อำลายูโร 2016 : "10 โมเมนต์ในความทรงจำ" (คลิป)

อำลายูโร 2016 : "10 โมเมนต์ในความทรงจำ" (คลิป)

อำลายูโร 2016 : "10 โมเมนต์ในความทรงจำ" (คลิป)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา หลังตรากตรำมานานกว่า 1 เดือนเต็ม ในที่สุด ‘ฟร้องซ์ 16’ ก็ได้ฤกษ์ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการ

ก็มีหลายช็อตที่ทำให้เราประทับใจ ทว่าก็มีอีกหลายเหตุการณ์เช่นกันที่ทำให้เราต้องอ้าปากค้าง ด้วยบอลสมัยใหม่ที่เอาแต่เน้นตั้งรับ ทำให้แม้รูปเกมการเล่นโดยรวมจะไม่ถึงขั้นสนุกเร้าใจเหมือนครั้งก่อนๆ ทว่าโดยรวมแล้วโดยเฉพาะเรื่องราวนอกสนามทำให้ยูโรหนนี้ ยังมีบางแง่มุม ‘ที่น่าจดจำ’

วันนี้เพื่อเป็นการทิ้งทวน อำลาทัวร์นาเมนต์อันสุดยิ่งใหญ่แห่งทวีปยุโรป ผมขอพาทุกท่านรับชมกับ..

"10 โมเมนต์ในความทรงจำแห่งยูโร 2016" ที่เข้าไปอยู่ในหัวอกข้างซ้ายของแฟนๆ!

----------------------------------------------------------------------

1. เทพนิยายแดนน้ำแข็ง

ใครจะคิดว่าชาติที่มีประชากรในประเทศเท่ากับเมืองเลสเตอร์เมืองเดียว จะสามารถสร้างปรากฏการณ์ได้!? จากตัวประกอบที่ไร้ผู้คนสนใจ ทว่าถึงบัดนี้ ไอซ์แลนด์กลายเป็นชาติในความทรงจำของใครหลายๆคน ในทัวร์นาเมนต์รายการใหญ่ครั้งแรกของตนเอง ดินแดนแห่งน้ำแข็งกลับเจ๊ายอดทีมอย่างโปรตุเกสได้ อีกทั้งยังเชือดออสเตรียได้สวยหรู 2-1

หนทางในรอบ 16 ทีมที่ต้องโคจรพบยักษ์ใหญ่อังกฤษ ทำให้โอกาสเข้ารอบของพวกเขาดูตีบตัน แต่ใครเล่าจะกล้าคิดว่า ประเทศที่กระทั่งลีกฟุตบอลยังเป็นแค่กึ่งอาชีพ จะสามารถปราบอังกฤษอย่างราบคาบได้! แม้สุดท้ายจะโดนเจ้าภาพสอยย่อยยับ 2-5 ทว่านั่นก็เพียงพอที่จะทำให้มหากาพย์ไอซ์แลนด์ กลายเป็นตำนานที่คนทั้งประเทศสามารถเชิดหน้าชูตาเล่าขานต่อได้ชั่วลูกชั่วหลานเลยทีเดียว

2. "Will Griggs on Fire"

ถ้าจะมีใครที่สุดโด่งดัง ทั้งที่ไม่ได้ลงสนามในยูโรหนนี้ซักนัด คงเป็น ‘วิลล์ กริ๊กก์ส’ อย่างไม่ต้องสงสัย! หัวหอกสุดโนเนมจากวีแกนทว่าภายหลังฟอร์มยอดเยี่ยมกับสโมสร ทำให้แฟนบอล “เดอะ ลาติ๊กส์” รายหนี่ง ได้ดัดแปลงเนื้อเพลง ‘Freed From Desire’ เพื่อเป็นเกียรติให้แก่ยอดดาวยิง

