เทศกาลแห่งการอดนอนเริ่มขึ้นอีกแล้ว!
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เดินมาถึงอีกคำรบ
จากสถิติในนัดเปิดสนาม 13 ครั้งที่ผ่านมา มีอยู่ 2 ครั้งที่ชาติเจ้าภาพไม่ได้ลงเตะในนัดเปิดสนาม ดังนั้นเท่ากับว่ามีทีมเจ้าภาพที่ได้ลงเตะในนัดเปิดสนามทั้งสิ้น 11 ครั้ง
ไม่น่าเชื่อว่า จะมีเพียง 3 ครั้งเท่านั้นทีมเจ้าภาพสามารถเก็บชัยชนะ
นั่นก็คือ สเปน เมื่อปี 1964, ฝรั่งเศส ปี 1984 และ เบลเยียม ในปี 2000
สองทีมแรกเดินหน้าไปสู่ตำแหน่งแชมป์ได้สำเร็จในบั้นปลาย ผิดกับ เบลเยียม ที่กลับตกรอบแรกสบายไปซะงั้น และที่สำคัญยังมีอีกถึง 4 ทีมที่เก็บชัยชนะได้ในนัดเปิดสนาม ก่อนจะก้าวไปเป็นแชมป์นั่นก็คือ เยอรมันตะวันตก ในปี 1972 และ 1980, สาธารณรัฐเช็ก ปี 1976 และ กรีซ ในปี 2004
ไม่มีอะไรมากไปกว่าที่จะบอกว่า โอกาสที่สถิติดังกล่าวนี้จะเพิ่มขึ้นนั้นค่อนข้างยากมาก และยากถึงยากที่สุด เมื่อดูจากศักยภาพของทั้ง โปแลนด์ และ กรีซ ที่จะดวลกันเป็นคู่แรก
ว่ากันว่า โปแลนด์ เป็นทีมที่น่าสนใจมากๆ เพราะมีแกนหลักจากทีมดังอย่าง "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ถึง 3 คนที่กระจายอยู่ถึง 3 ตำแหน่ง ทั้ง หลัง-กลาง-หน้า
ลูคัสซ์ พิซส์เซ็ค, ยาคุบ บลาซซีคอฟสกี้ และโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
เมื่อมองแบบนี้มีโอกาสไม่น้อยที่ โปแลนด์ จะคว้าชัยชนะเป็นประเดิม เพราะในกลุ่มนี้พวกเขามีโอกาสชนะได้ทุกทีม แต่ในทางกลับกันก็แพ้ได้ทุกทีมเหมือนกัน
โดยเฉพาะ กรีซ น่าจะเป็นทีมที่พวกเขามีโอกาสชนะมากที่สุด แน่นอนว่า มากกว่า รัสเซีย กับ สาธารณรัฐเช็ก ที่เก๋าเกมเป็นไหนๆ
สถิติได้บอกชัดเจนว่า โปแลนด์ เหนือกว่าค่อนข้างมาก ด้วยการชนะได้ถึง 10 นัด เสมอ 2 กรีซ ชนะ 3 ครั้งเท่านั้น
ที่สำคัญการพบกัน 5 เกมหลังสุดเจ้าภาพร่วมก็ไม่เคยเพลี่ยงพล้ำให้เลยแม้แต่เกมเดียว
ปัญหาเดียวที่จะเกิดขึ้นกับเจ้าบ้านก็คือ แรงกดดัน ที่จะมีผลสำคัญอย่างมากในการเล่นในบ้าน และยิ่งเป็นเกมแรกแบบนี้มันบีบหัวใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ที่สำคัญการก้าวผ่านขึ้นจากระดับประเทศก้าวขึ้นสู่ระดับอินเตอร์ และระดับโลก มันจะพิสูจน์ บลาซซีคอฟสกี้ กับ เลวานดอฟสกี้ ที่ฮอตเหลือเกินในปีนี้
ว่าจะก้าวผ่านได้หรือไม่
เราน่าจะได้รับคำตอบในคืนวันนี้
บี แหลมสิงห์
(ภาพจาก AFP)