โคลซัดชัย! สิงห์บลูเฉือนสโต๊ค 1-0 รั้งฝูงต่อ

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

เชลซี 1 - 0 สโต๊ค ซิตี้ 

(แอชลี่ย์ โคล น.85)

วันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2555
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์

ผู้ตัดสิน:  คริส ฟอย

ทีมจ่าฝูง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ที่มี 10 แต้ม วันนี้ต้องพัก 2 ตัวเก๋า จออห์น เทอรี่ และ แฟรงค์ แลมพาร์ด เป็นตัวสำรอง ส่วนหน้าเป้ายังคงใช้ เฟอร์นันโด ตอร์เรสยืนเป็นหัวหอกเดี่ยว โดยจะมี ฆวน มาต้า และ อาซาร์ เป็นปีกสองฝั่ง ขณะที่ทีมเยือน สโต๊ค ซิตี้ มีปัญหาเล็กน้อย เมื่อแอนดี้ วิลคินสัน แบ็คขวาที่ติดโทษแบน ส่วนตำแหน่งอื่นยังคงฟลูทีม

เปิดฉากเริ่มเกมเป็นเชลซีที่เปิดเกมบุกเข้าใส่ ทว่าทีมเยือนก็เรียมตัวมาดี คอยตั้งรับและสวนกลับ และได้ทักทายนาทีที่ 3 จากการซัดเต็มข้อของ ไมเคิ่ล ไนท์ลี่ย์ แต่แกรี่ เคฮิลล์ ยังบล๊อกได้ทัน

นาที 6 เชลซีได้ลูกเตะมุมเตะโดย ฆวน มาต้า และเป็น เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ขวิดเต็มหัว แต่บอลจึงโด่งข้ามคานออกหลังไป

จากนั้นทั้งสองทีมผลัดกันรุกรับอย่างสุดมันส์ จนนาที 20  สโต๊ค พลาดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย เมื่อเกล็น วีแลน เปิดฟรีคิกทางฝั่งขวา เป็นโจนาธาน วอลเตอร์ส ที่เทกตัวโขกเต็มหัว แต่บอลไปชนคานอย่างจัง 

นาที 23 ชาร์ลี อดัม ไปดึง รามิเรส อย่างน่าเกลียด รับใบเหลืองแรกของเกมไป

นาที 26 "สิงโตน้ำเงินคราม" เกือบได้ประตูขึ้นนำจากสองประสานสเปน ฆวน มาต้า วางบอลไปหน้าประตูให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส เตะหนึ่งจังหวะก่อนจะซัดด้วยขวา แต่บอลโดนไม่เต็มเท้าเข้ามือ เข้ามือ อัสเมียร์ เบโกวิช 

จากนั้นเป็นทีมเยือนที่กดดันอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังเจาะแนวรับเชลซีไม่ได้ จึงหันมาใช้ลูกยิงไกล และเป็น มาร์ค วิลสัน ที่สับไกระยะ30หลา บอลพุ่งเข้ากรอบ แต่ยังไม่ผ่านมือนายด่าน ปีเตอร์ เช็ก 

ท้ายครึ่งแรก เชลซีได้ลุ้นจากการยิงของแบ็คจมบุก บลานิสลาฟ อิวาโนวิช แต่ผู้เล่นสโต๊คยังล้มตัวบล๊อคไว้ได้ทัน ทำให้จบครึ่งแรกทั้งสองทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0

สู้กันต่อครึ่งหลัง เป็นเชลซี ที่บุกเข้าใส่ก่อน ทว่า นาที 50 ออสการ์ ไปพุ่งล้มในเขตโทษรับใบเหลืองเป็นการตอบแทน

ถัดมา 1 นาที ฆวน มาต้า พาบอลลุยขึ้นมาก่อนจะจ่ายให้ ออสการ์ บรรจงซัดด้วยซ้าย แต่ อัสเมียร์ เบโกวิช นายทวารชาวบอสเนีย ล้มตัวรับไว้ได้

นาที 72 สโต๊ค เปลี่ยตัวคนที่สอง โดยส่ง แม็ทธิว เอเธอริงตัน ลงมาแทน ไมเคิ่ล ไนท์ลี่ย์ และใน นาที 75 สโต๊ค เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย เอา เคนวิน โจนส์ ลงมาแทน ปีเตอร์ เคร้าช์

