สิงโตสุดเซ็ง! แซมบ้าไล่ตีเจ๊า2-2+คลิป

การแข่งฟุตบอลนัดอุ่นเครื่องทีมชาติ ประจำคืนวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน 2556 ที่สนามเอสตาดิโอ มาราคาน่า ในกรุงงริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล เป็นการพบกันระหว่าง "แซมบ้า" บราซิล กับ "สิงโตคำราม" อังกฤษ

เริ่มเกมไปได้เพียง 10 นาที บราซิล มาได้ลุ้นก่อนจากลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษฝั่งซ้าย เนย์มาร์ วิ่งมาปั่นด้วยขวา บอลเลี้ยวหนีกำแพงแต่ก็ลอยไปเข้ามือ โจ ฮาร์ท รับสบาย

น.18 อังกฤษ เกือบโดนขึ้นนำไปก่อน เมื่อ ดาเนี่ยล อัลเวส เปิดเข้าไปในเขตโทษ แต่ เกล็น จอห์นสัน กลับไปปล่อยให้ เนย์มาร์ สปีดหนีไปโดยไม่ล้ำหน้า ก่อนที่เจ้าตัวจะได้จังหวะยิง แต่ดีที่ ฮาร์ท ยังไวโดดมาป้องกันไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

น.28 บราซิล ยังเป็นฝ่ายได้บุกกดดันทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง คราวนี้ อัลเวส ลองส่องไกลระยะ 30 หลา จากจังหวะที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด เคลียร์ไม่ดี แต่บอลก็ไปเข้ามือ โจ ฮาร์ท รับได้อีกครั้ง

อังกฤษ ต้องเปลี่ยนตัวสำรองคนแรกถอด เลห์ตัน เบนส์ ที่โชคร้ายได้บาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ออกแล้วส่ง แอชลี่ย์ โคล ลงมาประจำการทางแบ็กซ้ายแทน

น.34 บราซิล น่าจะได้ประตูขึ้นนำเป็นอย่างยิ่ง เมื่อ ออสการ์ เปิดเรียดไปให้ ฮัลค์ ที่รออยู่ในเขตโทษ ได้จังหวะตอกส้นไปที่ประตู บอลเกือบเข้าอยู่แล้ว แต่ดันกลิ้งผ่านเสาออกไปแบบน่าหวาดเสียว

อีก 6 นาทีต่อมา อังกฤษ มาได้โอกาสลุ้นประตูครั้งแรก เมื่อ เกล็น จอห์นสัน จ่ายเรียดมาให้ ธีโอ วัลค็อตต์ จากฝั่งขวา ได้โอกาสซัดในเขตโทษ แต่ก็ไปตรงตัว ชูลิโอ เซซ่าร์ ป้องกันไว้ได้แบบไร้ปัญหา 

ช่วงท้ายยังเป็นทางเจ้าถิ่นที่มีโอกาสมากกว่าแต่ก็ทำประตูไมได้ หมดครึ่งเสมอกันไปก่อน 0-0

กลับมาเตะกันต่อในช่วงครึ่งหลัง บราซิล ตัดสินใจเปลี่ยนตัวสำรองสองคนรวดส่ง มาร์เซโล่ และ แอร์นาเนส ลงสนามแทนที่ของ เฟลิเป้ หลุยส์ กับ หลุยซ์ กุสตาโว่ ขณะที่ อังฤษ ยังไม่มีการเปลี่ยนตัวเพิ่มเติมแต่อย่างใด

หลังจากนั้น บราซิล เปลี่ยนตัวเพิ่มอีกคนส่ง ลูคัส มูร่า ลงสนามเพื่อทำเกมบุกแทนที่ของ ออสการ์

เข้าสู่นาทีที่ 57 ในที่สุดแฟนบอลเจ้าถิ่นก็ได้เฮกันเสียทีเมื่อทีมมาทำประตูได้สำเร็จ จากจังหวะที่ แอร์นาเนส ได้ส่องไกลนอกเขตไปชนคาน แต่บอลก็ตกมาเข้าเท้า เฟร็ด กระโดดวอลเล่ย์ด้วยขวาเข้าไปไม่พลาด บราซิล ขึ้นนำไปก่อน 1-0

หลังเสียประตูทางฝั่ง อังกฤษ ส่ง อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน ลงสนามเพื่อเปิดเกมสู้ โดยถอดเอา เกล็น จอห์นสัน ออกจากสนาม

น.65 ทัพ "สิงโตคำราม" ได้โอกาสลุ้นประตูจากลูกเตะมุมฝั่งขวา บอลโยนไปหน้าประตูและเป็น เวย์น รูนี่ย์ ได้เทกตัวโหม่งคนเดียว แต่ก็พุ่งหลุดกรอบออกไปแบบน่าเสียดาย

