เวนิส บ.ข.ส. แชมป์โลกตกอับ สิ้นเนื้อประดาตัว กินเบี้ยชราเดือน600

เวนิส บ.ข.ส.อดีตแชมเปี้ยนมวยโลก เคยสร้างรอยยิ้มให้คนไทยทั้งประเทศ รับค่าเหนื่อยไฟต์ละ 1.2 ล้าน แต่ชีวิตตกอับช่วงบั้นปลาย สิ้นเนื้อประดาตัว รับเบี้ยเลี้ยงสูงอายุประทังชีวิตแค่เดือนละ 600 บาท

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า เวนิส บ.ข.ส. หรือนายประเวศ พลเชียงขวาง ปัจจุบันอายุ 62 ปี เจ้าของฉายาซ้ายพญายมอดีตแชมเปี้ยนมวยโลกรุ่นฟลายเวต สภามวยโลก (ดับเบิลยูบีซี) เมื่อ 40 ปีก่อน ที่เคยมีชีวิตรุ่งโรจน์ทั้งชื่อเสียงและเงินทอง

ปัจจุบันมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างยากจน ประกอบอาชีพทำนาเลี้ยงชีพ รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตกเดือนละ 600 บาท อาศัยอยู่กับภรรยาคู่ชีวิต นางพานทอง วงค์ตาหล้า อายุ 64 ปี ที่บ้านเลขที่ 134 บ้านต้นแหน ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม

เวนิส หรือนายประเวศ กล่าวถึงเรื่องราวชีวิตในอดีตว่า ครอบครัวสมัยเด็กมีฐานะยากจน อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ด้วยความที่ชอบชกมวยไทยมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา จึงอยากช่วยทางบ้านด้วย เลยเดินสายรับจ้างชกมวยไทยตามงานวัด

ประกอบกับมีพี่ชายทำค่ายมวยชื่อ ค่ายพลายทอง จึงใช้ชื่อว่า "นิดเดียว พลายทอง" ชกมวยไทยจนกระทั่งได้ไต่เต้าขึ้นไปชกมวยไทยที่กรุงเทพฯ เวลานั้นเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีคนชักชวนให้ไปอยู่กับค่ายมวยชื่อดังหรือค่ายมวย บ.ข.ส. ที่กรุงเทพฯ

อดีตแชมป์โลกยังกล่าวต่อว่า แรกๆ ที่ย้ายไปกินนอนและชกมวยกับค่าย บ.ข.ส. เริ่มต้นเป็นมวยแทนก่อนได้ขึ้นชกแบบเต็มตัว ใช้ชื่อใหม่ว่า "เวนิส บ.ข.ส." ที่เวทีมวยวิกราชดำเนิน

และด้วยการชกที่มีพลังหมัดซ้ายที่หนักหน่วง ได้รับโอกาสเบนเข็มเข้าชกมวยสากลเป็นครั้งแรก ในรายการมวยพ็อปท็อป เมื่อเดือนพฤษภาคม 2511 แรกๆ มีค่าตัวตกไฟต์ละ 1,500 บาท ทำให้มีกำลังใจในการฝึกซ้อมและชกมวย

"ผมมีโอกาสชิงแชมป์มวยสากลรุ่นฟลายเวต ประเทศไทยที่เวทีลุมพินี เมื่อปี 2513 ก่อนจะได้เป็นแชมป์มวยโลกรุ่นฟลายเวต ของสภามวยโลกช่วงปี 2515 รวมทั้งยังเคยได้แชมป์รุ่นแบนตัมเวต ประเทศไทย ที่เวทีราชดำเนิน ปี 2522 ซึ่งในสมัยโด่งดังเคยได้รับค่าตัวสูงสุดประมาณ 1.2 ล้านบาท ยอมรับว่าชีวิตเวลานั้นรุ่งเรืองมาก ไม่แตกต่างจากนักมวยชื่อดัง และดาราดัง จนมีวงการละครมาทาบทามไปแสดงละคร"

เวนิส หรือนายประเวศ กล่าวต่อว่า เมื่อผ่านช่วงสูงสุด ก็ต้องเจอกับช่วงขาลง สภาพร่างกายเสื่อมถอยไปตามกาลเวลา ก่อนตัดสินใจแขวนนวมไปเมื่อตอนอายุประมาณ 32 ปี หันไปเป็นพนักงานต้อนรับของบริษัทขนส่ง ทำงานได้ 10 ปี ลาออกกลับบ้านที่ จ.นครพนม

"ผมกลับมาเปิดบริษัทจัดหาแรงงานไปต่างประเทศ พร้อมกับตั้งครอบครัวมีลูก 2 คน แต่เปิดบริษัทได้ 5 ปี กิจการขาดทุนก่อนปิดตัวเองไป ทั้งบ้านและที่ดินถูกธนาคารยึด รวมเงินทองที่สูญไปในครั้งนี้กว่า 20 ล้านบาท กลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว และยังเลิกรากับภรรยา โดยลูกทั้ง 2 คน ไปอยู่กับอดีตภรรยาที่ต่างประเทศ"

