John Morrison ตัวพ่อจอมผยองคลอด “Johnny Mundo” คาแรกเตอร์ใหม่

จอห์น มอร์ริสัน (John Morrison) หรือ จอห์นนี่ นิทโทร (Johnny Nitro) นักมวยปล้ำจอมผยองแห่ง WWE เตรียมคลอดคาแรกเตอร์ใหม่ในชื่อ จอห์นนี่ มันโด้ (Johnny Mundo) ให้ตัวเองโดยเฉพาะสำหรับลุยปล้ำบนสังเวียน Lucha Underground  เรียลลิตี้ลูกผสมซีรีส์โทรทัศน์ ฝีการสร้างสรรค์ของ มาร์ค เบอร์เนต พ่อมดแห่งวงการโทรทัศน์อเมริกันที่ได้นำรูปแบบของซีรีส์โทรทัศน์มาผนวกเข้ากับ ลูช่า ลิเบร (Lucha libre) กีฬามวยปล้ำฟรีสไตล์ของเม็กซิโก โดยได้ โรเบิร์ต โรดริเกวซ ผู้กำกับหนังจอมห่าม (From Dusk till Dawn, Once Upon a Time in Mexico, Sin City, Machete) ที่จะมาร่วมพลิกมิติโชว์มวยปล้ำครั้งใหญ่จากการอยู่ในช่วงซบเซาด้วยลูกบ้าที่แม้แต่คนที่ไม่ใช่แฟนมวยปล้ำก็ยังอยากดู ช่อง KIX แหล่งรวมความบันเทิงแนวแอคชั่นสุดระห่ำได้ฤกษ์นำมาออกอากาศทุกวันจันทร์ เวลา 20.00 น. เริ่มจันทร์ที่ 25 เมษายน นี้

1.เส้นทางการผจญภัยการเป็นนักมวยปล้ำของคุณเป็นอย่างไร
มันทำให้ผมได้เดินทางมาแล้วทั่วโลก ผมได้ใส่ชุดมวยปล้ำที่รัดและสีสันแสบทรวง หลายคนเรียกผมว่า “ร่างทรงความเซ็กซี่” หรือ “ตัวพ่อของตัวพ่อ” และอีกหลายชื่อที่คนต่างขนาดนานให้ แต่ไม่มีชื่อไหนจะเจ๋งเท่า 2 ชื่อนี้  มาถึงตอนนี้ผมก็พูดได้เลยว่ามันเป็นอะไรที่เกินคาด ผมฝันอยากเป็นนักมวยปล้ำมาตลอด ผมบ้าพลังเล่นปล้ำกับเพื่อนเป็นวรรคเป็นเวร แล้วดูสิ ตอนนี้ผมได้เป็นนักมวยปล้ำมืออาชีพแล้ว ช่างโชคดีซะจริงๆ

2.ไอดอลนักมวยปล้ำของคุณคือใคร
ตอนผมยังเด็กผมชอบดูมวยปล้ำเป็นชีวิตจิตใจ ตอนนั้นผมอยากเป็นเหมือน Hulk Hogan หรือ ซูเปอร์แมน แต่พอรู้ว่า ซูเปอร์แมน ไม่มีจริงผมเลยหันไปหา Hulk Hogan แทน (หัวเราะ) แต่พอผมโตขึ้นหน่อยก็หันไปเทใจให้ Shawn Michael และ Roddy Piper เลยนะ เพราะพวกเขาคือที่สุดของผมโคตรๆแล้วในเวลานั้น

3.เตรียมตัวอย่างไรให้พร้อมขึ้นสังเวียนตลอดเวลา
ผมยึดหลักการฝึกฝนหลากหลายรูปแบบ ผมเชื่อว่ามันมีที่ให้เราฝึกร่างกายหมดแหละ ไม่ว่าจะแบบไหน ผมทำหมดไม่ว่าจะวิ่ง กระโดด ผลัก ดึง บิด เท่าที่ร่างกายมนุษย์จะทำได้ ผมเชื่อว่านักมวยปล้ำก็เป็นนักกีฬาประเภทหนึ่ง แล้วทำไมถึงจะไม่ฝึกอย่างนักกีฬาล่ะ ซึ่งในแต่ละวันที่ผมฝึก ผมจะฝึกเพื่อเอาร่างกายไว้ใช้งานในอาชีพและเพื่อความคล่องตัวอยู่แล้ว
ในการฝึกของผมนั้น ผมได้สร้างโปรแกรมฟิตเนสแบบฉบับผมชื่อว่า Out of Your Mind เป็นการออกกำลังเข้มข้นที่มีระดับความยากง่ายถึง 5 ระดับ ผมใช้มัน 5-6 วันต่อสัปดาห์แถมบวกพวกการฝึกทักษะบางอย่างเข้าไปอีก 3 วันต่อสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นมวย หรือพวก MMA ที่สำคัญเลยต้องให้ความสำคัญกับการยืดหยุ่น อบอุ่นร่างกายอย่างเหมาะสม พร้อมๆกับรู้ว่าขีดจำกัดของร่างกายของเราเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ

4.พูดถึงความรู้สึกที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ Lucha Underground
ผมทำหนังมาก่อนสมัยที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัย ตอนนั้นผมฝันอยากทำหนังแอคชั่นมาก มาวันนี้ Lucha Underground ให้โอกาสผมได้เป็นส่วนหนึ่งของความบ้าระห่ำที่ผมชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แถมยังมีความเป็น  Robert Rodiguez  ผู้กำกับบ้าพลังที่ใครๆก็รู้จักใส่อยู่ในตัวโชว์เข้าไปอีก

อีกอย่างต้องบอกว่าผมไม่เคยเจอสังเวียนที่ต้องเตรียมสติให้รวดเร็วและโหดพร้อมตั้งรับเท่ารายการนี้มาก่อน มันเป็นอะไรที่ท้าทายทั้งร่างกายและจิตใจมาก ผมเลยต้องสร้างคาแรกเตอร์ให้กับตัวเองขึ้นมาใหม่ภายใต้ชื่อ จอห์นนี่ มันโด้ เพื่อรายการนี้โดยเฉพาะ และแน่นอนไอ้มันโด้นี่แหละต้องคว้าแชมป์ให้ได้

5.ตัวตนของ John Morrison แตกต่าง Johny Mundo อย่างไร
แน่นอนว่าไอ้มันโด้พูดภาษาสเปน ผมพัฒนาคาแรกเตอร์ Johny Mundo ขึ้นมาเพื่อ Lucha Underground โดยเฉพาะ ผมเคยถูกขนานนามว่าเป็นไอ้เปรตประจำสังเวียน จริงๆมันก็เจ๋งดีอยู่แล้ว แต่ผมอยากให้ไอ้มันโด้มันมีด้านมืดและป่วงกว่าที่เคยเป็นอีกมาก และ Lucha Underground นี่แหละ ที่เปิดทางให้ผมได้เพิ่มความวายป่วงใส่เข้าไปยิ่งกว่าตอนที่เป็น จอห์น มอร์ริสันอีก และสิ่งที่คุณจะได้เห็นในรายการนี้ก็คือไอ้มันโด้ที่ค่อยๆเลวขึ้นเรื่อยๆและสมควรถูกเรียกว่าไอ้เปรตประจำสังเวียนแบบไม่มีข้อกังขาเลยล่ะ  

6.มีวิธีจัดการกับตัวเองอย่างไร ที่ต้องพูดทั้งภาษาสเปนและภาษาอังกฤษในรายการ
ส่วนใหญ่นักมวยปล้ำลูช่า ลิเบรก็พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจึงต้องฝึกเรื่องภาษากันหนักพอดู แต่สำหรับผมไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ เพราะผมเกิดที่อเมริกาและเรียนภาษาสเปนตั้งแต่ตอนเรียนไฮสคูล ไปเที่ยวที่สเปนก็บ่อย ผมเลยพูดได้ทั้ง 2 ภาษา อ้อ! ผมเคยคบกับสาวเม็กซิกันอยู่หลายปีด้วยนะ (หัวเราะ) หลักๆก็คงเป็นเรื่องอารมณ์ที่รุนแรงและชัดเจน เพราะคนดูต้องการเห็นเราแสดงมันออกมาชัดเจนและรู้สึกตามไปกับเราด้วย

7.ความรู้สึกเมื่อต้องประจัญบานกับตัวพ่อ Lucha Underground คนอื่นๆ
รายการนี้คือศูนย์รวมความวายป่วงทุกประเภท โชคดีที่ Lucha Underground เปิดโอกาสให้หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นบนสังเวียน ผมได้ King Cuerno,  Fenix , Prince Puma และ Son of Havoc มาลับคมทักษะของผม ไม่ว่าจะท่วงท่าหรือวิธีจู่โจมก็ล้วนแตกต่างกันทั้งสิ้น แต่แมทช์ที่ผมจะจำไปจนตายเลยก็คือตอน  All Night Long ที่ต้องงัดกับ Prince Puma ซึ่งเป็นอะไรที่เป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของรายการนี้ เพราะมันมีทั้งเรื่องราว มีแอคชั่น และการ High Flying ผมต้องงัดทุกทักษะที่มีมาสู้ บอกเลยว่าเป็นแมทช์ที่มีอะไรให้พูดถึงเยอะมาก

8.อะไรที่ทำให้ Lucha Underground แตกต่างจากสังเวียนอื่นๆ
โลกของ Lucha Underground เต็มไปด้วยความดาร์ค ลึกลับซับซ้อนและบางครั้งก็เหมือนจะมีเรื่องอภินิหาร ทางรายการตั้งใจให้คาร์แรคเตอร์ต่างๆในรายการนั้นดาร์คและมีความซับซ้อนกว่าที่สังเวียนไหนจะทำได้ การพัฒนาและปรับคาแรคเตอร์ช่วยขับเคลื่อนอะไรต่อมิอะไรให้เกิดขึ้นบนสังเวียน  นักมวยปล้ำรายการอื่นนั้นสู้เพื่อเกียรติยศ แก้แค้นหรือเพื่อชัยชนะ แต่ Lucha Underground เราขายความสมจริงด้วยเรื่องราวที่มาที่ไป บางเรื่องก็เก่าแก่เป็นร้อยปี และคาแรคเตอร์ของแต่ละคนที่โดดเด่นไม่แพ้กัน

9.สิ่งที่ผู้ชมจะได้เห็นใน Lucha Underground
Lucha Underground เป็นรายการมวยปล้ำที่แตะถึงขีดสุดของความเป็น สปอร์ต เอนเตอร์เทนเมนท์ ที่ไม่เหมือนกับรายการที่คุณเคยดูมาก่อนแน่นอน เพราะคนดูจะได้ความตื่นเต้น ได้ดูการต่อสู้ MMA ที่ผสานเอาความเชื่อโบราณของชาวเม็กซิกัน ความดราม่าแบบหมิ่นเหม่ศีลธรรม และเรื่องลี้ลับ นอกจากนี้คอมเมนเตเตอร์ข้างสังเวียนอย่าง Matt Striker และ Vampiro ก็คอยพากย์เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับกีฬาลูช่า ลิเบรและที่มาของท่าต่างๆ ราวกับว่าคุณกำลังดูซีรีย์โทรทัศน์ที่มีมวยปล้ำและความลี้ลับเป็นพลอตเรื่อง อย่างนี้ยังไม่น่าดูอีกเหรอครับคุณ!?

เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมเพื่อพบกับตัวตนใหม่ของนักสู้จอมผยองผู้นี้ไปพร้อมๆกับรูปแบบรายการที่แม้แต่คนที่ไม่ใช่แฟนมวยปล้ำก็ยังอยากดู ติดตาม  Lucha Underground ที่แรกที่เดียวในเมืองไทย ทางช่อง KIX ทุกวันจันทร์ เวลา 20.00 น. เริ่มจันทร์ที่ 25 เมษายน นี้