แต่อีกสองนาทีต่อมาความพยายามของทีมเยือนก็มาประสบผลสำเร็จ เมื่อ แลมพาร์ด ส่งให้ รูนี่ย์ ก่อนที่เจ้าตัวจะจ่ายคืนหลังให้ อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน วิ่งมากดด้วยขวาระยะ 20 หลา บอลพุ่งต่ำเข้าประตูไปเฉียบขาด ชนิดที่ ชูลิโอ เซซ่าร์ หมดโอกาสจะป้องกัน อังกฤษ ตามตีเสมอเป็น 1-1

"แซมบ้า" เปลี่ยนตัวเพิ่มถอดเอา ฮัลค์ ออกไปแล้วให้ แฟร์นันโด ลงสนามมาแทน

น.79 อังกฤษ มาได้จังหวะเล่นสวนกลับและเป็นพลิกกลับมาขึ้นนำจนได้เป็น 2-1 เมื่อ เจมส์ มิลเนอร์ จ่ายจากริมเส้นฝั่งซ้ายให้ รูนี่ย์ เลี้ยงตัดมาจนถึงหน้าเขตโทษ ก่อนเจ้าตัวจะเลือกปั่นด้วยขวา บอลพุ่งแฉลบ แฟร์นันโด ลอยเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงาม โดยที่ เซซ่าร์ พยายามพุ่งสุดตัวก็ไปไม่ถึง

พอเสียประตู บราซิล รีบส่ง เลอันโดร ดามิเยา ลงสนามมาแทน เฟร็ด ผู้ทำประตูให้ทีม เพื่อหวังลุ้นตีเสมอให้ได้

แต่แล้วทัพ "แซมบ้า" ก็ยังไม่ยอมง่ายๆ และก็มาได้ประตูตีเสมอสำเร็จ จากจังหวะที่ ลูคัส มูร่า ครอสจากฝั่งขวามาถึง เปาลินโญ่ ที่อยู่ในเขตโทษเอี้ยวตัววอลเล่ย์ด้วยขวาแบบไม่จับ บอลพุ่งเข้าประตูไปแบบเฉียบคม ชนิดที่ โจ ฮาร์ท ได้แต่ยืนมองเท่านั้น สกอร์กลับมาเท่ากันเป็น 2-2

หลังยิงประตูได้ เปาลินโญ่ ก็ถูกถอดออกจากสนาม และเป็น แบร์นาร์ด ที่ได้โอกาสลงเล่นแทน ส่วนทางฝั่ง "สิงโตคำราม" ก็ส่ง แจ็ค ร็อดเวลล์ ลงมาแทน ธีโอ วัลค็อตต์ ที่เกมนี้ดูจะเงียบๆ ออกไป

ช่วงทดเจ็บท้ายเกม ทั้งสองฝ่ายต่างพยายามเปิดเกมเข้าใส่กันอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครได้จบสกอร์ได้เพิ่มเติม หมดเวลา บราซิล เปิดบ้านเสมอกับ อังกฤษ ไป 2-2
รายชื่อผู้เล่น บราซิล (4-2-3-1) :
ชูลิโอ เซซ่าร์ - ดาเนี่ยล อัลเวส, ติอาโก้ ซิลวา, ดาวิด หลุยซ์, เฟลิเป้ หลุยส์ (มาร์เซโล่ น.45) - หลุยซ์ กุสตาโว่ (แอร์นาเนส น.45), เปาลินโญ่ (แบร์นาร์ด น.84) - ฮัลค์ (แฟร์นันโด น.73), ออสการ์ (ลูคัส มูร่า น.56), เนย์มาร์ - เฟร็ด
ผู้เล่นสำรอง
ดิเอโก้ คาวาเลรี่ - เจฟเฟอร์สัน - ดันเต้ - เรแวร์ - ฌอง - แจสสัน โรดริเกซ - เลอันโดร ดามิเยา
 
รายชื่อผู้เล่น อังกฤษ (4-2-3-1) :
โจ ฮาร์ท - เกล็น จอห์นสัน (อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน น.62), แกรี่ เคฮิลล์, ฟีล จากีลก้า, เลห์ตัน เบนส์ (แอชลี่ย์ โคล น.32) - ไมเคิ่ล คาร์ริค, แฟรงค์ แลมพาร์ด - ฟิล โจนส์, เวย์น รูนี่ย์, เจมส์ มิลเนอร์ - ธีโอ วัลค็อตต์ (แจ็ค ร็อดเวลล์ น.84)
ผู้เล่นสำรอง
เบน ฟอสเตอร์ - อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ - โจลีออน เลสค็อตต์ - เจอร์เมน เดโฟ
 
ผู้ตัดสิน : วิลม่า โรลดาน (โคลอมเบีย)

 

ส่วนผลฟุตบอล กระชับมิตรทีมชาติ คู่อื่น

แอลจีเรีย ชนะ บูร์กินา ฟาโซ 2-0            
ไอร์แลนด์ ชนะ จอร์เจีย 4-0     
สหรัฐฯ ชนะ เยอรมัน 4-3            
บราซิล เสมอ อังกฤษ 2-2