เวนิสกล่าวต่อว่า ยอมรับในความผิดพลาดในการดำเนินชีวิตที่ขาดการวางแผนที่ดี ไม่มีการเก็บออมเพื่อใช้ในยามยาก ทำให้ต้องตกอับ จึงตัดสินใจเข้าบวชในปี 2534 จำวัดหลายแห่งในพื้นที่ จ.นครพนม

"ผมบวชนานถึง 11 ปี ก่อนลาสิกขาออกมาในปี 2545 และมีภรรยาคนใหม่ คือนางพานทอง วงค์ตาหล้า อายุ 64 ปี ผมและภรรยาใช้ชีวิตปกติ ไม่มีอาชีพถาวร ทำนาตามประสาชาวบ้าน โดยได้เพื่อนที่รู้จักกันคอยช่วยเหลือตามอัตภาพ มีเงินประทังชีวิตในแต่ละวันส่วนรถยนต์คันเก่าก็มีไว้พาตัวเองไปหาหมอ" เวนิสกล่าว

สำหรับเข็มขัดแชมป์มวยที่ได้มาทั้งแชมป์โลกและในประเทศไทยก็ยังเก็บไว้ รวมทั้งภาพถ่ายในอดีตและชุดผ้าคลุมแชมป์โลกก็ยังเก็บไว้ แม้จะไม่มีราคาค่างวดแต่มีคุณค่าในตัว ยังเก็บไว้ให้ลูกหลานได้เชยชมกัน

"ความภาคภูมิใจในชีวิตนอกเหนือจากรางวัลเกียรติยศที่ได้มา ผมมีโอกาสเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานรางวัลให้ ทุกวันนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม และโรงเรียนบ้านดอนนางหงส์ (หงส์ทองวิทยาคาร) อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ได้เชิญผมไปช่วยสอนมวยให้นักเรียนด้วย นับเป็นความภาคภูมิใจที่คนรุ่นหลังยังเห็นคุณค่าผม ผมจะทำหน้าที่สอนมวยไปจนกว่าจะหมดเรี่ยวแรง"

ด้านนายประจักษ์ชัย เชื้อตาแสง นายก อบต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม กล่าวว่า ชีวิตของเวนิส หรือ นายประเวศ น่าสงสารมาก คนที่เคยมีอนาคตต้องมาลำบากในบั้นปลายชีวิต อบต.นาแกช่วยเหลือได้เพียงจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาท และให้สวัสดิการผู้สูงอายุ หากเจ็บป่วยเข้ารับการรักษาตัว ให้วันละ 200 บาท

นายเอก แสนสุข นายก อบต.ดอนนางหงส์ กล่าวว่า ทาง อบต.ได้ว่าจ้างให้เวนิสมาช่วยฝึกสอนนักเรียนชกมวยให้ถูกต้อง ส่วนค่าจ้างนั้นก็ว่ากันไปตามความเหมาะสมไม่มากมายนัก ทางเวนิสเองไม่ได้เรียกร้องในส่วนนี้ เพียงแต่ต้องการช่วยเหลือบ้านเกิด

สำหรับประวัติการชกมวยของเวนิส บ.ข.ส. อดีตแชมป์โลกคนที่ 4 ของไทย เกิดเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2493 ที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เริ่มต้นชกมวยไทยก่อนและหันมาชกมวยสากล

โดยได้รับการสนับสนุนจาก "ครูเฒ่า" หรือชนะ ทรัพย์แก้ว โปรโมเตอร์และเทรนเนอร์ขณะนั้น ต่อมาขึ้นชกในรายการโดยเสด็จพระราชกุศลเมื่อปี 2512 ชกชนะศักดิ์ ศักดิ์แหลมทอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานรางวัลในฐานะนักมวยสากลยอดเยี่ยม

กระทั่งได้ชิงแชมป์โลกรุ่นฟลายเวต สภามวยโลก (ดับเบิลยูบีซี) ตอนปลายเดือน ก.ย. 2515 อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก และเป็นฝ่ายชนะน็อกยก 10 เบตูลิโอ กอนซาเลซ แชมป์โลกชาวเวเนซุเอลา ได้เป็นแชมป์โลก และป้องกันแชมป์เพียงครั้งเดียว ชนะคะแนน เออร์ปิโต้ ซาลาวาร์เรีย นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ที่เคยชนะชาติชาย เชี่ยวน้อย มาแล้ว อย่างไรก็ตาม เวนิสไม่สามารถควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในพิกัดได้ จึงต้องสละแชมป์โลก

ช่วงปี 2522 เวนิสชกมวยหลายไฟต์ได้แชมป์รุ่นแบนตัมเวตของเวทีราชดำเนิน ก่อนจะมีปัญหาเรื่องการควบคุมน้ำหนักตัวอีก จึงเลิกชกมวยในที่สุด