทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการสาดโคลนดิสเครดิตใส่ร้ายฝ่ายตรงข้าม แบบสาดเสียเทเสีย มีพระเอก มีผู้ร้าย จากนั้นก็ประกาศให้ผู้เสพสื่อได้รับรู้ว่าเขาจะต้องเสียอะไรไปบ้างเมื่อเลือกฝ่ายตรงข้าม และจะได้อะไรบ้างหากเลือกฝ่ายตน

ข้อความโต้ตอบแฟนบอลบางส่วน

ล่าสุดก็ลงข่าวโจมตีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของการกีฬาแห่งประเทศไทย ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน และโรคจิตบ้ากาม เคยจับก้นผู้หญิง อะไรเทือกนั้น ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการเสนอข่าวแบบนี้เลยแม้แต่นิด

บางคนเสพสื่อ อ่านอย่างเดียวไม่ต้องคิด เพราะมีคนคิดให้ วิเคราะห์ให้เรียบร้อย ซึ่งอันตรายมาก มันเป็นธรรมชาติของปลาใหญ่กินปลาเล็ก ถ้าเราไม่ชอบก็ต้องหาวิธีป้องกัน ไม่ให้เค้ากินเราได้ การจะ "วิเคราะห์ และสังเคราะห์" สื่อได้ก็ต่อเมื่อรู้จักอ่านความคิดเห็นทุกด้าน

ภาพแฟนบอลที่มาติดตามการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอล

แน่นอนครับคนเรามี "อคติ" ส่วนตัวเพราะ "รสนิยม" ไม่เหมือนกัน หรือบางครั้งอาจมี(อะไร)แอบแฝงอยู่ แต่ถ้าลองมองหามุมหลายๆ มุม ในที่สุดก็จะมองเห็น "ภาพ" ชัดขึ้นด้วยตัวเราเอง สุดท้ายนี้ ขอฝากเอาไว้ว่าแม้ผมอาจจะอายุน้อยกว่าไม่แก่พรรษาเท่าสื่อรุ่นเก๋าหลายๆ ท่าน

แต่ผมอยากขอร้องให้ทุกท่านอย่าละทิ้งจรรยาบรรณวิชาชีพของการเป็นสื่อมวลชนที่ดีไปมากกว่านี้เลยครับ

เรื่องโดย "One Man Show"

ขอบคุณภาพ - FB โป๊ะ สายฟ้า,FB BURIRAM UNITED,FB Chalawan ATK Phichit,FB thailandsusu

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook