เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากเมื่อทีมที่ยิ่งใหญ่จากเกาะอังกฤษอย่างแมนฯยูไนเต็ด ต้องอัปเปหิออกจากถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม โดยพ่ายแพ้ บาเซิ่ล ทีมจ่าฝูงจากสวิตเซอร์แลนด์ 1-2 หลังลูกทีมของป๋าเฟอร์กี้เคยทำมาแล้วในปี 2005 หลังจากแพ้เบนฟิก้าไปในนัดสุดท้าย 1-2

รูปแบบเกมในนัดนี้ ป๋าส่ง "น้องอูฐ" เด เกียอา เป็นผู้รักษาประตู แผงหลังแน่นปึ๊ก ประกอบไปด้วย เอฟร่า,สมอลลิ่ง,เฟอร์ดินาน และ วีดิช กองกลางมี ฟิล โจน,นานี่,ยัง,ปาร์ค จีซอง และไรอัน กิ๊กส์ โดยวาง รูนี่ย์ เป็นหน้าเป้า

โจทย์ของปีศาจแดงคือ ต้องเก็บอย่างน้อย 1 แต้ม เพื่อรับประกันการเข้ารอบอย่างแน่นอน ทางฝั่งบาเซิ่ลเจ้าถิ่นต้องชนะเท่านั้นถึงจะเข้ารอบ

เริ่มต้นได้ไม่นานแมนฯยูไนเต็ด ก็โดนเจ้าถิ่นกระซวกแผลแรก ในนาทีที่ 9 จากจังหวะ ชากีรี่ เปิดบอลเรียดจากฝั่งซ้าย ติดขา เด เกียอา แต่บอลลอยเข้าเท้า มาร์โก สเตรลแลร์ กองหน้าเจ้าถิ่น ซัดจังหวะเดียวเข้าประตูไป แถมเวลาต่อมาต้องเสีย เนมานย่า วิดิช เจ็บจากการเข้าปะทะกับผู้เล่นของ บาเซิ่ล เล่นต่อไม่ไหว

เกมบุกของปีศาจแดงก็ยังวูบวาบมีโอกาสจะตีเสมอหลายครั้ง จากรูนีย์ ที่ดันแปวืด จากระยะ3หลา พร้อมกับลีลาการเซฟอันสุดยอดของ แยนน์ ซอมเมอร์ ทำให้ครึ่งแรก แมนฯยูไนเต็ดตามเจ้าถิ่น 0-1

ครึ่งหลังเจ้าถิ่นปรับรูปแบบเกม เล่นเกมรับกันอย่างรัดกุม เพื่อรอจังหวะสวนกลับ และก็ได้ลูกสอง จากลูกเปิดทางด้านขวามือ สมอลลิ่งมัวแต่ยืนมองบอล เลยโดน อเล็กซานเดอร์ ฟราย โหม่งจ่อๆเข้าไป

ถึงตรงนี้ ผมยอมรับตรงๆเลยว่า ปีศาจแดงนั้นตกรอบแน่นอน เพราะใช้โอกาสเปลืองมากเกินไป และบาเซิ่ลนั้นเล่นดีเหลือเกิน จึงเป็นเรื่องยากถึงยากมาก ที่ยูไนเต็ดจะกลับมาตีเสมอ

ถึงแม้ว่าจะได้ประตูปลอบใจ จากลูกขลุกขลิกหน้าประตู ทำให้ตีตื้นมาเป็น 1-2 ในช่วงท้ายเกม แต่ก็ไม่พอทำให้ปีศาจแดง ต้องตกรอบแบ่งกลุ่มเพราะอยู่อันดับที่ 3 ได้ไปเล่นยูโรป้า ลีก แทน และถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่ลูกทีมของท่านเซอร์ ต้องตกรอบบอลถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก ตั้งแต่ปี 2005

จบเกมนี้ท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว เพราะผลงานของลูกทีมไม่ดีเอาเสียเลย ตกรอบบอลถ้วยติดต่อกันในรอบ 7 วัน รายได้คงหดหายไปเยอะเลยทีเดียว บรรยากาศในทีมตอนนี้คงไม่สู้ดีนัก

และเมื่อเหลือบไปมองทีมที่เล่นในยูโรป้า อย่างแมนฯซิตี้ ,อาแจ๊กซ์,ปอร์โต้ และ บาเลนเซีย หากคิดจะคว้าแชมป์รายการนี้ โดยขุมกำลังชุดนี้ บอกได้คำเดียวเลยครับว่า ยาก

ต้องจับตามองช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบสองในช่วงมกราคมนี้ แมนฯยูฯจะมีความเคลื่อนไหวหรือไม่ เพราะขุมกำลังตอนนี้ ยังไม่พอที่จะไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 20 เมื่อเทียบกับขุมกำลังเพื่อนร่วมเมืองอย่าง แมนฯซิตี้ ทีมเสริมทีมเต็มไปด้วยดาวดังมากมาย ส่วนทางเชลซี ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวให้เห็นบ้างแล้ว และม้ามืดอย่างสเปอร์และนิวคาสเซิล ก็ทำผลงานได้ดีในพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้

ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันนะครับ จากหายนะในครั้งนี้จะทำให้ มัลคอล์ม เกลเซอร์ เจ้าของทีมปีศาจแดง ที่มีชื่อเล่นว่า ปลิง จะรู้สึกสำนึกหรือคิดอะไรได้บ้างหรือเปล่า เพราะเท่าที่ผ่านมา เห็นพี่ท่านทำตัวเยี่ยงรถเทศบาล จ้องแต่สูบอย่างเดียว

ปัญหานักเตะตัวหลักบาดเจ็บ อย่าง ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ,ราฟาเอล ดา ซิลวา ,ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ,ไมเคิล โอเว่น และ ชิชาริโต้ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประสิทธิภาพการทำลายล้างคู่ต่อสู้ของยูไนเต็ด บั่นทอนลงไป และขุมกำลังสำรองก็ยังไม่ดีพอสำหรับการไล่ล่าโทรฟี่สมัยที่ 20

เอาเถอะครับชาว เร้ด อาร์มี่ ทั้งหลาย ถึงแม้ท้องฟ้าที่เมืองแมนเชสเตอร์นั้น อึมครึมเหลือเกิน แต่ผมยังเชื่อว่า ผู้จัดการทีมอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คงไม่อยู่เฉยกับฟอร์มลูกทีมแบบนี้แน่นอน เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเร็วๆนี้

ถึงเวลาแล้วที่ปีศาจแดงต้องทุ่มเงินเสริมนักเตะสักที

เรื่องโดย " คิม ชอนซา"

<< คลิกเพื่อชมภาพใหญ่ >>

อัลบั้มภาพ แนะนำผีพันธุ์ใหม่ "ผียูโรป้า" ภาพที่ 7 / 20

แนะนำผีพันธุ์ใหม่ "ผียูโรป้า"

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

"ซาลาห์" ซัดโทษกู้ชีพ! ลิเวอร์พูล บุกเจ๊า แมนฯ ยูฯ สุดมัน 2-2 แต้มทาบจ่าฝูง

ต้านไม่ไหว! ไทย เปิดบ้านแพ้ เกาหลีใต้ 0-3 คัดบอลโลก 2026

เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถาน 1-2 ร่วง 16 ทีมสุดท้าย เอเชียน คัพ 2023

"ศุภชัย" ซัดเบิ้ล! ไทย ทุบ คีร์กีซสถาน 2-0 เก็บสามแต้มประเดิมเอเชียน คัพ 2023