นาที 78 ทีมเยือนมีลุ้น เคนวิน โจนส์ โหม่งคืนหลังให้ แม็ทธิว เอเธอริงตัน ซัดด้วยซ้าย แต่บอลโค้งหลุดเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 81 เชลซี ส่ง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ลงมาแทน โอบี มิเคล

นาที 85 แฟนเชลซีได้เฮลั่นทั่วสแตมฟอร์ด บริดจ์ จากต่อบอลกันเท้าต่อเท้า ก่อนจะเป็น บลานิสลาฟ อิวาโนวิช เปิดบอลจากฝั่งขวามาหน้าประตู ฆวน มาต้า ไขว้ต่อให้ แอชลี่ย์ โคล จิ้มด้วยซ้าย แสกหน้า อัสเมียร์ เบโกวิช เข้าไปอย่างสวยงาม เชลซีขึ้นนำ 1-0

นาที 88 เชลซี เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย โดยส่ง จอห์น เทอร์รี่ ลงมาแทน ฆวน มาต้า เพื่อเสริมแนวรับ 

จากนั้น สโต๊ค พยายามบุกเพื่อหวังทวงประตูืคืน แต่ก็ทำอะไรเชลซีไม่ได้ จบเกม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เปิดบ้านเฉือนชนะ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ 1-0 เก็บ 3 แต้มเพิ่มพร้อมรั้งฝ่าฝูงต่อไป

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก,บลานิสลาฟ อิวาโนวิช ,เดวิด ลุยส์ ,แกรี่ เคฮิลล์ ,แอชลี่ย์ โคล ,โอบี มิเคล ,ออสการ์ ,รามิเรส ,ฆวน มาต้า ,เอแดน อาซาร์ ,เฟร์นานโด ตอร์เรส

สำรอง : รอสส์ เทิร์นบูลล์ ,ออริออล โรเมอู ,จอห์น เทอร์รี่ ,แฟร้งค์ แลมพาร์ด ,เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ,ไรอัน เบอร์ทรานด์ ,วิคเตอร์ โมเซส

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สโต๊ค : อัสเมียร์ เบโกวิช ,เจฟฟ์ คาเมรอน ,โรเบิร์ต ฮูธ ,ไรอัน ชอว์ครอสส์ ,มาร์ค วิลสัน ,สตีเว่น เอ็นซอนซี่ ,เกล็น วีแลน ,ชาร์ลี อดัม ,ไมเคิ่ล ไนท์ลี่ย์ ,โจนาธาน วอลเตอร์ส ,ปีเตอร์ เคร้าช์

สำรอง : โทมัส โซเรนเซ่น ,เคนวิน โจนส์ ,ไมเคิ่ล โอเว่น ,ดีน ไวท์เฮด ,แม็ทธิว อัพสัน ,แม็ทธิว เอเธอริงตัน ,ไรอัน ชอตตัน

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่นๆ

สวอนซี 0-3 เอฟเวอร์ตัน (1-0 อนิเชเบ้ 21' ,2-0 เควิน มิรัลลาส 43' ,3-0 มารูยาน เฟลไลน์นี 83')

เซาธ์แฮมป์ตัน 4-1 แอสตัน วิลล่า (0-1 ดาร์เรน เบนท์ 35' ,1-1 ริคกี้ แลมเบิร์ต 58' ,2--1 เนธาเนี่ยล ไคลน์ 63' ,3-1 เจสัน พันเชี่ยน 72',4-1 ริคกี้ แลมเบิร์ต 90' )

เวสต์บรอมวิช 1-0 เร้ดดิ้ง (โรเมลู ลูคาคู 71')

วีแกน 1-2 ฟูแล่ม (0-1 อูโก้ โรดาเยก้า 32' ,0-2 เดเมียน ดัฟฟ์ 68' ,1-2 อารูนา โคเน 90')

เวสต์แฮม 1-1 ซันเดอร์แลนด์ (0-1 สตีเว่น เฟล็ทเชอร์ 10' ,1-1 เควิน โนแลน 90')