แปลข่าวจากสื่อเวียดนาม : "ถึงไม่ชอบพฤติกรรม แต่ก็อย่าไปโทษไทยเลย!"

ข่าวเรื่องดราม่าดวลจุดโทษนั้น สื่อเวียดนามระดมกันลงมากมายครับ กระแสส่วนใหญ่ที่ชัดเจนพุ่งประเด็นไปที่กรรมการเมียนมาว่าตัดสินไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะการข้ามเส้นของลูกจุดโทษ ที่เวียดนามคิดว่าน่าจะเข้าไปแล้ว

แต่ผมไม่เอาประเด็นนี้มาครับ แต่เอาประเด็นเรื่องที่เขาพูดถึงพฤติกรรมของนักเตะเรามา บอกไว้เลยว่านักเตะเวียดนามมีสปิริตนะครับ เธอสัมภาษณ์ได้แมนมาก แต่สื่อนี่สิ.. ลองอ่านดูเถอะครับ

--------------------------------------------------------------

ผิดหวัง.. นี่เป็นความรู้สึกของหลายๆคนที่ได้เห็นผู้รักษาประตูไทยเล่นเกมจิตวิทยากับนักเตะเวียดนามในช่วงชั่วโมงสุดท้ายของเกม รวมไปถึงการดวลจุดโทษ

ก่อนรอบชิง AFF Women 2016 นั้น เกจิอย่างโค้ชเล ถุย ไห่ บอกไว้ว่าลูกทีมของโค้ชไม ดึ๊ก ชุง นั้น เป็นรองไทยในแง่ทักษะและสภาพจิตใจ ซึ่งเกมนี้ก็พิสูจน์แล้วว่าผู้เล่นไทยมีจิตวิทยาเหนือกว่า

ที่ชัดที่สุดคือผู้รักษาประตู วราภรณ์ บุญสิงห์ ในเกมนี้เธอแสดงสีหน้าไม่พอใจอยู่หลายครั้ง ตอนผู้เล่นเวียดนามตะคริวขึ้น พฤติกรรมของวราภรณ์นั้นคือโวยวายประดุจเวียดนามถ่วงเวลา

แต่พอไม่นานจากนั้น หลังโดนเข้าสกัด ก็เป็นเธอเองที่ลงไปนอนกับพื้นสนามสักพัก หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นอีกครั้ง ทำท่ายืดเส้นยืดสาย เป็นการหยุดเกมไปในตัว

วราภรณ์รับบอลพลาดในนาที 85 ทำให้เวียดนามซ้ำเข้าไปจนสกอร์เสมอ 1-1

แต่ในช่วงดวลจุดโทษ วราภรณ์ก็เล่นสงครามจิตวิทยาต่อไป ก่อนเวียดนามจะยิง วราภรณ์จะมายืนกวนสมาธินักเตะเวียดนาม ก็ต้องขอบคุณจิตวิทยาเหล่านี้ เพราะ เหงียน ธิ มวน ที่ถือเป็นศูนย์หน้าที่ดีที่สุดในทัวร์นาเม้นท์นี้ กลับยิงลูกแรกไม่เข้า

เหงียน ธิ มวน ให้สัมภาษณ์เรื่องพฤติกรรมของวราภรณ์ว่า

"เราไม่ควรจะไปโทษทีมไทย เพราะนี่มันเป็นเกมแห่งจิตวิทยาที่จำเป็นในฟุตบอล ซึ่งไทยเหนือกว่าเราในแง่นี้ และจิตวิทยานี้ก็ช่วยทีมไทยในการกดดันทีมเวียดนาม"

"ไม่ใช่แค่วราภรณ์ที่ทำอย่างนั้น แต่ผู้เล่นไทยรู้วิธีเล่นจิตวิทยาและกดดันคู่แข่ง ทุกครั้งที่ทีมไทยยิงได้หรือเวียดนามยิงพลาด ทีมไทยก็ฉลองอย่างกับได้แชมป์"

ในขณะเดียวกัน สาวเวียดนามกลับดูลนๆ บางทีโค้ชไม ดึ๊ก ชุง น่าจะเรียนรู้จากไทยในเรื่องนี้

โค้ชเหงียน ธัน วินห์ สต๊าฟฟ์ทีมเวียดนามบอกว่า "อย่างไรก็ตาม ทีมเวียดนามได้แสดงถึงความทุ่มเทและความแรงกล้าในชัยชนะ เรามีเด็กที่มีความสามารถและต้องมองไปข้างหน้า"

ที่มาข่าวต้นฉบับ http://soha.vn/dung-che-nguoi-thai-khi-chung-ta-khong-tinh-ranh-nhu-ho-20160804221412237.htm
เครดิตการแปลโดยคุณ NTT (thailandsusu)