พระเจ้าช่วย! ใครจะกล้าคิดว่าเพลงนี้จะถึงขั้นดังระเบิดเถิดเทิง! จากเนื้อเพลงที่ร้องกันในหมู่แฟนบอลวีแกนกลายเป็นว่า ทีมชาติไอร์แลนด์เหนือก็เอามาร้องด้วย จนชาติอื่นๆเริ่มเอาตาม วิลล์ กริ๊กก์ส อาจไม่ได้ลงสนามซักนัด ทว่าชื่อของเจ้าตัวกลายเป็นตำนานกับยูโรหนนี้ที่แฟนบอลไม่มีวันลืมเลือน

3. "Thunder Viking Clap"

ไอซ์แลนด์ไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจในสังเวียน หากแต่นอกสนามแฟนบอลพวกเขายังสร้างความตราตรึงเช่นกัน ท่าปลุกเร้าชูมือขึ้นก่อนตบมือหลังเกมทุกครั้งที่จบแมตช์ กลายเป็นเอกลักษณ์ของชนชาติที่มีประชากรเพียงหยิบมือนี้ นี่คืออีกหนึ่งสีสันที่สุดเข้าท่า กระทั่งแฟนบอลของชาติอย่างฝรั่งเศส และ เวลส์ ยังเอาเป็นต้นแบบ

4. พ่อพระที่ชื่อ "ปาเยต"

นี่คือทัวร์นาเมนต์แจ้งเกิดของสตาร์เวสต์แฮมอย่างแท้จริง ปาเยตก้าวขึ้นมาเป็นดาวดวงใหม่ของฝรั่งเศสได้อย่างสง่าผ่าเผย ทว่าเหตุการณ์ที่ทำให้เจ้าตัวถูกจดจำมากที่สุด เห็นจะเป็นเกมแรกในแมตช์ที่ลงเล่นนัดเปิดสนามกับโรมาเนีย

ในขณะที่ชาติเจ้าภาพกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ตีบตันจากการเสมอ 1-1 แต่แล้วช่วงท้ายเกม แข้งวัย 29 ปีกลับกลายเป็นฮีโร่ของคนทั้งชาติ ด้วยการกระชากไปซัดประตูชัยให้ทีมเฉือน 2-1 นำมาซึ่งการกรุยทางสู่รอบชิงฯในเวลาต่อมา

5. อันธพาลลูกหนัง

ไม่มีอะไรที่เพอร์เฟคและสวยหรู ในมุมดีๆที่บังเกิดยูโรหนนี้กลับเต็มไปด้วยความด่างพร้อยกับการไม่สามารถคุมอันธพาลลูกหนังได้ แมตช์ระหว่าง อังกฤษ พบ รัสเซีย คือหนึ่งในเกมที่สุดเถื่อนครั้งหนึ่งเท่าที่เคยบังเกิดยูโร แฟนบอลทั้งสองไล่หวดกันไม่ยั้งอันเป็นเครื่องตอกย้ำว่า ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย “ฮูลิแกน” ก็ไม่เคยหมดไปจากโลกฟุตบอล

6. ม้ามืดที่ชื่อ "เวลส์"

หากเทพนิยายแดนน้ำแข็งทำให้เราต้องทึ่ง เรื่องราวของเวลส์ก็ทำให้เราต้องเซอร์ไพรส์เช่นกัน ไม่มีใครคาดคิดว่า ทีมเล็กๆอย่างมังกรแดงจะสามารถกรุยทางเข้าไปถึงรอบรองฯ ทีมเวิร์คอันยอดเยี่ยมบวกกับเกมรับอันมีวินัย ทำให้เวลส์ชุดนี้ได้รับการโค้งคารวะ นี่คือม้ามืดตัวจริงประจำทัวร์นาเมนต์นี้

7. เกมยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์

ในศึกครั้งใหญ่ที่เต็มไปด้วยสกอร์อันจืดชืด มีอยู่เกมหนึ่งที่สร้างความระทึกระดับ 5 ดาวให้กับผู้รับชม เกมระหว่าง ‘โปรตุเกส-ฮังการี’ คือแมตช์ ออฟ เดอะ ทัวร์นาเมนต์ ชนิดที่ส่งเข้าประกวดได้อย่างสบายๆ

มันเป็นเกมที่ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ระเบิดฟอร์ม อีกทั้งยังเป็นแมตช์ที่ใส่กันไม่ยั้ง ผลสกอร์ 3-3 ในเกมนี้ยังทำให้โปรตุเกสจากร่อแร่กลายเป็นทะลุเข้าชิงฯอย่างเหลือเชื่ออีกด้วย

8. นักสับที่ชื่อ "ซาซ่า"

หลังถูกเปลี่ยนตัวในนาทีสุดท้ายของช่วงต่อเวลาเพื่อส่งลงมายิงจุดโทษ ทว่าท้ายที่สุด ซิโมเน่ ซาซ่า กลับทำหน้าที่ที่ได้รับพลาดอย่างน่าผิดหวัง ความฮาจะไม่บังเกิด หาก ซาซ่า ไม่โชว์ลีลาการสับขารัวๆประหนึ่งวิ่งมาราธอน

แข้งจากยูเวนตุสทำท่าสับขาหมายหลอกผู้รักษาประตูให้หลง แต่แล้วกลายเป็นเจ้าตัวที่ยิ่งข้ามคานไปเสียเอง แน่ล่ะว่าถ้าลูกนี้เข้าจะกลายเป็นดูเท่ ทว่าเมื่อพลาดพลั้งย่อมเป็นธรรมดาที่หลังเกมจะมีคนตัดต่อภาพไปล้อโดยปริยาย

9. นักวอลเล่ย์บอลที่ชื่อ "บัวเต็ง"

อีกหนึ่งสีสันที่โดนล้อบนโลกโซเชี่ยลอย่างล้นหลาม! ในแมตช์ที่เยอรมัน พบกับ อิตาลี ขณะที่สถานการณ์เป็นต่อ เจโรม บัวเต็ง กลับสร้างความตกตะลึงให้กับแฟนบอลในประเทศ ด้วยการกางแขนออกมามันดื้อๆ จนส่งผลให้ทีมต้องเสียจุดโทษ

จากสกอร์ที่ออกนำกลับกลายเป็นเท่ากัน และนั่นทำให้เยอรมันต้องไปเหนื่อยในช่วงลุ้นจุดโทษแทนที่จะจบใน 90 นาที แม้สุดท้ายจะรอดกลับมาได้ ทว่าหลังเกม บัวเต็ง ไม่แคล้วจับมือกับซาซ่าโดนแฟนบอลตัดต่อภาพแซวกันยกใหญ่ชนิดได้แต่เอาปี๊ปคลุมหัว

10. "เลิฟจอมล้วง"

ถ้าจะมีโค้ชคนไหนที่สร้างสีสันให้กับยูโรหนนี้ได้มากที่สุด คงไม่มีใครเกิน ‘โยอาคิม เลิฟ’ อีกแล้ว! ภายหลังสร้างวีรกรรมแคะขี้มูกเมื่อ 2 ปีก่อนในฟุตบอลโลก กุนซือคนเก่งยังมิวายสร้างช็อตสุดฮาด้วยการเอามือล้วงเข้าไปในกางเกงของตน ก่อนจะจบด้วยการเอามาดมแบบหน้าตาเฉย

นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ทว่ามีสองช็อตที่กล้องจับภาพได้ บางทีเลิฟอาจกำลังติดใจในรสชาติของตนเองอะไรบางอย่าง ฤาบางทีนี่อาจเป็นเคล็ดลับพาทีมทะลุเข้ารอบลึกตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ได้ใครจะรู้!

ตุงตาข่าย by มาสเตอร์ ริท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook